10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบต้นปี วันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ไบเทค บางนา มีมือถือในงาน Mobile Expo 2019 รุ่นไหนน่าซื้อบ้าง
กลับมาอีกครั้งกับงาน Thailand Mobile Expo 2019 งานมหกรรมมือถือครั้งยิ่งใหญ่ของไทย ซึ่งถือว่าเป็นงานแสดงโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดต้อนรับปี 2019 โดยในปีนี้ได้เปลี่ยนสถานที่จัดงานจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นที่ไบเทค บางนาแทน งานจะจัดขึ้นในวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2562 ภายในงานยังคงคึกคักด้วยมือถือรุ่นใหม่ ๆ และแก็ดเจ็ตสุดล้ำให้ได้ชมกันอย่างมากมาย รวมถึงโปรโมชั่นเด็ด ลด แลก แจก แถม กันเหมือนเดิม
สำหรับใครที่กำลังจะเปลี่ยนมือถือใหม่ หรือตัดสินใจไม่ถูกไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี วันนี้กระปุกดอทคอมขอแนะนำ 10 มือถือน่าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo 2019 มีให้เลือกหลายราคา และอย่าลืมว่ามือถือที่ซื้อภายในงานมีโปรโมชั่นพร้อมของแถมอีกมากมาย ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้าง มาติดตามกันเลย
มือถือซีรีส์ nova รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอ Punch Display รุ่นแรกในประเทศไทย นำเทรนด์ใหม่ล่าสุดก่อนใคร บนหน้าจอดีไซน์ใหม่ล่าสุดไร้ติ่ง ไร้ขอบขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 86.3% กว้างเต็มตากว่าเดิม สเปกระดับเรือธงด้วยขุมพลัง Kirin 970 ให้ใช้งานได้อย่างเร็ว แรง ไหลลื่น ร่วมกับ GPU Turbo 2.0 ทำให้เล่นเกมได้มันไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ก็ยังมี AI ที่ฉลาดล้ำยิ่งขึ้นบน EMUI 9.0 มาพร้อมแรมถึง 8GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128GB รวมทั้งกล้อง 3 กล้องที่มีเลนส์ Ultra Wide ถ่ายรูปมุมกว้างได้ครบแม้ในพื้นที่จำกัด (ความละเอียด 16MP + 20MP + 2MP) กล้องหน้า AI Selfie Superstar ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล เด่นด้วยฟีเจอร์ถ่ายภาพเซลฟี่ที่ปรับแต่งภาพให้สวยงามในคุณภาพระดับภาพถ่ายโปสเตอร์ พร้อมด้วยการถ่ายภาพเซลฟี่แบบ HDR Pro ที่มี AI ช่วยจำแนกภาพถ่ายเซลฟี่ได้ถึง 8 แบบ มากกว่า 200 ฉาก และแบตเตอรี่ขนาด 3,750mAh
ราคา 16,990 บาท (แรม 8GB + 128GB)
เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อย มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ จากค่าย Honor สเปกสุดคุ้ม กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI เอาใจคนชอบถ่ายเซลฟี่ด้วยราคาสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop Notch) อัตราส่วน 19:5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90% ใช้ซีพียู Kirin 710, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ GPU Turbo 2.0, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ AI portraits และ AI scene detection ที่สามารถแยกซีนได้ 22 แบบ, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI selfies, ด้านหลังตัวเครื่องวัสดุเป็นกระจกไล่เฉดสี มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้าสกายบลู (Sky blue), สีน้ำเงินเข้ม (Sapphire blue) และสีดำ (Midnight black) มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,400mAh
ราคา 6,490 บาท
3. Vivo Y91
มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Y เพิ่มอีกรุ่น ต่อจาก Vivo Y91i โดยมีสเปกคล้ายกันบางส่วน พร้อมกับขยับราคาขึ้นเล็กน้อย มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762R (Helio P22), แรม 3GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ราวกับมืออาชีพ พื้นหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake), สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคา 5,999 บาท
มือถือ 4 กล้องที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์ 3D ARC ขอบตัวเครื่องโค้งมนสวยงาม พร้อมไฉ่เฉดสีตัวเครื่องใหม่ Aurora Purple ที่จะขายในงาน Thailand Mobile Expo 2019 เป็นครั้งแรก ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Kirin 710 พร้อมเทคโนโลยี GPU Turbo, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI, มีสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint 4.0) ด้านหลังตัวเครื่อง เคลมว่าปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.3 วินาที และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 6,990 บาท
5. Motorola One
สำหรับใครที่ชอบสายแอนดรอยด์เพียว ขอแนะนำมือถือ Android One รุ่นใหม่ของ Motorola มาพร้อมหน้าจอแหว่งตามสมัยนิยมขนาด 5.9 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ใช้ซีพียู Snapdragon 625, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) รองรับการอัปเดต Android 9.0 (Pie) ส่วนแบตเตอรี่ 3,000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว TurboPower เคลมว่าชาร์จ 15 นาทีใช้งานได้ 4.5 ชั่วโมง
ราคา 7,990 บาท (ในงานมีราคาพิเศษ)
6. OPPO R17 Pro
มือถือซีรีส์ R จากค่าย OPPO มีกล้องหลังถึง 3 เลนส์ โดยเลนส์ตัวแรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 และ f/2.4 ตัวเลนส์สามารถสลับรูรับแสงตามสภาพแสงที่ถ่ายให้อัตโนมัติ แถมยังมีกันสั่น OIS มาให้อีกด้วย กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพในโหมด Portrait รวมถึงการซูม ส่วนกล้องตัวที่ 3 เรียกว่า Time of Flight (TOF) 3D ใช้สำหรับตรวจจับภาพวัถตุเกี่ยวกับความลึกแบบ 3D มีความแม่นยำสูงโดยใช้การวัดค่าผ่านแสงอินฟราเรด
ใช้ซีพียูรุ่นรองท็อปอย่าง Snapdragon 710 มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบากทรงหยดน้ำ (Waterdrop Screen) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.5% ใช้กระจกรุ่นใหม่ Corning Gorilla Glass 6, รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.41 วินาที รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล รองรับ AI, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB และแบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับ SuperVOOC fast charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-40% ในเวลา 10 นาที
ราคา 24,990 บาท (แรม 8GB + 128GB) ซื้อในงานได้ของแถมสุดพิเศษ OPPO Tripod และ Sharp AQUOS LED Digital TV 32” รวมมูลค่ากว่า 8,190 บาท
7. Xiaomi Mi 8
มือถือเรือธง สเปกจัดเต็ม ฟีเจอร์อัดแน่น ในราคาที่คุ้มค่าเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:7:9 มีรอยบากด้านบน คิดเป็นพื้นที่การใช้งาน 88.5% ความสว่างสูงสุด 600 nits, วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจกและโลหะ, ใช้ซีพียู Snapdragon 845, แรม 6GB/8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB/256GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลังคู่ 12 + 12 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363, ขนาดพิกเซล 1.4µm, กันสั่น OIS, Dual Pixel auto focus รองรับ AI Portraits และ AI Scene Recognition และกล้องของรุ่นนี้ยังได้รับคะแนนการถ่ายภาพจาก DxOMark ถึง 105 คะแนน ส่วนคะแนนภาพรวมอยู่ที่ 99 คะแนน
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับ AI Portrait Selfies, AI Studio Light Effect, ปลดล็อกด้วยใบหน้า และใช้ระบบ GPS คู่ (Dual GPS) เพื่อเพิ่มความแม่นยำของ GPS และลดปัญหาสัญญาณดีเลย์ ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 3,400mAh รองรับ Quick Charge 4+
ราคา 14,999 บาท (แรม 6GB + 128GB) และราคา 12,999 บาท (แรม 6GB + 64GB) แถมฟรี หน้ากาก ZHIMI Anti-pollution mask
8. OPPO A7
มือถือซีรีส์ A จาก OPPO มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ พร้อมติ่งรูปหยดน้ำ (Waterdrop Screen) ความละเอียด HD+ สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 88.4% โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ดีไซน์สวยด้วยสีทองสว่าง (Glaring Gold) และสีน้ำเงินเข้ม (Glaze Blue) พร้อมลวดลายที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และยังเคลือบสาร Anti-reflective coating มาบนฝาหลังสามารถเพิ่มความสว่างถึง 37% และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต จากวัสดุแมกนีเซียมที่ใช้ช่วยป้องกันความร้อนจากแบตเตอรี่ขณะการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ด้านสเปกใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI beauty, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด HDR ให้การเซลฟี่ของคุณชัดและสว่างขึ้นแม้สภาวะที่มีแสงน้อย และเพิ่มความสนุกด้วย AR Stickers
ราคา 6,990 บาท
9. Vivo Y91i
อีกหนึ่งมือถือสุดคุ้มอีกรุ่นจาก Vivo เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762r (Helio P22), แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ราวกับมืออาชีพ พื้นหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake), สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคา 4,799 บาท (แรม 2GB + 16GB) และราคา 4,999 บาท (แรม 2GB + 32GB)
10. Moto G6 Plus
ฮัลโหลโมโต ! สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือเน้นใช้งานลื่น ๆ แบบ Pure Android ต้องรุ่นนี้เลย Moto G6 Plus ชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่แบบ 18:9 เน้นการใช้งานที่ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รวมถึงกล้องถ่ายภาพแบบคู่ พร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัยและดูพรีเมียมกว่ารุ่นก่อน ๆ
สเปกของ Moto G6 Plus มีหน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว Max Vision ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 630 Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz, จีพียู Adreno 508, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash และแบตเตอรี่ 3,200mAh รองรับ Turbo Charge
ราคา 7,990 บาท
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง