x close

5 มือถืออดีตเรือธง ลดราคา สเปกยังคุ้มค่าน่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย

          แนะนำมือถืออดีตเรือธงรุ่นท็อปที่สเปกยังคุ้มค่าน่าซื้อมาใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือไม่เน้นเทคโนโลยีใหม่ ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ที่ทันสมัย และประหยัดงบ

มือถือเรือธง

          สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ แต่ไม่ได้เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย หรือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อดีตมือถือเรือธงรุ่นท็อปจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้ซื้อหลาย ๆ คนให้ความสนใจ เนื่องจากมีราคาที่ถูกลง สเปกยังคุ้มค่า แถมยังใช้งานได้ดี วันนี้เรามี 5 มือถืออดีตเรือธง มาแนะนำ สำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการมือถือใหม่มาก มาดูกันว่า มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง

1. Samsung Galaxy S9/S9+

มือถือเรือธง

          อดีตมือถือเรือธงซีรีส์ Galaxy S ที่มาพร้อมจุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพที่ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยคะแนนการันตีจาก DXOmark ถึง 99 คะแนน กล้องรูรับแสงคู่ (Dual Aperture) กว้างสุดถึง f/1.5 และแคบสุดที่ f/2.4, ถ่ายวิดีโอ Super Slow-mo ที่ 960fps ความละเอียด HD และฟีเจอร์ AR Emoji สร้างสติ๊กเกอร์ 3 มิติที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้กับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น, ลำโพงคู่สเตอริโอครั้งแรกของมือถือซีรีส์ Galaxy และระบบความปลอดภัย Intelligent Scan ปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนทั้งใบหน้าและม่านตาพร้อมกัน

ราคา 13,400 บาท (Galaxy S9), 14,500 บาท (Galaxy S9+)

2. Huawei Mate 20/Mate 20 Pro

มือถือเรือธง

          มือถือกล้อง 3 เลนส์ที่มาพร้อม AI มีหน้าจอแบบไร้ขอบทั้งสองรุ่น โดยหน้าจอของ Mate 20 จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีรอยบากเล็กกว่า Mate 20 Pro แต่ Mate 20 Pro จะมีสเปกที่สูงกว่า ลำโพงจะถูกย้ายไปไว้ที่ขอบเครื่องแทน พร้อมทั้งเปิดตัว SD card แบบใหม่ของ Huawei โดยเฉพาะ มีชื่อว่า nanaSD card สำหรับใช้ใส่เพิ่มความจุให้ Mate 20 และ Mate 20 Pro

          Huawei Mate 20 มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 18.7:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 4/6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,000mAh มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0

          Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมหน้าจอโค้ง OLED ขนาด 6.39 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,200mAh รองรับชาร์จไร้สาย มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังในหน้าจอ ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. กันน้ำ IP68 Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0

ราคา 12,600 บาท (Mate 20), 15,800 บาท (Mate 20 Pro)

3. Samsung Galaxy Note 9

มือถือเรือธง

          ถึงแม้ตอนนี้ซัมซุงจะออก Galaxy Note 10 มาแล้วก็ตาม แต่ Galaxy Note 9 ก็ถือว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่หลายคนยังให้ความสนใจ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล ปากกา S Pen สั่งงานระยะไกลได้ โดยรวมของรุ่นนี้ปรับปรุงจากรุ่น Galaxy Note 8 เน้นชูจุดเด่นประสิทธิภาพเครื่องที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ปรับปรุงกล้องถ่ายภาพ แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม พื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าเดิม และเพิ่มความอัจฉริยะให้กับปากกา S Pen รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ปุ่มที่ปากกาสามารถใช้กดเพื่อสั่งการ Galaxy Note 9 จากระยะไกลได้ เช่น กดแทนปุ่มชัตเตอร์ถ่ายรูป ควบคุมการเล่นวิดีโอ พรีเซ็นต์งาน หรือสั่งการแอปฯ ต่าง ๆ ตามที่ตั้งค่าไว้ เป็นต้น

ราคา 19,700 บาท (128GB)

4. OPPO Find X

มือถือเรือธง

          สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์กล้องถ่ายภาพแบบสไลด์ขึ้นลง OPPO ได้คืนชีพมือถือซีรีส์ Find อีกครั้ง OPPO Find X เป็นมือถือระดับเรือธง อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหมือนกันแบรนด์อื่น ๆ มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามด้วยวัสดุกระจก 3D Glass หน้าจอไม่แหว่ง กล้องถ่ายภาพสุดคูลแบบสไลด์ขึ้น-ลง เมื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ เรียกว่า O-Face พร้อมฟีเจอร์ OMoji สร้างตัวการ์ตูนอีโมจิแบบ 3 มิติ ได้ทั้งแบบถ่ายรูปหรือวิดีโอ และตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม

          มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.42 นิ้ว ขอบจอโค้ง ไร้ขอบสวยงาม ความละเอียด 2,360 x 1,080 พิกเซล, อัตราส่วน 19.5:9 โดย OPPOเรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Panoramic Arc Screen มีพื้นที่การแสดงผล 93.8% และที่สำคัญไม่มีรอยแหว่งบนหน้าจอ กล้องหลังคู่ 16 + 20 ล้านพิกเซล รับแสง f/2.0, แฟลช LED, กันสั่น OIS, มี AI Scene Recgonition ที่สามารถแยกซีนภาพถ่าย ระบุจากภาพที่กำลังจะถ่ายได้ถึง 20 ประเภท กว่า 800 แบบ และมีโหมด AI Portrait พร้อมการปรับแสง 3D lighting

ราคา 15,800 บาท

5. Xiaomi Mi MIX 3

มือถือเรือธง

          ปิดท้ายด้วยอดีตมือถือเรือธงของ Xiaomi ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าไร้ขอบ ไม่มีติ่ง เต็มจอทั้ง 4 มุม Full Screen Slider มีขนาด 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:5:9, มีพื้นที่หน้าจอถึง 94.3%, Contrast 60000:1, ความสว่างสูงสุด 600 nits โดยขอบด้านล่างทแคบลงกว่าเดิมเหลือ 4.46 มม. เมื่อเทียบกับ Mi MIX 2S และการออกแบบเสาอากาศแบบกำหนดเองเพื่อให้พื้นที่เสาอากาศลดลง 72% ใช้ซีพียู Snapdragon 845, แรมสูงสุด 10GB, รองรับ Google ARCore และรัน Android 8.1 (Oreo) พร้อม AI voice assistant, แบตเตอรี่ 3,200mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังเคลมว่า Mi MIX 3 จะรองรับ 5G ในช่วงไตสมาสที่ 1 ปี 2019 อีกด้วย

          กล้องของถ่ายภาพ Mi MIX 3 มีกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363, ขนาดพิกเซล 1.4µm, กันสั่น OIS แบบ 4 แกน, Dual Pixel auto focus, เลนส์ตัวที่สองจะเป็นเลนส์ telephoto ใช้เซ็นเซอร์ Samsung S5K3M3+ รองรับ AI portraits, AI scene recognition, ส่วนกล้องหน้าแบบสไลด์ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX576, 4-in-1 Super Pixel ส่วนกล้องตัวที่สอง 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ DOF และมี Selfie flash, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และถ่าย Slow-motion ที่ 960 fps

ราคา 13,600 บาท (แรม 6GB + 128GB)

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 มือถืออดีตเรือธง ลดราคา สเปกยังคุ้มค่าน่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย อัปเดตล่าสุด 16 สิงหาคม 2562 เวลา 10:48:41 19,475 อ่าน
TOP