10 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนกรกฎาคม 2562 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด สเปกสุดคุ้ม ราคาถูก เช็กก่อนซื้อกันเลย
สวัสดีเดือนกรกฎาคม ผ่านเข้าสู่ครึ่งปีหลัง 2562 กลับมาอัปเดตมือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้ง สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน ไม่จะเป็น Huawei Y9 Prime 2019 มือถือกล้องหน้าป๊อปอัพรุ่นแรกของ Huawei หรืออีกรุ่น realme C2 มือถือราคาประหยัด จอใหญ่ สเปกสุดคุ้ม ก็วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วเช่นกัน รวมถึงมือถือสายเพียวแอนดรอยด์อย่าง Nokia 4.2 และ Nokia 3.2 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนกรกฎาคม 2562 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
มือถือกล้องหน้าป๊อปอัพรุ่นแรกของ Huawei สเปกคุ้มกับราคาโดน ๆ มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล รองรับ AI สามารถป๊อปอัพได้อย่างรวดเร็วแค่ 1 วินาที รวมถึงยังมีความแข็งแรงทนทานสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 12 กิโลกรัม ผ่านการทดสอบกว่า 100,000 ครั้ง และทนทานต่ออุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ถึง 60 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังปรับโฉมดีไซน์ใหม่ แทนที่จะเป็นการไล่เฉดสีเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ได้ปรับใหม่เป็นแบบทูโทน พร้อมขอบตัวเครื่องที่โค้งมนสวยงาม
ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.59 นิ้ว Ultra FullView Display ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9 ซีพียู Kirin 710F, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD card, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งออกเป็น 16 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 7,990 บาท
มือถือซีรีส์ Y ราคาถูก อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการมือถือราคาประหยัดที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.71 นิ้ว Dewdrop Display (ติ่งทรงหยดน้ำ) ความละเอียด HD+, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 84.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22 MT6761 2.0GHz Quad-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ แต่มีสแกนใบหน้า, ดีไซน์ตัวเครื่องมีรุ่นที่เป็นฝาหลังหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลและสีดำให้เลือก ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 3,020mAh ที่เคลมว่าฟังเพลงได้นาน 74 ชั่วโมง และดูวิดีโอต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง
ราคา 3,799 บาท (แรม 2GB + 32GB)
3. realme C2
มือถือซีรีส์ราคาประหยัด ระดับเริ่มต้นที่สานต่อจาก realme C1 (2019) และ realme C1 (2018) สำหรับรุ่นนี้มีการปรับโฉมหน้าจอใหม่ แทนรอยบากแบบกว้าง มาพร้อมหน้าจอ 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19.5:9 ติ่งทรงหยดน้ำ (Dewdrop display) มีพื้นที่การใช้งาน 89.35% ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22 แรมสูงสุด 3GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อม AI selfies ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ Diamond Cut มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงินกับสีดำ ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้า (AI Facial Unlock) ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 4,000mAh
ราคา 3,999 บาท (แรม 3GB + 32GB)
4. Nokia 4.2
มือถือ Android One ระดับกลาง ที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมปุ่มกดสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant และกล้องอันทรงประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้ มาพร้อมกับนวัตกรรม AI กล้องหลังเลนส์คู่ ซีพียู Qualcomm Snapdragon และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ตัวใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ Nokia 4.2 ยังมาพร้อมกับปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานมือถือของคุณ เพียงกดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลเรื่องราวที่คุณสนใจจากระบบการช่วยเหลืออัจฉริยะที่เรียนรู้และปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานจริงของผู้ใช้งาน หรือกดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie ให้คุณสามารถบรรยายถึงปัญหาและถามคำถามในรูปแบบประโยคยาวแก่ Google ได้
ราคา 4,490 บาท (แรม 2GB + 16GB), 5,290 บาท (แรม 3GB + 32GB)
5. Nokia 3.2
มือถือราคาประหยัดอีกรุ่นจาก Nokia มาพร้อมหน้าจอ HD+ ขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึงสองวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh รันระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie รุ่นล่าสุด หน้าจอขนาดใหญ่ที่มีความกว้างถึง 6.2 นิ้ว HD+ ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 427 และระบบ Google Assistant ระบบ AI ล่าสุดที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานมือถือในทุก ๆ วัน เพียงกดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลภาพถ่ายของกิจกรรมทั้งวันของคุณ หรือกดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie เหมือนกับ Nokia 4.2
ราคา 3,990 บาท (แรม 2GB + 16GB)
มือถือซีรีส์ View รุ่นใหม่ของ Wiko ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้กล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด พร้อมกับดีไซน์แบบไล่เฉดสีดูสวยงามทันสมัย ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีติ่งทรงหยดน้ำ ใช้ซีพียู Mediatek Helio P60, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9 Pie, กล้องหลัง 3 ตัว และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว ในส่วนของกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ Sony IMX486, ขนาดพิกเซล 1.25 μm) + 5 ล้านพิกเซล (Depth) + 13 ล้านพิกเซล (Super Wide Angle 120°) และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
ราคา 6,490 บาท (แรม 4GB + 64GB)
มือถือรุ่นเล็กสุดของซีรีส์ View ใช้กล้องหลังคู่ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.09 นิ้ว ความละเอียด HD+, ซีพียู CPU UNISOC (Spreadtrum) SC9863A 1.6GHz Octa-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9.0 Pie, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 3,690 บาท
มือถือซีรีส์ A ราคาประหยัด สเปกน่าสนใจ ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด โดยรุ่นนี้ปรับลดสเปกบางส่วนจาก Galaxy A50 แต่ตัวเครื่องใช้ดีไซน์เหมือนกันแบบ 3D Glasstic และมีขนาดหน้าจอเท่ากันที่ 6.4 นิ้ว แบบ Infinity-U ติ่งทรงตัว U ความละเอียด Full HD+ ใช้ซีพียู Exynos 7904 Octa-Core 14nm, แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android Pie, กล้องหลังคู่ 16 ล้านพิกเซล, f/1.7 + ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide-angle), กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, f/2.0, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, รองรับฟีเจอร์ Samsung Pay2, Bixby Home, Bixby Reminder และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว
ราคา 7,290 บาท (แรม 4GB + 64GB)
เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อย สำหรับมือถือที่สานต่อจาก Xiaomi Mi 8 SE โดยรุ่นนี้มีหน้าตาคล้ายกับรุ่นเรือธงใช้ดีไซน์ Holographic เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่สเปกที่ถูกปรับให้เหมาะสม มาพร้อมหน้าจอติ่งหยดน้ำขนาด 5.97 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.4%, มือถือรุ่นแรกที่ใช้ซีพียู Snapdragon 712, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลัง 3 ตัว เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ตัวที่สอง 8 ล้านพิกเซล และตัวที่สาม 13 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์มุมกว้าง (Ultra-wide) และแบตเตอรี่ 3,070mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์
ราคา 11,999 บาท (แรม 6GB + 128GB)
10. OPPO F11
มือถือที่ปรับสเปกบางส่วนจากรุ่น OPPO F11 Pro เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ติ่งทรงหยดน้ำ, มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 90.7%, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ซีพียู MediaTek Helio P70 12nm, แรมสูงสุด 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 48 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Ultra Night, Dazzle Color, AI Engine และ Ultra-clear Engine ที่สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ แม้อยู่ในที่แสงน้อย ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,020mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
ราคา 7,990 บาท (แรม 4GB + 128GB)
10 มือถือน่าซื้อ เดือนมิถุนายน 2562 เช็กเลย รุ่นไหนน่าใช้
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง