วิธีเช็กแบตเตอรี่ไอโฟนและไอแพด เพื่อดูข้อมูลการใช้งานแบตเตอรี่ รวมทั้งเช็กว่าแบตเตอรี่เสื่อมและควรเปลี่ยนใหม่ได้แล้วหรือยัง
ภาพจาก : shutterstock.com / karanik yimpat
ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไอโฟน (รวมทั้งไอแพด) ทุกคนจะต้องพบเจอเมื่อมีการใช้งานมานานหลายปี และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วก็เท่านั้น แต่สำหรับหลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าไอโฟนที่ใช้อยู่นั้นแบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือยัง วันนี้เราจึงจะมาช่วยบอกวิธีเช็กแบตเตอรี่ไอโฟนง่าย ๆ กัน
วิธีเช็กแบตเตอรี่ไอโฟน
ในไอโฟน 6 หรือรุ่นใหม่กว่าที่ใช้ iOS 11.3 ขึ้นไป เราจะสามารถเช็กสุขภาพหรือความเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ได้ ด้วยการเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) แล้วแตะ สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ (Battery Health & Charging) โดยระบบจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับความจุของแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งแนะนำว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพจนถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วหรือยัง
วิธีเช็กแบตเตอรี่ไอแพด
เนื่องจากปัจจุบัน iPadOS ที่ใช้ในไอแพดนั้นยังไม่มีฟีเจอร์ให้สามารถเช็กสุขภาพแบตเตอรี่แบบไอโฟนได้ ซึ่งการจะรู้ได้แน่ชัดว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือยังคงต้องให้ศูนย์บริการของ Apple เป็นผู้ตรวจสอบให้ หรืออาจจะใช้วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง ถ้าหากรู้สึกว่าแบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติ ตัวเลขปริมาณแบตเตอรี่ขึ้น ๆ ลง ๆ หรือมีอาการเครื่องดับแบบไร้สาเหตุ นั่นก็อาจแปลว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
วิธีดูข้อมูลการใช้งานแบตเตอรี่ไอโฟนและไอแพด
ผู้ใช้ไอโฟนและไอแพดสามารถดูข้อมูลการใช้งานแบตเตอรี่ได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) โดยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแบตเตอรี่และกิจกรรมต่าง ๆ จะแสดงในช่วง 24 ชั่วโมงที่แล้วไปจนถึง 10 วันที่แล้ว
- ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ รวมทั้งคำแนะนำในการตั้งค่าเพื่อลดการใช้พลังงาน
- ระดับการชาร์จของแบตเตอรี่ที่ชาร์จครั้งล่าสุดและเวลาที่เลิกชาร์จ
- กราฟแสดงระดับแบตเตอรี่ ช่วงเวลาการชาร์จ และระยะเวลาที่ตัวเครื่องอยู่ในโหมดประหยัดพลังงานหรือแบตเตอรี่เหลือต่ำมาก
- ข้อมูลกิจกรรมการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา โดยแบ่งตามการเปิดหรือปิดหน้าจอ
- ปริมาณแบตเตอรี่ที่ถูกใช้โดยแต่ละแอปฯ
- แสดงจำนวนเวลาที่ใช้งานแต่ละแอปฯ
ทั้งนี้ ถ้าหากพบว่าไอโฟนหรือไอแพดแบตเตอรี่เสื่อมแล้ว หากเป็นเครื่องที่ค่อนข้างเก่ามาก ผ่านการใช้งานมาหลายปี การตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้ายังไม่ต้องการซื้อใหม่ อาจใช้วิธีเคลมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ที่ศูนย์บริการของ Apple แทน ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแล้วก็น่าจะสามารถใช้งานไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี ในกรณีที่ตัวเครื่องไม่ได้มีความเสียหายอื่น ๆ
บทความเกี่ยวกับแบตเตอรี่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ไอโฟนแท้จากศูนย์ Apple
- แบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อม อาการเป็นยังไง เกิดจากอะไรได้บ้าง ?
- วิธีถนอมแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- วิธีแก้แบตฯ เสื่อม นำไปแช่ตู้เย็นได้ไหม ?
- วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือกับ 5 เรื่องจริงที่คุณควรรู้