10 มือถือน่าซื้อ เดือนสิงหาคม 2562 เช็กเลย รุ่นไหนน่าใช้

          10 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนสิงหาคม 2562 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด สเปกสุดคุ้ม ราคาถูก เช็กก่อนซื้อกันเลย

          สวัสดีเดือนสิงหาคม เริ่มนับถอยหลังเตรียมก้าวผ่านปี 2562 กลับมาอัปเดตมือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้ง สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน ไม่จะเป็น Xiaomi Mi 9T มือถือกล้องป๊อปอัพ กล้องหลัง 3 ตัว สเปกจัดว่าดี ที่ถูกใจสายเล่นเกม หรืออีกรุ่น Nokia 9 Pureview มือถือกล้องหลัง 5 ตัวรุ่นแรกของโลก ก็เข้ามาวางจำหน่ายให้แฟน ๆ โนเกียได้หายคิดถึงกันแล้ว รวมถึงมือถือสเปกสุดคุ้มอีก 2 รุ่น อย่าง OPPO K3 และ Vivo S1 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

          วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนสิงหาคม 2562 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

1. Xiaomi Mi 9T

          มือถือสเปกคุ้มค่า ราคาประหยัดอีกรุ่นจาก Xiaomi มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 91.9% ขอบบางเฉียบ 2.1 มิลลิเมตร, ซีพียู Snapdragon 730, แรมสูงสุด 8GB, ระบายความร้อนด้วยแผ่นแกรไฟต์ 3 มิติ 8 ชั้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น, มี Game Turbo 2.0, รัน Android Pie ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX582 + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto และ 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide มุมกว้าง 124.8 องศา กล้องหน้าป๊อปอัพ 20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์

ราคา 11,990 บาท (แรม 6GB + 64GB), 12,990 บาท (แรม 6 + 128GB)

2. Nokia 9 Pureview

          มือถือที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 5 ตัวรุ่นแรกของโลก ด้วยกล้องหลังเลนส์ ZEISS Optics 5 ตัว ที่มายกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยี Computational Imaging โดยกล้องหลังเลนส์ ZEISS Optics 5 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นเลนส์ที่มีเซ็นเซอร์สำหรับเก็บภาพสี 2 ตัว และเซ็นเซอร์สำหรับเก็บภาพแบบ Monochromatic 3 ตัว เพื่อการประมวลผลภาพที่คมชัด เมื่อเลนส์ทั้ง 5 ทำงานร่วมกันจะสามารถเก็บแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์รับแสงแบบตัวเดียวถึง 10 เท่า

          ด้านสเปกอื่น ๆ มีหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด Quad HD pOLED รองรับ HDR10 ใช้ซีพียู Snapdragon 845 แรม 6GB กระจก Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, สแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ, ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP67 และแบตเตอรี่ 3,320mAh รองรับชาร์จเร็วและ Qi wireless charging

ราคา 18,900 บาท

3. Vivo S1

          มือถือซีรีส์ S รุ่นใหม่ จาก Vivo ภายในคอนเซ็ปต์ "Unlock Your Style" มาพร้อมหน้าจอ 6.38 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P65 (MT6768), แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า (AI face unlock) แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Dual Engine fast charging 18 วัตต์

          กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 16 ล้านพิกเซล, f/1.78, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (wide-angle), f/2.2, 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, f/2.0 ด้านดีไซน์ตัวเครื่องใช้เทคนิคการเคลือบแบบนาโนอิออน ผสมผสานสีและเอฟเฟกต์เพื่อให้เกิดแสงสะท้อนทำให้ดูเด่นและสวยงาม

ราคา 8,999 บาท

4. Samsung Galaxy A80

          มือถือดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์แบบป๊อปอัพ เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในตัว เรียกว่า Rotating Camera ที่ส่วนของเลนส์กล้องจะสไลด์ขึ้นมาพร้อมทั้งพลิกกลับมาด้านหน้าเมื่อเปิดโหมดใช้งานกล้องหน้า สำหรับกล้องทั้ง 3 เลนส์นั้นจะประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ 3D Depth และมีข้อดีคือสามารถใช้กล้องทั้ง 3 เลนส์นี้เป็นกล้องหน้าเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้เลย ส่วนด้านฟีเจอร์ของกล้องนั้นก็มีทั้งตัวเลนส์ที่กว้าง 123 องศาแบบ Ultra Wide

          สเปกอื่น ๆ มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED 6.7 นิ้ว Full HD+ ซีพียู Octa-Core แรม 8GB ความจุ 128GB (ไม่รองรับ microSD) แบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับ 25W Super Fast Charging เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ มีผู้ช่วยส่วนตัว Bixby รองรับ Samsung Knox และรัน Android 9 Pie

ราคา 21,990 บาท

5. OPPO K3

          มือถือสำหรับชาวเกมมิ่งของ OPPO เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยรุ่นนี้เป็นมือถือระดับกลาง มีดีไซน์คล้ายกับรุ่น OPPO Reno ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ ไม่มีติ่ง ขอบจอบางสวยงาม คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.1%, DC dimming, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 6 เร็วขึ้น 28.5%, ซีพียู Snapdragon 710, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB/256GB, มี GameBoost 2.0, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Color OS 6.0 และมีกล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม AI Portrait Mode, AI scene detection และ Ultra Clear Night View 2.0

          กล้องหน้าแบบป๊อปอัพ (Rising Camera) เหมือนกับ OPPO F11 Pro มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ป๊อปอัพได้เร็วแค่ 0.74 วินาที และผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 200,000 ครั้ง ด้านดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีแบบ 3D พร้อมลวดลายรูปตัว S ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 3,765mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC 3.0

ราคา 9,990 บาท (แรม 8GB + 128GB)

6. Vivo Y12

          มือถือระดับกลางซีรีส์ Y จาก Vivo มีสเปกสุดคุ้มกับราคาที่น่าสนใจ มาพร้อมหน้าจอ 6.35 นิ้ว Halo FullView Display ติ่งทรงหยดน้ำ อัตราส่วน 19.3:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P22 12nm, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS, มี Ultra Game Mode, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา Super Wide-Angle และ 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth Camera ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ไล่เฉดสี ด้านหลังมีสแกนลายนิ้วมือ และมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

ราคา 4,999 บาท (แรม 3GB + 32GB)

7. Redmi 7A

          มือถือราคาประหยัดที่สานต่อจาก Redmi 6A เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่มีงบประมาณในการซื้อที่จำกัด ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 ใช้ซีพียู Snapdragon 439, แรม 2GB/3GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รองรับ microSD, รัน Android Pie ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, PDAF, AI Scene Detection, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับปลดล็อกด้วยใบหน้า (AI face unlock) และ Beautify แน่นอนรุ่นนี้ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ตัวเครื่องเคลือบสารกันน้ำ P2i Coating และมีแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคา 2,999 บาท (แรม 2GB + 16GB, 3,299 บาท (แรม 2GB + 32GB)

8. Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

          มือถือระดับเรือธงซีรีส์ Galaxy Note รุ่นใหม่ ปรับปรุงจากรุ่น Galaxy Note 9 มาพร้อมกับดีไซน์หรูหราทันสมัย ฟีเจอร์การใช้งานยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพการทำงานทรงพลัง และเป็นครั้งแรกที่ Samsung Galaxy Note มาพร้อมหน้าจอ 2 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่มีขนาดพอดีในการใช้งานร่วมกับปากกาอัจฉริยะ S Pen ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถถือใช้งานได้อย่างง่ายดาย บนหน้าจอ Cinematic Infinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.8 นิ้ว

          ความสามารถของ S Pen ใน Galaxy Note 10 ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจดข้อความลงบนหน้าจอ และเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษรได้ทันทีบน Samsung Notes และฟีเจอร์ Air Actions ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมฟังก์ชันที่ต้องการได้ผ่านการจับ S Pen เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ และยังพัฒนาซอฟต์แวร์ Air Actions ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งปุ่มควบคุมได้หลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้การเล่นเกมหรือใช้งานแอปพลิเคชันผ่านการแสดงออกของท่าทางได้อีกด้วย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของ Galaxy Note 10)

ราคา 

          - Galaxy Note 10 รุ่นแรม 8GB + 256GB ราคา 32,900 บาท
          - Galaxy Note 10+ รุ่นแรม 12GB + 256GB ราคา 37,900 บาท
          - Galaxy Note 10+ รุ่นแรม 12GB + 512GB ราคา 40,900 บาท

9. Xiaomi Mi A3

          มือถือที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของ Google สานต่อจาก Xiaomi Mi A2 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยรอบนี้ทาง Xiaomi ได้ยกดีไซน์และสเปกทั้งหมดมาจากรุ่น Xiaomi CC9e ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+ AMOLED, ซีพียู Snapdragon 665, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB (UFS 2.1), รัน Android 9.0 (Pie) แบบ Pure Android, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 7 เพิ่มพื้นที่การสแกนถึง 15%, กล้องหลัง 3 ตัว ตามสมัยนิยม แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.79, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide angle) และ 2 ล้านพิกเซล (depth sensor) ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของซัมซุง ขนาดพิกเซล 1.6μm พร้อมโหมด AI beautify

ราคา 6,999 บาท (แรม 4GB + 64GB), 7,999 บาท (แรม 4GB + 128GB)

10. Wiko Sunny4

          หลังจากเปิดตัว Wiko Sunny4 Plus ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Wiko เปิดตัว Wiko Sunny4 ตามมาอีกรุ่น โดยปรับลดสเปกบางส่วนและเป็นมือถือ Android GO Edition ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว พร้อม Simple Mode ที่ช่วยขยายไอคอนของเมนูบนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ รันระบบปฏิบัติการ Android 8 Oreo (Go Edition), ซีพียู Quad-Core 1.3GHz, หน่วยความจำ 16GB, แรม 1GB, รองรับ microSD สูงสุด 32GB, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และโหมดถ่ายภาพมากมาย, ตัวเครื่องดีไซน์สวยเกินราคา มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน (Blue) สีทอง (Gold) และสีเทาเข้ม (Dark Gray)

ราคา 1,790 บาท

10 มือถือน่าซื้อ เดือนกรกฎาคม 2562 เช็กเลย รุ่นไหนน่าใช้

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย