แนะนำมือถือเล่นเกม ปี 2019 ราคาไม่เกิน 15,000 บาท มือถือเกมมิ่ง ปี 2019 มือถือเล่นเกมที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ใครที่กำลังมองหามือถือเล่นเกม เช็กเลย
เอาใจคอเกม สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือที่เอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะ หรือที่เรียกกันว่า "มือถือเกมมิ่ง" มาพร้อมกับสเปกแรง ๆ ฟีเจอร์โดน ๆ ที่เอาใจชาวเกมเมอร์ที่ต้องการมือถือที่มีประสิทธิภาพเล่นเกมแบบไม่หัวร้อน วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือเล่นเกม ปี 2019 ราคาไม่เกิน 15,000 บาท มาแนะนำ ใครที่กำลังมองหามือถือที่เอาไว้เล่นเกม มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง มาติดตามกันเลย
มือถือเรือธงรุ่นแรกของค่าย Realme สเปกจัดสุด กล้องจัดเต็ม มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.7%, รองรับ HDR10+, DC Dimming 2.0, 90Hz refresh rate, 135Hz touch sampling rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, ระบายความร้อนด้วยของเหลวพร้อมคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS
มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, รูรับแสงกว้าง f/1.8, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 115 องศา (Ultra-wide) สามารถถ่ายมาโคร 2.5cm, 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับซูม 20 เท่า แบบ Hybrid และ 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Depth, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 50 วัตต์ SuperWOOC Flash Charge เคลมว่าชาร์จ 60% ใช้เวลา 15 นาที และ 100% ใช้เวลา 35 นาที
ราคา 14,690 บาท (แรม 8GB/128GB)
ยังคงเน้นไปที่ความคุ้มค่า สเปกแรงตามแบบฉบับ Xiaomi รุ่นนี้สเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 91.9% ขอบบางเฉียบ 2.1 มิลลิเมตร, ซีพียู Snapdragon 855, แรมสูงสุด 8GB, ระบายความด้วยแผ่นแกรไฟต์ 3 มิติ 8 ชั้น เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น, มี Game Turbo 2.0, รัน Android Pie ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto และ 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide มุมกว้าง 124.8 องศา กล้องหน้าป๊อปอัพ 20 ล้านพิกเซล พร้อมฝาครอบเลนส์แซฟไฟร์ เคลมว่าใช้เวลาสไลด์กล้องแค่ 0.8 วินาที และกลไกของกล้องยังแข็งแรงผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 300,000 ครั้ง และรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 27 วัตต์ ชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 58%
ราคา 13,990 บาท (แรม 6GB/64GB), 14,990 บาท (แรม 6GB/128GB)
3. Vivo V17 Pro
ครั้งแรกของโลกกับมือถือ 6 กล้อง ซีรีส์ V รุ่นล่าสุดจาก Vivo มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพคู่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 105 องศา ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างด้วย Super Wide Selfie และเซลฟี่กลางคืนได้สว่างไสวด้วย Super Night Mode ด้านสเปกของ Vivo V17 Pro มีหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Super AMOLED, อัตราส่วน 20:9 Full View display อัตราส่วนการแสดงผล 91.65%, ซีพียู Snapdragon 675, แรม 8GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อม 2.5cm Super Macro, 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับซูมออปติคอล 2 เท่า และดิจิทัล 10 เท่า, 2 ล้านพิกเซล (Portrait), มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และแบตเตอรี่ 4,100mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ Dual-Engine Fast Charging
ราคา 12,999 บาท (แรม 8GB/128GB)
มือถือเรือธงซีรีส์ nova จัดเต็มทั้งกล้องและสเปก มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ LCD ขอบจอโค้ง กล้องหน้าเจาะรู 32 ล้านพิกเซล ใช้ซีพียู Kirin 980 7nm พร้อม Dual NPU, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.1, รองรับ GPU Turbo 3.0, กล้องหลัง 4 เลนส์ (Leica quad-lens) แบ่งเป็นเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล + 16 ล้านพิกเซล (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 4cm macro + 2 ล้านพิกเซล (Depth), มีสแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง, ดีไซน์ไล่เฉดสีด้วยวัสดุกระจก 3D และแบตเตอรี่ 3,750mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์ (Huawei SuperCharge) เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-50% ในเวลา 30 นาที
ราคา 10,990 บาท (แรม 8GB/128GB)
5. Xiaomi Mi 9T
มือถือสเปกคุ้มค่า ราคาประหยัดอีกรุ่นจาก Xiaomi มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 91.9% ขอบบางเฉียบ 2.1 มิลลิเมตร, ซีพียู Snapdragon 730, แรมสูงสุด 8GB, ระบายความร้อนด้วยแผ่นแกรไฟต์ 3 มิติ 8 ชั้น เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น, มี Game Turbo 2.0, รัน Android Pie ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX582 + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto และ 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide มุมกว้าง 124.8 องศา กล้องหน้าป๊อปอัพ 20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์
ราคา 11,990 บาท (แรม 6GB/64GB), 12,990 บาท (แรม 6GB/128GB)
6. OPPO Reno2 F
นอกจาก OPPO จะเปิดตัว OPPO Reno 2 มือถือกล้องป๊อปอัพครีบฉลาม OPPO ยังได้เปิดตัว OPPO Reno2 F ที่เป็นรุ่นย่อยของซีรีส์ โดยมีดีไซน์ที่เหมือนกัน ต่างกันที่สเปกภายใน รวมถึงสเปกของกล้องถ่ายภาพ มีหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ใช้ซีพียู Helio P70, แรม 8GB, หน่วยความจำ 256GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1, กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GM1, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 119 องศา (Ultra-wide Lens), 2 ล้านพิกเซล (Mono Lens), 2 ล้านพิกเซล (Portrait Lens), กล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล, รองรับ Ultra Night Mode 2.0, บอดี้กระจก 3D และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ VOOC Flash Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C
ราคา 11,990 บาท (แรม 8GB/128GB)
มือถือระดับกลางที่อัปเกรดสเปกมาจากรุ่น Galaxy A50 มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.4 นิ้ว Super AMOLED แบบ Infinity-U ติ่งทรงตัว U ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Exynos 7 Series 9610 10nm, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 9 Pie, แบตเตอรี่ 4,000mAh, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ ปรับโฉมลวดลายและสีสันที่ด้านหลังตัวเครื่อง อัปเกรดกล้องหลังเป็น 48 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล 123 องศา และกล้องเก็บระยะความลึก 5 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ Super Steady สำหรับกล้อง Ultra Wide ช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น ลดการสั่นไหว
ราคา 10,990 บาท (แรม 6GB/128GB)
8. Realme XT
มือถือระดับกลาง สเปกคุ้มค่า กล้องไม่ธรรมดา มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED อัตราส่วนการแสดงผล 91.9% กระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 712, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, f/1.8 + กล้อง 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide) ขนาดพิกเซล 1.12μm, f/2.25 + กล้อง 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และกล้อง 2 ล้านพิกเซล (4cm macro) ขนาดพิกเซล 1.75μm, f/2.4, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 3D ด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5, สแกนนิ้วบนหน้าจอใช้เซ็นเซอร์จาก GOODIX G3.0 และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ VOOC 3.0 fast charging ชาร์จ 55% ในเวลา 30 นาที
ราคา 10,999 บาท (แรม 8GB + 128GB)
มือถือดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์แบบป๊อปอัพ เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในตัว เรียกว่า Rotating Camera ที่ส่วนของเลนส์กล้องจะสไลด์ขึ้นมาพร้อมทั้งพลิกกลับมาด้านหน้าเมื่อเปิดโหมดใช้งานกล้องหน้า สำหรับกล้องทั้ง 3 เลนส์นั้นจะประกอบไปด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ 3D Depth และมีข้อดีคือ สามารถใช้กล้องทั้ง 3 เลนส์นี้เป็นกล้องหน้าเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้เลย ส่วนด้านฟีเจอร์ของกล้องนั้นก็มีทั้งตัวเลนส์ที่กว้าง 123 องศา แบบ Ultra Wide
สเปกอื่น ๆ มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED 6.7 นิ้ว Full HD+ ซีพียู Octa-Core แรม 8GB ความจุ 128GB (ไม่รองรับ microSD) แบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับ 25W Super Fast Charging เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ มีผู้ช่วยส่วนตัว Bixby รองรับ Samsung Knox และรัน Android 9 Pie
ราคา 14,990 บาท (แรม 8GB/128GB)
มือถือซีรีส์ Galaxy A ที่น่าสนใจอีกรุ่น โดยรุ่นนี้ใช้หน้าจอ Infinity U เหมือนกับรุ่น A50 และ A30 รวมถึงดีไซน์แบบ 3D Glasstic ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ในส่วนของสเปกนั้นถูกอัปให้แรงขึ้น พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 32 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ถือเป็นมือถือรุ่นแรกของ Samsung ที่มีกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียดสูง ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.7 นิ้ว Infinity-U หรือติ่งทรงหยดน้ำ อัตราส่วน 20:9 ดีไซน์สีสันตัวเครื่องไล่เฉดสวยงาม มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีฟ้า, สีขาว และสีส้ม Coral ที่เป็นสียอดฮิตของปีนี้ ใช้ซีพียูไม่ระบุรุ่น แต่น่าจะเป็น Snapdragon 675 Octa-Core (Dual 2.0GHz + Hexa 1.7GHz), แรม 6GB/8GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD, รัน Android 9.0 (Pie) และแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Super-Fast Charging 25 วัตต์
ราคา 13,990 บาท (แรม 8GB/128GB)
มือถือที่ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus ปี 2019 มีกี่รุ่น เช็กเลย
มือถือที่ใช้ซีพียู Snapdragon 855 ปี 2019 มีรุ่นไหนบ้าง เช็กเลย
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง