10 มือถือมาแรงน่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย
สวัสดีเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก กลับมาอัปเดตมือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้ง หลังจากจบงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบต้นปีไปแล้ว สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน เช่น Huawei nova 4 มือถือซีรีส์ nova รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอ Punch Display รุ่นแรกในประเทศไทย หรืออีกรุ่นที่เป็นแบรนด์ย่อยของค่าย Huawei อย่าง Honor 10 Lite มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ก็น่าสนใจอีกรุ่น สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี เราคัดมาให้แล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
มือถือหน้าจอ Punch Display รุ่นแรกในไทย นำเทรนด์ใหม่ล่าสุดก่อนใคร บนหน้าจอดีไซน์ใหม่ล่าสุดไร้ติ่ง ไร้ขอบขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 86.3% กว้างเต็มตากว่าเดิม สเปกระดับเรือธง ซีพียู Kirin 970 พร้อม GPU Turbo 2.0 ทำให้เล่นเกมได้มันไม่มีสะดุด พร้อมให้สัมผัสประสบการณ์ AI ที่ฉลาดล้ำยิ่งขึ้นบน EMUI 9.0 มาพร้อมแรมถึง 8 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128GB รวมทั้งกล้อง 3 กล้องที่มีเลนส์ Ultra Wide ถ่ายรูปมุมกว้างได้ครบแม้ในพื้นที่จำกัด (ความละเอียด 16MP + 20MP + 2MP) กล้องหน้า AI Selfie Superstar ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล เด่นด้วยฟีเจอร์ถ่ายภาพเซลฟี่ที่ปรับแต่งภาพให้สวยงามในคุณภาพระดับภาพถ่ายโปสเตอร์ พร้อมด้วยการถ่ายภาพเซลฟี่แบบ HDR Pro ที่มี AI ช่วยจำแนกภาพถ่ายเซลฟี่ได้ถึง 8 แบบ มากกว่า 200 ฉาก และแบตเตอรี่ขนาด 3,750 mAh
ราคา 16,990 บาท (แรม 8GB + 128GB)
มือถือระดับกลางจากค่าย Honor สเปกสุดคุ้ม กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI เอาใจคนชอบถ่ายเซลฟี่ด้วยราคาสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop Notch) อัตราส่วน 19:5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90% ใช้ซีพียู Kirin 710, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ GPU Turbo 2.0, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ AI portraits และ AI scene detection ที่สามารถแยกซีนได้ 22 แบบ, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI selfies, ด้านหลังตัวเครื่องวัสดุเป็นกระจกไล่เฉดสี มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้าสกายบลู (Sky blue), สีน้ำเงินเข้ม (Sapphire blue) และสีดำ (Midnight black) มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,400mAh
ราคา 6,490 บาท
มือถือที่สานต่อความสำเร็จมือถือราคาประหยัดอย่าง Huawei Y7 Pro 2018 พร้อมอัปเกรดสเปก ปรับโฉมใหม่ สีสันไล่เฉดสวยงาม มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด HD+ หน้าจอทรงหยดน้ำ (Waterdrop notch), ใช้ซีพียู Snapdragon 450 Octa-Core, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ AI Scene Detection และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้ 2 วัน วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก แต่ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้าแทน
ราคา 4,990 บาท
4. Vivo Y91
มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Y ที่สานต่อจาก Vivo Y91i โดยมีสเปกคล้ายกันบางส่วน พร้อมกับขยับราคาขึ้นเล็กน้อย มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762R (Helio P22), แรม 3GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ราวกับมืออาชีพ พื้นหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake), สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคา 5,999 บาท
สำหรับใครที่ชอบมือถือเพียวแอนดรอยด์ ล่าสุดทาง Nokia ได้ปรับราคาใหม่อีกครั้ง โดยรุ่นนี้เป็นมือถือที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของ Google ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แบบ Pure Android ไม่มีอินเทอร์เฟซมาครอบทับ การันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ และความปลอดภัยเป็นประจำเป็นเวลา 2 ปี ส่วนด้านสเปกก็เหมือนกับรุ่น Nokia X6 มาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมติ่ง (Notch) อัตราส่วน 19:9 ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามดูหรูหรา โดยใช้วัสดุที่เป็นกระจกถึง 95% และโลหะเป็นเฟรม ใช้ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 400GB, รองรับ Dual VoLTE และแบตเตอรี่ 3,060mAh รองรับ Quick Charge 3.0 ชาร์จจาก 0-50% ใน 30 นาที
ราคา 6,990 บาท
มือถือที่ขายดีอีกรุ่นของ Huawei ล่าสุดมาพร้อมสีใหม่ Aurora Purple สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือ 4 กล้องที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์ 3D ARC ขอบตัวเครื่องโค้งมนสวยงาม พร้อมไฉ่เฉดสีตัวเครื่องใหม่ Aurora Purple ที่จะขายในงาน Thailand Mobile Expo 2019 เป็นครั้งแรก ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Kirin 710 พร้อมเทคโนโลยี GPU Turbo, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI, มีสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint 4.0) ด้านหลังตัวเครื่อง เคลมว่าปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.3 วินาที และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 6,990 บาท
ยังคงได้รับความสนใจและถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องกับมือถือระดับกลางราคาประหยัดของ Xiaomi มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรอยบาก ใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, f/1.9 รองรับ AI scene recognition สามารถแยกซีนได้ 238 ซีน, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI beautify, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกไล่เฉดสีสวยงาม และแบตเตอรี่ 3,350mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคา 9,990 บาท (แรม 6GB + 128GB), 7,990 บาท (4GB + 64GB)
8. Vivo Y95
มือถือระดับกลางราคาประหยัด ซีรีส์ Y เพิ่มอีกรุ่น โดยสเปกรุ่นนี้คล้ายกับ vivo Y93 แต่ต่างกันที่กล้องหน้า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ติ่งรูปหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.6% ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 439 12nm, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า, และรองรับ AI ทั้งกล้องหน้าและหลัง, มีสแกนลายนิ้วมือ, ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,030mAh
ราคา 6,999 บาท
มือถือกล้อง 3 เลนส์ที่มาพร้อม AI มีหน้าจอแบบไร้ขอบทั้งสองรุ่น โดยหน้าจอของ Mate 20 จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีรอยบากเล็กกว่า Mate 20 Pro แต่ Mate 20 Pro จะมีสเปกที่สูงกว่า ลำโพงจะถูกย้ายไปไว้ที่ขอบเครื่องแทน พร้อมทั้งเปิดตัว SD card แบบใหม่ของ Huawei โดยเฉพาะ มีชื่อว่า nanaSD card สำหรับใช้ใส่เพิ่มความจุให้ Mate 20 และ Mate 20 Pro
Huawei Mate 20 มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 18.7:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 4/6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,000mAh มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0
Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมหน้าจอโค้ง OLED ขนาด 6.39 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,200mAh รองรับชาร์จไร้สาย มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังในหน้าจอ ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. กันน้ำ IP68 Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0
ราคา 21,990 บาท (Mate 20) และราคา 31,990 บาท (Mate 20 Pro)
10. Realme 2 Pro
Realme แบรนด์ลูกของ OPPO ส่งมือถือรุ่นใหม่สู่ประเทศไทย มาพร้อมหน้าจอทรงหยดน้ำตามสมัยนิยม โดยทาง Realme เรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Dewdrop Full Screen มีขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีพื้นที่การใช้งาน 90.8%, กระจก Gorilla Glass, ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรม 4GB/8GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, มี AI scene recognition, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty และแบตเตอรี่ 3,500mAh
ราคา 6,590 บาท (แรม 4GB + 64GB), 8,990 บาท (แรม 8GB + 128GB)
10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนมกราคม 2562 รุ่นไหนเด็ด เช็กเลย
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง