วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ถูกต้อง กับ 5 เรื่องจริงที่คุณควรรู้ ใช้งานและชาร์จมือถือยังไงไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป มีวิธีป้องกันมือถือแบตฯ เสื่อมก่อนเวลาอันควรได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
ถึงแม้ว่าปัจจุบันแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือจะพัฒนาให้มีความจุที่สูงขึ้น ใช้ได้นานขึ้น รวมทั้งระบบชาร์จเร็วที่ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาชาร์จนานเป็นชั่วโมงเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ผู้ใช้ก็ต้องเจอกับปัญหาแบตเตอรี่หมดไวอยู่ดี แม้จะมีตัวช่วยอย่าง Power Bank ก็ตาม และก็อาจจะยังไม่อยากซื้อมือถือใหม่ ซึ่งหลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ตัวเองใช้มือถือและชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีแล้วหรือยัง เพราะถ้าหากใช้จากความเข้าใจผิด ๆ อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้ วันนี้เราจึงจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้องกัน
5 เรื่องจริงเกี่ยวกับวิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือ
1. ฟีเจอร์ชาร์จเร็วไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
มือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักรองรับการชาร์จเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในบางรุ่นสามารถชาร์จได้สูงสุดเกิน 100W เลยทีเดียว แต่หลายคนก็อาจกังวลว่าการชาร์จแบบนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นหรือไม่ เพราะต้องอัดกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตฯ มือถืออย่างรวดเร็ว ซึ่งความจริงมือถือที่รองรับส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงว่าจะกระทบต่ออายุของแบตเตอรี่เลย
หลักการชาร์จแบตเตอรี่เร็วจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกจะอัดแรงดันไฟฟ้าแบบเต็มที่ อย่างที่คำเคลมของหลายแบรนด์กล่าวไว้ว่า ชาร์จได้ 50-70% ภายใน 30-40 นาที แต่หลังจากนั้นระยะเวลาการชาร์จจะเริ่มช้าลงเพื่อช่วยถนอมแบตเตอรี่ ส่วนใครที่จับตัวเครื่องขณะชาร์จแล้วรู้สึกว่าอุ่นหรือร้อนก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะยังอยู่ในการชาร์จช่วงแรกที่ต้องอัดกระแสไฟเข้าอย่างรวดเร็วนั่นเอง
2. แบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จไฟเกิน 100% ได้
ใครที่ชอบชาร์จแบตฯ มือถือทิ้งไว้ แต่กังวลว่ามันจะชาร์จไฟเกินหลังจากเต็ม 100% แล้วหรือไม่ ขอให้สบายใจได้เลย เพราะเมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จเต็ม 100% ระบบจะตัดการทำงานทันที ดังนั้นจะไม่เกิดปัญหาชาร์จไฟเกินความจุแบตเตอรี่แน่นอน นอกเสียจากว่าแบตเตอรี่ก้อนนั้นจะมีปัญหาเรื่องวงจรภายใน อย่างไรก็ตาม การชาร์จแบตเตอรี่ให้ได้ 80% แล้วถอดออก จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้มากกว่าการชาร์จจนเต็ม 100% แล้วเสียบทิ้งไว้ แต่มือถือในปัจจุบันหลายรุ่นก็มีฟีเจอร์ที่สามารถกำหนดเวลาให้ชาร์จเต็มในช่วงเวลาที่ผู้ใช้มักจะถอดสายชาร์จออกพอดีด้วยเช่นกัน
3. อย่าปล่อยแบตเตอรี่ให้หมดเกลี้ยง 0%
หลายคนอาจจะเคยใช้มือถือจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงเหลือ 0% หรือปล่อยให้เครื่องดับเองบ่อย ๆ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นและไม่ควรทำ โดยมือถือบางรุ่นจะดับเครื่องทันทีเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อแบตเตอรี่ แต่แนะนำว่าควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อเหลือระดับต่ำกว่า 30% จะดีกว่า
4. แบตเตอรี่เสียหายได้ หากอยู่ในที่อากาศร้อน
การปล่อยให้แบตเตอรี่มือถืออยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ฉะนั้นจึงไม่ควรใช้หรือเก็บมือถือในที่อากาศร้อนจัด เช่น ในรถยนต์ กลางแดดจ้า ริมหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนตลอดทั้งปี ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงการใช้งานมือถือกลางแดดหรือท่ามกลางอากาศร้อนนานเกินไป
5. ใช้ที่ชาร์จยี่ห้ออื่น ไม่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่
แน่นอนว่าการใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่แถมมาในกล่องมือถือตอนซื้อย่อมดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนไปใช้หัวชาร์จหรือสายชาร์จยี่ห้ออื่นที่รองรับก็ไม่เกิดผลเสียหรืออันตรายต่อแบตเตอรี่แต่อย่างใด นอกเสียจากว่าจะเป็นที่ชาร์จที่ผลิตมาไม่ได้มาตรฐานหรือมีความเสียหาย เพียงแต่ระยะเวลาการชาร์จอาจจะอยู่ในระดับปกติหรือช้าลงบ้างสำหรับมือถือที่รองรับการชาร์จเร็ว
แล้วจะประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้อย่างไรบ้าง ?
สำหรับวิธียืดระยะเวลาการใช้งานมือถือไม่ให้แบตเตอรี่หมดเร็วนั้นไม่ยากเลย สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ปรับลดแสงหน้าจอ, ปิดการค้นหาสัญญาณ Wi-Fi / Bluetooth / GPS เมื่อไม่ได้ใช้งาน, เปิดโหมดประหยัดพลังงานเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็จะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่มือถือมีอายุการใช้งานของมันที่จะต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งส่วนมากแบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมเมื่อใช้งานเกิน 3 ปี โดยสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือการถนอมแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จและใช้งานอย่างถูกวิธี แต่ไม่ถึงกับต้องวิตกกังวลมากเกินไป เพราะเราอาจจะได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ก่อนที่แบตเตอรี่จะเสื่อมก็ได้
บทความเกี่ยวกับแบตเตอรี่มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- โทรศัพท์ชาร์จเข้าแต่แบตฯ ไม่เพิ่ม หรือชาร์จแบตฯ ไม่เข้า แก้ยังไงดี ?
- โทรศัพท์ใหม่ ต้องชาร์จกี่ชั่วโมง ควรชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืนหรือไม่ ?
- ชาร์จโทรศัพท์ไปเล่นไป อันตรายหรือไม่ ?
- วิธีแก้แบตฯ เสื่อม นำไปแช่ตู้เย็นได้ไหม ?
- แบตฯ มือถือบวม เป็นแบบไหน เกิดจากอะไร ? เผยสาเหตุที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก : cnet.com, businessinsider.com, androidauthority.com