10 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนมิถุนายน 2562 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด สเปกสุดคุ้ม ราคาถูก เช็กก่อนซื้อกันเลย
สวัสดีเดือนมิถุนายน กลับมาอัปเดตมือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้ง หลังจากจบงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบกลางปีไปแล้ว สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน ไม่จะเป็น OPPO Reno มือถือเรือธงที่มีพลังซูมดิจิทัล 60 เท่า หรือมือถือเจ้าของฉายานักฆ่าเรือธงอย่าง OnePlus 7 Pro ก็วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วเช่นกัน รวมถึงมือถือราคาประหยัดสเปกสุดคุ้มอย่าง Realme 3 Pro ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี เราคัดมาให้แล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนมิถุนายน 2562 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
OnePlus แบรนด์มือถือเจ้าของฉายานักฆ่าเรือธง (Flagship Killer) เปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro มือถือเรือธงรุ่นใหม่ สเปกจัดเต็มเหมือนเดิม พร้อมปรับโฉมดีไซน์ให้ดูสวยงามและพรีเมียมกว่าเดิม เริ่มต้นที่ OnePlus 7 Pro ที่เป็นรุ่นเด่นสุด มาพร้อมหน้าจอใหญ่ไร้ติ่งขนาด 6.67 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบใหม่ Fluid AMOLED ความละเอียด Quad HD+ มีอัตรารีเฟรช 90Hz และหน้าจอของ OnePlus 7 Pro ยังได้คะแนนที่ระดับ A+ ระดับเดียวกับ Galaxy S10+ และ Pixel 3 XL จาก DisplayMate อีกด้วย ส่วนทางด้าน OnePlus 7 จะใช้หน้าจอ Optic AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และมีติ่งเหมือนกับรุ่น OnePlus 6T
ด้านสเปกใช้ซีพียูยอดฮิต Snapdragon 855 แรม 6GB/8GB/12GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB (UFS 3.0), ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว 10 ชั้น, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย OxygenOS 9.0, แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ Warp Charge 30 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 ถึง 48% ในเวลา 20 นาที, ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และมีสแกนนิ้วมือบนหน้าจอที่มีความรวดเร็วโดยใช้เวลาในการปลดล็อกแค่ 0.21 วินาที
ราคา
- รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 24,990 บาท
- รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 26,990 บาท
- รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 29,990 บาท
2. OPPO Reno
เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว สำหรับมือถือเรือธง สเปกจัดเต็มของ OPPO มาพร้อมหน้าจอแบบไร้ขอบและกล้องหน้าแบบป๊อปอัพ โดยกล้องหน้าจะสไลด์ขึ้นมาตอนที่เปิดโหมดกล้องหน้า ส่วนลำโพงนั้นก็ถูกนำไปไว้รวมกับกล้องหน้าเช่นกัน ทำให้ได้หน้าจอแบบไร้ขอบโดยไม่ต้องมีติ่ง OPPO Reno จะมีแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ Standard Edition มาพร้อมกล้อง 2 เลนส์ ส่วนรุ่น 10x Hybrid Optical Zoom Edition จะมาพร้อมกล้อง 3 เลนส์และความสามารถในการซูมดิจิทัล 60 เท่า มากกว่า Huawei P30 Pro ที่ซูมได้ 50 เท่า และยังมีระบบกันสั่น OIS ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้สบาย ๆ แม้มือไม่นิ่ง
นอกจากนี้ OPPO Reno ทั้ง 2 รุ่นยังมีฟีเจอร์กล้องอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโหมดถ่ายภาพตอนกลางคืนพร้อมเทคโนโลยี HDR ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพตอนกลางคืนเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม ทั้งในส่วนที่มืดและสว่าง สีสันสวยงามสมจริงด้วยกล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ส่วนการถ่ายเซลฟี่นั้นก็ยังมี AI ช่วยปรับแต่งภาพให้ดูผิวสวยหน้าใสได้อัตโนมัติ
ราคา 16,990 บาท (Standard Edition) และราคา 28,990 บาท (Reno 10x Zoom)
มือถือระดับกลาง Android One รุ่นใหม่ และเป็นมือถือรุ่นแรกของ Motorola ที่มีดีไซน์ดูแตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอเจาะรูขนาด 6.3 นิ้ว แบบ CinemaVision ที่มีอัตราส่วน 21:9 พร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ตามสมัยนิยม และกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง รวมถึงรัน Android 9.0 Pie ที่การันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Google เป็นระยะเวลา 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 3 ปี
จุดเด่นของ Motorola One Vision นอกจากจะเป็นมือถือเพียวแอนดรอยด์แล้ว เรื่องของกล้องยังปรับปรุงให้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยมีกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.8µm เทคโนโลยี Quad Pixel ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ส่วนกล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Night Vision, กันสั่น OIS, มีเทคโนโลยี Quad Pixel, ขนาดพิกเซล 1.6µm สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซล กล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 4D ใช้กระจก Corning Gorilla Glass ไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมแบตเตอรี่ 3,500mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้เต็ม ๆ วัน และยังรองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์ TurboPower ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง
ราคา 9,990 บาท
4. Vivo Y17
มือถือซีรีส์ Y จาก Vivo มาพร้อมสเปกสุดคุ้มกับราคาไม่เกิน 10,000 บาท ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.35 นิ้ว LCD ความละเอียด HD+, Halo FullView Display (ติ่งหยดน้ำ), อัตราส่วน 19.3:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู MediaTek Helio P35, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, ตัวเครื่องดีไซน์ไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้า (Mineral Blue) และสีม่วง (Mystic Purple) แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ Dual-Engine Fast Charging กล้องหลัง 3 เลนส์ (AI Triple Camera) แบ่งเป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (Super Wide-Angle) + 2 ล้านพิกเซล (Depth) ส่วนกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล พร้อม AI Face Beauty
ราคา 6,999 บาท
มือถือระดับกลาง สเปกและดีไซน์เหมือนกับ Honor 20i ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Kirin 710, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 24 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล พร้อม AI beautify ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และใช้แบตเตอรี่ 3,400mAh
ราคา 7,990 บาท
6. Realme 3 Pro
มือถือที่สานต่อจาก Realme 2 Pro อัปเกรดสเปก ปรับดีไซน์และสีสันของตัวเครื่องใหม่ มาพร้อมหน้าจอทรงหยดน้ำตามสมัยนิยม Dewdrop Full Screen ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีพื้นที่การใช้งาน 90.8%, กระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 710 AIE, แรมสูงสุด 6GB พร้อม Hyperboost 2.0 สำหรับสายเกมมิ่ง กล้องหลัง 16 + 5 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519, รูรับแสง f/1.7, รองรับ AI scene recognition, ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล (Ultra HD mode), กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี Super Pixel 4-in-1 รองรับ AI Selfie
ราคา 6,999 บาท (แรม 4GB + 64GB) และราคา 8,999 บาท (แรม 6GB + 128GB)
7. OPPO A5s
มือถือราคาประหยัดอีกรุ่นของ OPPO โดยรุ่นนี้เป็นมือถือระดับกลางซีรีส์ A ที่สานต่อจาก OPPO A5 มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop Screen), อัตราส่วน 19:9, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beautification 2.0 และ AR Stickers, แบตเตอรี่ 4,230mAh, ซีพียู MediaTek Helio P35 แทน Snapdragon 450, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB และรัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2
ราคา 4,999 บาท
8. OPPO A1k
มือถือราคาประหยัด ระดับเริ่มต้นซีรีส์ A ของ OPPO ด้านสเปกมีหน้าจอใหญ่ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ สัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 87.43% ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22, แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 3,999 บาท
มือถือซีรีส์ Galaxy M ใหม่ของ Samsung จัดอยู่ในกลุ่มมือถือราคาประหยัด ระดับเริ่มต้น มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอใหญ่แบบ Infinity-V เป็นติ่งรูปตัว V และกล้องหลังคู่เลนส์มุมกว้าง (Wide) 120 องศา โดย Galaxy M20 มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และใช้ซีพียู Exynos 7904 Octa-Core 14nm ด้านความปลอดภัยมีทั้งสแกนใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว
ราคา 6,590 บาท (แรม 4GB + 64GB)
10. Xiaomi Mi Play
มือถือซีรีส์ใหม่ของ Xiaomi หลังจากเปิดตัวที่ประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม 2561 สำหรับรุ่นนี้ยังคงคอนเซ็ปต์มือถือสเปกสุดคุ้มในราคาที่ย่อมเยาเหมือนเดิม ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.84 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ความละเอียด Full HD+ มีติ่งทรงหยดน้ำ (Water-drop notch), ซีพียู MediaTek Helio P35 12nm + Dual Turbo Smart, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลังคู่ 12 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม มีให้เลือก 2 สี คือ Neptune Blue และ Space Black นอกจากนี้ยังมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,000mAh
ราคา 4,990 บาท
10 มือถือน่าซื้อ เดือนพฤษภาคม 2562 รุ่นไหนน่าใช้ เช็กเลย
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง