ระบบ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไร มาดูการเปรียบเทียบระหว่างระบบปฏิบัติการโทรศัพมือถือ iPhone vs Android อะไรจะดีกว่ากัน
ภาพจาก : shutterstock.com / Tada Images
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือจะมีแบ่งออกเป็น 2 ระบบปฏิบัติการหลัก ๆ คือ iOS และ Android ซึ่งแต่ละระบบต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป สำหรับบางคนที่กำลังจะเปลี่ยนมือถือใหม่ และอาจลังเลหรือตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้ iPhone ที่เป็นระบบ iOS หรือใช้มือถือ Android ดี วันนี้เราจึงรวมข้อมูลเกี่ยวกับจุดเด่นหลัก ๆ มาเปรียบเทียบให้ดูกันว่าระบบ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไร และมีข้อดีจุดเด่นอะไรบ้าง
จุดเด่นของ iOS
ภาพจาก : apple.com
1. ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลได้ดี
สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Mac, iPad หรือ Apple Watch การเลือกใช้ iPhone ก็จะช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ดังกล่าวได้สะดวกขึ้น เนื่องจากแอปเปิลได้ออกแบบระบบมาให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แถมยังใช้งานได้คล่องและถนัดโดยไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวมากนัก
2. แอปฯ (บางส่วน) ใช้งานลื่นไหลกว่า
เนื่องจาก iPhone มีเพียงยี่ห้อเดียวและมีแค่ไม่กี่รุ่น ทำให้การพัฒนาแอปฯ ออกมารองรับระบบปฏิบัติการ iOS นั้นทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่า หลาย ๆ แอปฯ จึงใช้งานได้ลื่นไหลและพบบั๊กน้อยกว่าบนระบบ Android ที่มีอุปกรณ์หลากหลายยี่ห้อสารพัดรุ่น ซึ่งพัฒนาแอปฯ มาให้เสถียรได้ยากกว่า
3. การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่รวดเร็วสม่ำเสมอ
เนื่องจาก iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่แอปเปิลเป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด จึงมีการอัปเดตระบบ (รวมถึงการอัปเดตแอปฯ ต่าง ๆ) ที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ เมื่อพบบั๊กหรือช่องโหว่ใด ๆ ก็จะมีอัปเดตออกมาแก้ในไม่ช้า แถม iPhone แต่ละรุ่นก็จะได้อัปเดตค่อนข้างยาวนานหลายเวอร์ชั่น ซึ่งต่างจาก Android ที่การอัปเดตขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตมือถือยี่ห้อนั้น ๆ แถมในแต่ละรุ่นก็ได้รับการอัปเดตและการสนับสนุนที่แตกต่างกันไป
4. มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูงกว่า
iOS เป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งแอปฯ จากนอก App Store เองได้ อีกทั้งแอปฯ ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาอยู่ใน App Store ได้นั้นจะต้องผ่านการคัดกรองของแอปเปิลอย่างเข้มงวดมากกว่า Google Play Store ของฝั่ง Android จึงทำให้ iOS มีความปลอดภัยที่สูงกว่า เสี่ยงเจอมัลแวร์หรือแอปฯ ปลอมได้น้อยกว่านั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยแจ้งเตือนการติดตามการใช้งานของแอปฯ ต่าง ๆ เพื่อช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
5. หาซื้ออุปกรณ์เสริมได้ง่าย
การหาซื้ออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ โดยเฉพาะเคส iPhone นั้นสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่ามือถือ Android และมีให้เลือกหลากหลายกว่า ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก iPhone นั้นมีเพียงยี่ห้อเดียวและแบ่งออกเป็นไม่กี่รุ่น จึงง่ายต่อการผลิตอุปกรณ์เสริมออกมารองรับนั่นเอง
ข้อสังเกตของระบบ iOS
1. ความไม่สะดวกในการถ่ายโอนไฟล์กับอุปกรณ์ระบบอื่น
ในการส่งหรือแชร์ไฟล์ระหว่าง iOS กับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบอื่น ๆ อย่าง Android หรือคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows นั้น จะไม่สามารถถ่ายโอนไฟล์ผ่าน USB หรือ Bluetooth โดยตรงได้ แต่จำเป็นจะต้องมีการติดตั้งแอปฯ อื่น ๆ เพิ่มเติม หรืออาจใช้การแชร์ฝ่ายแบบออนไลน์ผ่านระบบ Cloud แทน
2. พอร์ต Lightning
ถึงแม้ว่า iPhone รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันจะเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว แต่สำหรับ iPhone รุ่นเก่าที่ยังคงใช้พอร์ต Lightning เป็นหลักอยู่ จะส่งผลให้การใช้สายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มักจะต้องใช้แบบที่เป็นพอร์ต Lightning เท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกับของมือถือ Android ที่เป็น USB Type-C ได้
3. iPhone มีราคาค่อนข้างสูง
หากต้องการจะใช้มือถือที่เป็นระบบ iOS นั้น ก็จำเป็นจะต้องซื้อ iPhone มาใช้เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับมือถือ Android ทั่วไปแล้ว จะมีจำนวนรุ่นให้เลือกน้อยกว่า และมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับคนงบน้อยที่อยากได้โทรศัพท์มือถือราคาประหยัด
4. ค่าสมัครบริการแอปฯ ต่าง ๆ ที่แพงกว่า
การซื้อแอปฯ หรือสมัครบริการเสริมของแอปฯ ต่าง ๆ ไปจนถึงการเติมเงินเกมบน iOS นั้นมักจะมีราคาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับบน Android ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก Apple มีการเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้เพิ่มเติมนั่นเอง
จุดเด่นของ Android
ภาพจาก : android.com
1. มีมือถือให้เลือกซื้อหลากหลายกว่า
นอกจาก iPhone ของแอปเปิลแล้ว มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android แทบทั้งหมด จึงทำให้ผู้ใช้ Android มีตัวเลือกที่หลากหลาย มีตั้งแต่มือถือรุ่นราคาประหยัดไปจนถึงรุ่นระดับเรือธง รวมทั้งรุ่นที่พับหน้าจอได้ หรือรองรับปากกา ชอบดีไซน์แบบไหน สเปกยังไง ก็มีให้เลือกตามต้องการ แถมมือถือ Android หลาย ๆ รุ่นก็ยังสามารถใส่ microSD เพื่อเพิ่มความจุได้อีกด้วย
2. ปรับแต่งและใช้งานได้อิสระกว่า
เนื่องจาก Android เป็นระบบแบบเปิด ที่บริษัทผู้ผลิตมือถือและผู้พัฒนาต่าง ๆ สามารถปรับแต่งระบบเองได้ รวมทั้งตัวผู้ใช้ก็สามารถใช้งานได้อิสระมากกว่า iOS อย่างเช่นสามารถเชื่อมต่อกับ PC ที่เป็น Windows ได้ง่าย ถ่ายโอนไฟล์กับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้สะดวกกว่า นอกจากนี้ฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างก็มักจะมีให้ได้ใช้งานใน Android ก่อนที่จะมีใน iOS อีกด้วย
3. ติดตั้งแอปฯ นอก Store หลักได้
มือถือรวมทั้งแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถติดตั้งแอปฯ นอก Google Play Store ได้อย่างง่ายดายในรูปแบบของไฟล์ APK ทำให้มีช่องทางในการเลือกและติดตั้งแอปฯ หลากหลายมากกว่าฝั่ง iOS (แต่ก็ต้องระวังเจอมัลแวร์ด้วยนะ)
4. ใช้พอร์ต USB Type-C
ในขณะที่ iPhone จนถึงปัจจุบันยังคงใช้พอร์ต Lightning เป็นหลักอยู่ แต่มือถือ Android ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้พอร์ต USB Type-C เหมือนกันหมด ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า รวมทั้งใช้สายชาร์จร่วมกันได้อีกด้วย
ข้อสังเกตของระบบ Android
1. ความเสถียรในการใช้งาน
ความลื่นไหลและความเสถียรในการใช้งานของระบบ Android รวมทั้งแอปฯ ต่าง ๆ นั้น อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่น เนื่องจากมีสเปกและระบบที่ถูกปรับแต่งจากบริษัทผู้ผลิตมือถือไม่เหมือนกัน ทำให้การพัฒนาแอปฯ ออกมาให้สามารถใช้งานบนมือถือทุกรุ่นได้เสถียรนั้นทำได้ยากกว่า
2. การสนับสนุนและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
หากผู้ใช้มือถือ Android พบปัญหาใด ๆ ในการใช้งาน บริการช่วยเหลือสนับสนุนหรือความรวดเร็วในการออกอัปเดตเพื่อแก้ไขปัญหา อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแต่ละยี่ห้อ
3. เสี่ยงโดนมัลแวร์สูงกว่า
เนื่องจาก Android นั้นเป็นระบบเปิด และสามารถติดตั้งแอปฯ จากนอก Google Play Store ได้ จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงโดนไวรัสและมัลแวร์เล่นงานได้สูงกว่า iOS
นอกจากจุดเด่นและข้อดีต่าง ๆ ของแต่ละระบบปฏิบัติการที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกันก็คือแอปฯ ที่มีให้ใช้บนแต่ละระบบ ซึ่งบางแอปฯ หรือบางเกมก็อาจมีเฉพาะบน iOS แต่บางแอปฯ ก็มีแต่บน Android จึงไม่สามารถฟันธงได้ว่าของระบบไหนจะดีกว่ากัน กรณีนี้คงต้องพิจารณากันตามความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน รวมถึงความชื่นชอบในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามหรือปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนั่นเอง
บทความโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ซื้อโทรศัพท์ใหม่ เช็กอะไรบ้าง สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
- ซื้อเครื่องเปล่า กับ เครื่องติดโปร แบบไหนคุ้มกว่า ?
- โทรศัพท์มือสอง มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ควรซื้อดีหรือไม่ ?
- ซื้อโทรศัพท์มือสอง ต้องเช็กอะไรบ้าง จะได้ไม่พลาด
- โทรศัพท์เล่นเกม ควรดูสเปกอะไรบ้าง ?
ขอบคุณภาพจาก : apple.com, android.com