สิ่งที่ทุกคนควรรู้ก่อนซื้อไอโฟนมือสอง ควรซื้อที่ไหนดี ก่อนตัดสินใจซื้อต้องดูอะไรบ้าง รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของการซื้อไอโฟนมือสอง
ภาพจาก : shutterstock.com / mokjc
เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบและอยากใช้โทรศัพท์มือถือของ Apple อย่างไอโฟน แต่ก็ติดปัญหาในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับมือถือยี่ห้ออื่น ๆ เนื่องจากมีงบจำกัด การซื้อไอโฟนมือสองจึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ทำให้หลายคนสามารถเป็นเจ้าของไอโฟนได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็มีสิ่งที่จำเป็นต้องตรวจเช็กและพิจารณามากกว่าการซื้อเครื่องใหม่มือหนึ่ง เพื่อป้องกันการโดนโกงหรือถูกหลอกขาย วันนี้เราจึงจะมาช่วยให้คำแนะนำสิ่งต่าง ๆ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อไอโฟนมือสองกัน
ซื้อไอโฟนมือสอง ดีไหม ?
การซื้อไอโฟนมือสองนั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่าง ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ได้ใช้รุ่นสเปกแรงในราคาที่ถูกกว่าซื้อเครื่องใหม่มือหนึ่ง หรือไอโฟนรุ่นเก่า ๆ ที่ Apple เลิกขายแล้วก็ยังสามารถหาซื้อได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอโฟนมือสองนั้นมีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น สภาพของตัวเครื่องที่ขึ้นอยู่กับว่าถูกใช้งานมานานและหนักแค่ไหน ทำให้มีอายุการใช้งานไม่เท่ากับเครื่องมือหนึ่ง และอาจจะเป็นเครื่องที่ประกันหมดแล้วหรือเหลือประกันไม่นาน นอกจากนี้ยังต้องระวังการโดนโกงหรือนำเครื่องที่มีปัญหามาหลอกขายอีกด้วย
ซื้อไอโฟนมือสอง ที่ไหนดี ?
1. ร้านขายโทรศัพท์มือถือ
ร้านขายโทรศัพท์มือถือรายย่อยทั่วไป เช่น ร้านในห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านตู้ต่าง ๆ มักมีไอโฟนมือสองจำหน่ายอยู่ด้วย ซึ่งมีข้อดีคือ ได้เห็นและลองจับตัวเครื่องจริงพร้อมทั้งเช็กเครื่องก่อนตัดสินใจซื้อ และถ้าเครื่องมีปัญหาก็สามารถติดต่อกับร้านที่ซื้อมาได้เลย แต่หลายคนในยุคนี้อาจมองว่าไม่สะดวกเท่ากับการซื้อออนไลน์
ภาพจาก : shutterstock.com / BestPhotoPlus
2. เว็บไซต์หรือแอปฯ ขายของออนไลน์
ปัจจุบันมีเว็บไซต์หรือแอปฯ ขายของออนไลน์อยู่มากมาย ซึ่งผู้คนสามารถนำของที่ตัวเองไม่ใช้แล้วมาลงประกาศขายต่อได้ และไอโฟนก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่คนนิยมซื้อ-ขายมือสองกัน แต่ผู้ซื้อก็ควรเช็กให้ดีก่อนว่าผู้ขายมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นประวัติการซื้อ-ขาย หรือการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของสิ่งที่ขายว่าครบถ้วนและชัดเจนไหม ซึ่งในหลาย ๆ แอปฯ ก็จะมีระบบให้สามารถร้องเรียนขอคืนเงินได้ด้วยหากได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับที่ลงขายไว้
3. แพลตฟอร์มโซเชียล
นอกจากเว็บไซต์ขายของออนไลน์แล้ว บนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่างเช่น Facebook ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีผู้คนนิยมซื้อ-ขายสินค้ามือสองด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพจร้านขายโทรศัพท์มือถือหรือกลุ่มซื้อ-ขายโทรศัพท์มือสองต่าง ๆ โดยการซื้อไอโฟนมือสองใน Facebook มีข้อดีก็คือ สามารถติดต่อและเช็กประวัติจากโปรไฟล์ Facebook ของผู้ชายได้โดยตรง ว่าเป็นโปรไฟล์ที่ดูมีตัวตนหรือไม่ สมัครบัญชี Facebook มานานแล้วหรือยัง
4. ซื้อจากคนรู้จัก
การซื้อโทรศัพท์มือสองจากคนรู้จักคงจะเป็นช่องทางที่ปลอดภัยที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนสนิท เพราะไม่ต้องห่วงว่าจะโดนหลอกเอาเครื่องมีปัญหามาขายต่อ สงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเครื่องก็สามารถถามได้ตรง ๆ และไม่แน่อาจได้ในราคาที่เป็นมิตรกว่าอีกด้วย แต่ถ้าหากจะมีการต่อรองราคาก็คุยกันให้ดี ๆ ระวังอย่าให้เกิดการผิดใจกันด้วยล่ะ
ซื้อไอโฟนมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง ?
1. เปรียบเทียบราคา
อย่างแรกเลยคือควรเช็กราคาเปรียบเทียบกับเครื่องมือหนึ่งของไอโฟนรุ่นที่ซื้อว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่าหรือไม่เมื่อเทียบกับสภาพเครื่องมือสองที่จะได้ ถ้าหากเช็กแล้วโอเคก็ไปดูข้อต่อไปเลย
2. เช็กตัวเครื่องและอุปกรณ์ภายในกล่อง
เช็กรอบ ๆ ตัวเครื่องว่าอยู่ในสภาพตามที่ต้องการหรือไม่ จากนั้นเช็กอุปกรณ์ภายในกล่องว่ามีตรงกับที่ผู้ขายได้แจ้งไว้ไหม พร้อมทั้งตรวจสอบดูว่าตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมมีความเสียหายใด ๆ ไหม หากตัวเครื่องใส่เคสไว้ แนะนำให้ถอดเคสออกมาเช็กก่อน หารอยขีดข่วน รอยครูด และรอยบุบ ทั้งบนหน้าจอและรอบ ๆ ตัวเครื่อง รวมทั้งตรวจดูช่องพอร์ตชาร์จว่ามีความเสียหายหรือเศษฝุ่นเข้าไปอุดหรือไม่
3. ทดลองเปิดเครื่อง
ลองเปิดเครื่องไอโฟนดูว่าสามารถเปิดติดตามปกติหรือไม่ หากเปิดไม่ติดอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่หมด ให้ลองเสียบชาร์จดู แต่ถ้ายังคงเปิดไม่ติด หรือแบตเตอรี่ชาร์จไม่เข้า แนะนำว่าอย่าซื้อไอโฟนเครื่องนั้น นอกจากนี้หลังเปิดเครื่องติดแล้วให้ดูด้วยว่ามีการล็อกเครื่องไว้หรือไม่ หากพบว่าเครื่องล็อกอยู่ ต้องให้เจ้าของเก่าปลดล็อกแล้วล้างข้อมูลในเครื่องเสียก่อน
4. ตรวจสอบว่าเคยมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือไม่
เข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) แล้วดูที่เวอร์ชั่น iOS หากเป็นเวอร์ชั่น 15.2 ขึ้นไป ให้ดูในที่หัวข้อ ประวัติชิ้นส่วนและบริการ (Parts and Service History) ซึ่งหากชิ้นส่วนถูกระบุว่าเป็นชิ้นส่วนของแท้จาก Apple (Genuine Apple Part) แสดงว่ามีการเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นด้วยชิ้นส่วนของแท้ แต่ถ้าหากชิ้นใดถูกระบุว่าเป็นชิ้นส่วนที่ไม่รู้จัก (Unknown Part) หมายความว่าชิ้นส่วนนั้นอาจมีการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์ หรือชิ้นส่วนนั้นถูกเปลี่ยนด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของแท้ รวมทั้งอาจเคยใช้หรือติดตั้งในไอโฟนเครื่องอื่น หรือมีการทํางานผิดปกติ
ภาพจาก : apple.com
5. เช็กสุขภาพของแบตเตอรี่
สําหรับ iPhone 6 หรือรุ่นใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 11.3 ขึ้นไป จะสามารถเช็กสุขภาพแบตเตอรี่ไอโฟนได้ด้วยการเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) แต่ถ้าเป็น iOS 16.1 ขึ้นไป จะใช้ชื่อเมนูว่า สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ (Battery Health & Charging) แทน โดยจะสามารถเช็กได้ว่าปัจจุบันแบตเตอรี่มีความจุสูงสุดเท่าไร แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปแค่ไหนแล้ว แต่ถ้าหากแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ไม่ใช่ของแท้จาก Apple จะไม่สามารถดูข้อมูลในส่วนนี้ได้
6. เช็กว่าไอโฟนถูกล็อกอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่ายหรือไม่
เข้าไปที่การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) หากมีข้อความ ไม่มีการจำกัดซิม (No SIM restrictions) แสดงถัดจาก การล็อกผู้ให้บริการ (Carrier Lock) แสดงว่าไอโฟนปลดล็อกอยู่ แต่ถ้าแสดงเป็นชื่อผู้ให้บริการ แสดงว่าไอโฟนเครื่องดังกล่าวสามารถใช้กับผู้ให้บริการรายนั้นได้เท่านั้น
7. ทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ
ลองทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ ของไอโฟนว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ เช่น ลองเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ทดสอบการกดปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ทดสอบการถ่ายภาพด้วยแอปฯ กล้อง ทดสอบเสียงลำโพง ทดสอบไมโครโฟนด้วยแอปฯ บันทึกเสียง และลองปรับความสว่างของหน้าจอไอโฟนดู เป็นต้น
รู้อย่างนี้แล้วใครกำลังคิดจะซื้อไอโฟนมือสองก็อย่าลืมตรวจเช็กกันให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ เพื่อจะได้ของดีมีคุณภาพในราคาประหยัดมาใช้งานไปยาว ๆ
บทความเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- โทรศัพท์มือสอง มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ควรซื้อดีหรือไม่ ?
- ซื้อโทรศัพท์มือสอง ต้องเช็กอะไรบ้าง จะได้ไม่พลาด
- ซื้อโทรศัพท์ใหม่ เช็กอะไรบ้าง สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
- เครื่องรีเฟอร์คืออะไร สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Refurbished
- ซื้อเครื่องเปล่า กับ เครื่องติดโปร แบบไหนคุ้มกว่า ?
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : apple.com