วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร ต้องทำยังไง ?

          วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร หากเจอเบอร์แปลกโทร. มา แต่ไม่รู้ว่าเป็นมิจฉาชีพไหม วันนี้เรามีวิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพง่าย ๆ มาฝากกัน

วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์

          ไม่ว่าใครก็น่าจะต้องเคยเจอกันมาบ้าง เมื่อมีสายโทร. เข้าแล้วพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก บางครั้งก็ไม่ได้รับสายและไม่แน่ใจว่าจะควรจะโทร. กลับดีไหม เพราะไม่รู้ว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือของใคร ซึ่งความจริงแล้วเราสามารถเช็กได้ไม่ยาก ด้วยวิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร
 

1. ค้นหาใน Google

          นำเบอร์โทร. ไปค้นหาใน Google อาจเจอข้อมูลที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นเบอร์ของใคร เช่น เป็นเบอร์ของธนาคาร ผู้ให้บริการและองค์กรต่าง ๆ หรืออาจเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ

2. ค้นหาใน Facebook

          ในกรณีที่เบอร์นั้นเป็นของบุคคลทั่วไปและมีการผูกไว้กับบัญชี Facebook ถ้าเรานำเบอร์ไปค้นหาใน Facebook ก็จะสามารถเจอหน้าโปรไฟล์ของเจ้าของเบอร์นั้น ๆ ได้ทันที แต่ถ้าหากเจ้าของเบอร์ไม่ได้ตั้งให้แสดงเบอร์โทร. บน Facebook เป็นแบบสาธารณะ (Public) ก็อาจจะค้นหาไม่เจอ

3. ค้นหาใน LINE

          เปิดแอปฯ LINE แล้วเข้าไปที่หน้า แอดเพื่อน จากนั้นเลือกแอดจากเบอร์โทร. เมื่อกรอกแล้วกดค้นหาก็จะเจอชื่อ LINE ที่ผูกกับเบอร์นั้น ๆ ไว้นั่นเอง

4. เช็กเบอร์ใครโทร. มา Whoscall

          แอปฯ ที่จะแสดงข้อมูลให้ดูทุกครั้งเมื่อมีสายโทร. เข้า ว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นเบอร์ของใครหรือหน่วยงานใด โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลที่ผู้ใช้แอปฯ ร่วมกันรายงานเข้าไป และถ้าหากเป็นเบอร์ไม่พึงประสงค์ก็จะสามารถเลือกบล็อกเบอร์นั้น ๆ ได้ทันที ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ มาใช้ได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS

5. โทร. กลับไปถาม

          วิธีการโทร. กลับไปตรง ๆ เลยน่าจะถือว่าเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาและง่ายที่สุด แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าสิ่งที่ปลายสายตอบมานั้นเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และไม่แนะนำให้ใช้สำหรับเช็กเบอร์โทรศัพท์ต่างประเทศ เพราะอาจทำให้เสียค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศที่แพงกว่าปกติได้ นอกจากนี้ ถ้าหากโทร.กลับไปแล้วไม่ติด สายถูกตัดทันที จะโทร. กี่ครั้งก็ไม่สามารถโทร. ได้ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าน่าจะเป็นของมิจฉาชีพ เนื่องจากมิจฉาชีพมักจะใช้เครื่องอุปกรณ์พิเศษในการโทร. ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ปกตินั่นเอง

เช็กกับผู้ให้บริการเครือข่ายได้หรือไม่

          โดยทั่วไปแล้วเราจะไม่สามารถเช็กกับผู้ให้บริการเครือข่ายได้ว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นของใคร จดทะเบียนชื่ออะไร เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางผู้ให้บริการไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกเสียจากว่าจะเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือผู้กระทำผิดกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการติดต่อเพื่อตรวจสอบกับทางเครือข่ายเท่านั้น แต่อย่างน้อยเราก็ยังสามารถเช็กด้วยตัวเองได้ว่าเบอร์นั้น ๆ ใช้เครือข่ายอะไร โดยสามารถดูวิธีได้ที่ : วิธีเช็กเครือข่ายเบอร์ปลายทาง ต้องทำยังไงบ้าง ?

เบอร์ +697, +698 คือเบอร์อะไร

          โดยทั่วไปแล้วเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย + จะเป็นเบอร์ที่โทร. จากต่างประเทศ แต่สำหรับใครที่สงสัยว่า +698 และ +697 เบอร์ประเทศอะไรนั้น ปัจจุบันไม่มีประเทศใดที่ใช้รหัสประเทศเป็นหมายเลขนี้เป็นหลัก จึงไม่สามารถระบุประเทศของปลายสายอย่างแน่ชัดได้ และเนื่องจากในปัจจุบันการติดต่อระหว่างประเทศมักจะนิยมใช้ช่องทางออนไลน์มากกว่าที่จะติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ ทำให้สายที่โทร. จากต่างประเทศส่วนใหญ่ที่พบเจอกันมักจะเป็นมิจฉาชีพ โดยเฉพาะเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 หรือ +698 ที่มีโอกาสพบเจอได้บ่อยและต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นเบอร์ที่โทร. ผ่านระบบ VoIP (การโทร. ผ่านอินเทอร์เน็ต) หรือผ่านบริการโรมมิ่งจากต่างประเทศ ที่ปลายสายสามารถจำลองหรือปลอมแปลงให้แสดงเป็นหมายเลขใดก็ได้

วิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพ

วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์

          มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกมิฉาชีพโทร. มาหลอกลวงด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้ติดตั้งแอปฯ ดูดเงินที่ฝังมัลแวร์ หรือหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ด้วยการใช้คำพูดขู่ให้เหยื่อรีบโอน ซึ่งมีวิธีสังเกตได้ไม่ยาก ขอเพียงแค่มีสติ อย่าเพิ่งรีบโอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเป็นเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสโทรศัพท์แปลก ๆ อย่างเช่นเบอร์ต่างประเทศที่มีเครื่องหมายบวก (+) นำหน้า ซึ่งหากสายปลายทางอ้างว่าติดต่อมาจากหน่วยงานใด แนะนำให้บันทึกเสียงโทรศัพท์ไว้เป็นหลักฐาน แล้วนำเบอร์โทร. ดังกล่าวไปเช็กด้วยวิธีด้านบนเสียก่อนว่าใช่จริง ๆ หรือไม่ อาจลองค้นหาเบอร์ของหน่วยงานนั้น ๆ แล้วโทร. ไปสอบถามโดยตรง หรือปรึกษาคนรู้จัก และแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าเพิ่งรีบโอน !!

เว็บไซต์ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ เช็กได้ไหม ?

          หากใครต้องการเช็กว่าเบอร์แปลก ๆ ที่โทร. มาหาเรานั้นเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ อาจลองนำเบอร์ไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ Blacklistseller ดู ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขบัญชี และรายละเอียดต่าง ๆ ของมิจฉาชีพเอาไว้ โดยถ้าหากมิจฉาชีพใช้เบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียนเปิดบัญชี PromptPay หรือ TrueMoney เอาไว้และมีอยู่ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ ก็จะสามารถตรวจสอบเจอได้ เนื่องจากหมายเลขบัญชี PromptPay และ TrueMoney มักจะเป็นหมายเลขเดียวกับเบอร์โทรศัพท์นั่นเอง

เผลอรับสายมิจฉาชีพ จะเป็นอะไรหรือไม่ ?

          เมื่อใดก็ตามที่รับสายเบอร์แปลกแล้วสงสัยว่าอาจจะมิจฉาชีพ หลายคนก็อาจเกิดความกังวลว่าจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายใด ๆ อย่างเช่นการถูกดูดเงินหรือไม่ เบื้องต้นก็คงต้องบอกว่า หากเพียงแค่รับสายแล้วมีการพูดคุยเฉย ๆ แต่ไม่ได้บอกข้อมูลสำคัญหรือทำอะไรตามที่มิจฉาชีพบอกให้ทำ ก็ไม่น่าจะมีความเสี่ยงใด ๆ จนถึงกับต้องเป็นกังวล โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : รับสายแล้วโดนดูดเงิน เป็นไปได้ไหม เผลอรับสายมิจฉาชีพทำไงดี ?

          ทั้งนี้ สำหรับใครที่เจอคนโทร. มารบกวนหรือเป็นมิจฉาชีพ ก็สามารถบล็อกเบอร์มิจฉาชีพได้ด้วยการบล็อกเบอร์โทรศัพท์เพื่อไม่ให้ติดต่อเรามาได้อีก หรืออาจจะบล็อกเบอร์ต่างประเทศไปเลยก็ได้หากไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกับใครนอกประเทศอยู่แล้ว

บทความโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ

          - วิธีบล็อกเบอร์โทรศัพท์ง่าย ๆ ไม่ให้โทร. มารบกวน
          - วิธีเช็กเครือข่ายมือถือปลายทาง กดแล้วรู้ทันที !
          - 5 วิธีบล็อกเบอร์มิจฉาชีพ ช่วยลดโอกาสถูกโทร. มาก่อกวน
          - ใครลืมเบอร์โทรศัพท์ตัวเอง ดูวิธีเช็กได้ที่นี่ !
          - วิธีบล็อกเบอร์ต่างประเทศ ลดปัญหามิจฉาชีพโทร. มากวนใจ
          - ไขข้อข้องใจ +697 คือเบอร์ประเทศอะไร ใช่มิจฉาชีพไหม ?
          - เช็กเบอร์โทรศัพท์ต่างประเทศ ด้วยรหัสประเทศต่าง ๆ ว่าโทร. มาจากไหน
          - ไขข้อสงสัย รับสายมิจฉาชีพเสี่ยงโดนดูดเงินหรือไม่ ?

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร ต้องทำยังไง ? อัปเดตล่าสุด 5 กันยายน 2567 เวลา 13:44:59 4,166,073 อ่าน
TOP
x close