x close

มือถือชาร์จไร้สาย 2023 ชาร์จสะดวกไม่ต้องเสียบสาย มีรุ่นไหนบ้าง ?

          มัดรวมมือถือชาร์จไร้สาย 2023 ชาร์จแบตเตอรี่ได้สะดวก ไม่ต้องเสียบสายให้เกะกะ มีรุ่นไหนให้เลือกซื้อบ้าง มาดูกันเลย

 

มือถือชาร์จไร้สาย

           ปัจจุบันเริ่มมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายมากขึ้น ถึงแม้ส่วนใหญ่มักจะมีเฉพาะในรุ่นระดับเรือธง แต่ก็มีในรุ่นระดับกลางออกมาให้เห็นอยู่บ้าง และสำหรับใครกำลังมองหามือถือชาร์จไร้สายที่วางจำหน่ายในปี 2023 อยากรู้ว่ามีรุ่นไหนรองรับบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมมาแนะนำให้แล้ว

การชาร์จไร้สายมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

          การชาร์จแบตเตอรี่มือถือแบบไร้สายนั้นมีข้อดีหลายประการ ทั้งไม่ต้องดึงสาย ถอดสายชาร์จ ที่ทำให้ความทนทานของพอร์ตเชื่อมต่อเสื่อมก่อนเวลาอันควร และยังใช้แท่นชาร์จทำหน้าที่ขาตั้งมือถือในตัวได้ แถมยังประยุกต์ใช้รูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น ที่ชาร์จไร้สายในรถ Power Bank ที่รองรับชาร์จไร้สาย หรือแม้กระทั่งตัวมือถือที่สามารถชาร์จไร้สายให้มือถือด้วยกันได้ แต่ฟีเจอร์ชาร์จไร้สายยังรองรับเฉพาะในมือถือบางรุ่น รวมทั้งราคาของแท่นชาร์จไร้สายยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับที่ชาร์จมือถือทั่วไป และมักจะชาร์จได้ช้ากว่าการชาร์จแบบเสียบสาย

มือถือรองรับชาร์จไร้สาย 2023


1. iPhone 15 Series

iPhone 15 Series
ภาพจาก : apple.com

          มือถือปี 2023 จาก Apple ที่มีการอัปเกรดชิปประมวลผลให้เร็วแรงกว่าเดิม กล้องที่ถ่ายรูปได้ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรุ่น Pro จะใช้ชิป A17 Pro ส่วนดีไซน์ของทั้ง 4 รุ่นนั้นจะมีการปรับปรุงให้ขอบตัวเครื่องมีความมนกว่าเดิม รวมทั้งเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว และในคราวนี้หน้าจอของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะมาพร้อม Dynamic Island ด้วย ส่วน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะเปลี่ยนไปใช้วัสดุตัวเครื่องแบบไทเทเนียมที่มีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม และเพิ่มปุ่มแอ็คชั่นด้านข้างเครื่องที่สามารถตั้งให้เป็นปุ่มลัดตามต้องการได้ เช่น สลับโหมดเปิด/ปิดเสียง หรือสั่งเปิดแอปฯ ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไร้สาย MagSafe 15W และ Qi 7.5W

          - iPhone 15 ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
          - iPhone 15 Plus ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
          - iPhone 15 Pro ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
          - iPhone 15 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท

2. Samsung Galaxy Z Flip5

Samsung Galaxy Z Flip5
ภาพจาก : samsung.com

          โทรศัพท์มือถือดีไซน์ฝาพับที่มาพร้อมหน้าจอด้านนอก Flex Window เป็น Super AMOLED ขนาดใหญ่ 3.4 นิ้ว ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล ซึ่งถือเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าจอนอกของรุ่นอื่น ๆ ในตลาดขณะนี้ โดยสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอนอกได้ตามที่ชอบ ส่วนหน้าจอหลักด้านใน Dynamic AMOLED 2X มีขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 1-120Hz พร้อมปรับปรุง Flex Mode เพิ่มแผงควบคุมการเล่นสื่อบันเทิงได้สะดวก บานพับเป็นแบบใหม่ Flex Hinge มีความทนทานยิ่งขึ้น ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 8GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลังคู่ 12MP กล้องหน้า 10MP มีฟีเจอร์ FlexCam ให้สามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้ แบตเตอรี่ 3700mAh รองรับชาร์จไร้สาย Qi สามารถฟังเพลงได้นาน 57 ชม. และดูวิดีโอ 20 ชม. มีคุณสมบัติกันน้ำ IPX8 และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1.1

          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 39,900 บาท
          - รุ่นความจุ 512GB ราคา 45,900 บาท

3. Samsung Galaxy Z Fold5

Samsung Galaxy Z Fold5
ภาพจาก : samsung.com

          โทรศัพท์พับได้รุ่นใหญ่ที่มีหน้าจอหลักด้านใน QXGA+ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2176 x 1812 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 1-120Hz พร้อมบานพับเป็นแบบใหม่ Flex Hinge หน้าจอด้านนอก HD+ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2316 x 904 พิกเซล Refresh Rate 48-120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุสูงสุด 1TB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Telephoto รองรับ Optical Zoom 3x, Space Zoom 30x กล้องหน้าบนจอนอก 10MP และกล้องหน้าบนจอหลัก 4MP แบตเตอรี่ 4400mAh รองรับชาร์จไร้สาย Qi สามารถฟังเพลงได้นาน 73 ชม. ดูวิดีโอได้นาน 21 ชม. ตัวเครื่องมีความหนาเพียง 13.4 มม. และเบาเพียง 253 กรัม มีคุณสมบัติกันน้ำ IPX8 รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับปากกา S Pen ได้ และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1.1

          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 59,900 บาท
          - รุ่นความจุ 512GB ราคา 65,900 บาท
          - รุ่นความจุ 1TB ราคา 75,900 บาท

4. Nothing Phone (2)

Nothing Phone (2)
ภาพจาก : nothing.tech

          มือถือรุ่นที่สองจาก Nothing ที่ยังคงมีดีไซน์หลังเครื่องแตกต่างจากมือถือทั่วไป โดยในรุ่นนี้ Glyph Interface จะสามารถตั้งค่าแสงและเสียงให้แสดงแจ้งเตือนได้หลากหลายกว่าเดิม ส่วนด้านสเปกก็ประกอบไปด้วย หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 1-120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับ 5G แรมสูงสุด 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลังคู่ 50MP กล้องหน้า 32MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP54 แบตเตอรี่ 4700mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบรีเวิร์ส 5W และรันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Nothing OS 2.0

          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 24,990 บาท
          - รุ่นความจุ 512GB ราคา 27,990 บาท

5. Sony Xperia 1 V

Sony Xperia 1 V
​ภาพจาก : sony.co.th

          มือถือเรือธง Sony ที่มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 4K HDR รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลัง Exmor T 3 เลนส์ 52MP รองรับ Optical Zoom 3.5x-5.2x สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้สวยชัดเจน กล้องหน้า 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 มาพร้อมช่องหูฟัง 3.5 มม. แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W ชาร์จไร้สาย Qi และ Android 13

          - ราคา 48,990 บาท

6. vivo X90 Pro

vivo X90 Pro
ภาพจาก : vivo.com

          มือถือรุ่นเรือธงที่เน้นกล้องถ่ายภาพระดับโปร ด้วยกล้องหลัง ZEISS ขนาด 1 นิ้ว มี 3 เลนส์ ความละเอียด 50MP สามารถถ่ายวิดีโอกลางคืน 4K มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9200 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 256GB  ส่วนกล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 4870mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W Dual-Cell FlashCharge และชาร์จไร้สาย 50W รันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13

          - ราคา 39,999 บาท

7. Honor Magic 5 Pro

Honor Magic 5 Pro
​ภาพจาก : hihonor.com

          มือถือสเปกระดับเรือธงจาก Honor ที่มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.81 นิ้ว ความละเอียด 2848x1312 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 แรม 12GB ทำให้ใช้งานและเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 512GB สามารถลงแอปฯ ลงเกมได้เยอะ กล้องหลัง 4 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Periscope สำหรับการซูม และ ToF 3D สำหรับตรวจจับความลึกของวัตถุ มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 5100mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W ชาร์จไร้สาย 50W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Magic UID 7.1

          - ราคา 29,990 บาท

8. Huawei P60 Pro

Huawei P60 Pro
ภาพจาก : huawei.com

          มือถือรุ่นเรือธงจาก Huawei ที่มีหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2700x1220 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 1-120 Hz ช่วยให้แสดงภาพเคลื่อนไหวได้ลื่นไหล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับ 4G แรม 8GB/12GB ความจุ 256/512GB กล้องหลัง Ultra Lighting 3 เลนส์ 48MP พร้อมเลนส์ Telephoto สามารถซูมได้ไกลและถ่ายภาพได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน กล้องหน้า 13MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 4815mAh รองรับชาร์จเร็ว 88W ชาร์จไร้สาย 50W และรันระบบปฏิบัติการ EMUI 13.1

          - ราคา 43,990 บาท

9. POCO F5 Pro

POCO F5 Pro
ภาพจาก : mi.com

          มือถือ POCO รุ่นสเปกแรง จากตระกูล F5 ที่มีหน้าจอ Flow AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz แสดงผลภาพได้คมชัดและลื่นไหล ใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 64MP+8MP+2MP OIS กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 5160mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จไร้สาย 30W มีคุณสมบัติป้องกันน้ำกระเซ็นระดับ IP53 และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14 ส่วนรุ่นรอง F5 จะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 7+ Gen 2 ความจุ 256GB แบตเตอรี่ 5000mAh ไม่รองรับชาร์จไร้สาย

          - POCO F5 Pro 256GB ราคา 15,990 บาท
          - POCO F5 Pro 512GB ราคา 17,990​ บาท

10. Xiaomi 13 Series

Xiaomi 13 Series
ภาพจาก : mi.com

          โทรศัพท์มือถือเรือธงที่มีแบ่งเป็น 2 รุ่น โดยรุ่นรอง Xiaomi 13 จะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปตัวแรงล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 12GB ทำให้ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลัง Leica 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 4500mAh ชาร์จเร็ว 67W ชาร์จเต็มในเวลา 38 นาที รวมทั้งชาร์จไร้สาย 50W ส่วนรุ่นท็อป Xiaomi 13 Pro จะมีสเปกหลาย ๆ อย่างสูงกว่า ประกอบไปด้วย หน้าจอโค้งสามมิติขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ รองรับ Refresh Rate แบบ Dynamic 1-120Hz ความจุ 512GB ลงแอปฯ ลงเกม เก็บรูป ได้เยอะขึ้น กล้องหลังเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP ทั้งกล้องหลักและเลนส์ Telephoto กับ Ultrawide แบตเตอรี่ 4820mAh ชาร์จเร็ว 120W ชาร์จแบบโหมดเพิ่มประสิทธิภาพเต็มใน 19 นาที และชาร์จแบบโหมดมาตรฐานเต็มใน 24 นาที

          - Xiaomi 13 ราคา 29,990 บาท
          - Xiaomi 13 Pro ราคา 39,990 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

          สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง

          ทั้งนี้ ราคาของโทรศัพท์มือถือทั้ง 10 รุ่นที่ได้ระบุไว้เป็นเพียงราคาเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการปรับราคาของแต่ละร้านตัวแทนจำหน่ายและโปรโมชั่นต่าง ๆ ยังไงก็อย่าลืมเช็กราคาอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อกันด้วยนะครับ

บทความโทรศัพท์มือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

          - โทรศัพท์ถ่ายรูปสวย 2023 เหมาะกับคนชอบมือถือเน้นกล้อง
          - โทรศัพท์มีปากกา 2023 มีรุ่นไหนบ้าง ใช้กับปากกาได้ วาด-เขียนสะดวก
          - โทรศัพท์พับได้ 2023 จอใหญ่ สเปกแรง พกพาสะดวก
          - มือถือจอใหญ่ 2023 ภาพชัดเต็มตา มีรุ่นไหนบ้าง เช็กเลย !
          - โทรศัพท์ซูมไกล 2023 จะไกลแค่ไหนก็แชะได้ไม่หวั่น

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มือถือชาร์จไร้สาย 2023 ชาร์จสะดวกไม่ต้องเสียบสาย มีรุ่นไหนบ้าง ? อัปเดตล่าสุด 20 กันยายน 2566 เวลา 16:54:09 37,769 อ่าน
TOP