มีงบ 5,000 บาท ซื้อมือถือรุ่นไหนดี ในงาน Mobile Expo 2019

          อยากได้มือถือใหม่ แต่มีงบ 5,000 บาท ซื้อมือถือรุ่นไหนดี ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบต้นปี มาดูมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท มีรุ่นไหนให้เลือกซื้อบ้าง

          สำหรับใครที่มีงบจำกัด อยากได้มือถือใหม่ที่อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 5,000 บาท สเปกคุ้มค่า เน้นการใช้งานทั่วไป แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี โดยเฉพาะจะไปซื้อมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 งานมหกรรมมือถือสุดยิ่งใหญ่รอบต้นปี 2019 จัดขึ้นวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ไบเทค บางนา วันนี้กระปุกดอทคอมลงพื้นที่สำรวจงาน Thailand Mobile Expo 2019 มีมือถือสำหรับคนที่มีงบ 5,000 บาท มาให้เลือก ส่วนจะมีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง มาติดตามกันเลย

1. Vivo Y91i

          อีกหนึ่งมือถือสุดคุ้มอีกรุ่นจาก Vivo เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762r (Helio P22), แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ราวกับมืออาชีพ พื้นหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake), สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh เมื่อซื้อในงานรับของแถมฟรี เช่น ลำโพงมาสคอต, Premium Gift, ขวดแก้วน้ำ, พวงกุญแจ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ราคา 4,799 บาท (แรม 2GB + 16GB) และราคา 4,999 บาท (แรม 2GB + 32GB)

2. OPPO A3s

          อยากได้มือถือหน้าจอใหญ่ ๆ ต้องรุ่นนี้เลยมือถือซีรีส์ A  จาก OPPO ที่ปรับราคาใหม่อีกครั้ง มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบาก (notch) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 87.8% ใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.1, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด portrait, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty 2.0 และรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง (ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ) แบตเตอรี่ 4,230mAh เคลมว่าสามารถเล่นวิดีโอนาน 14 ชั่วโมง และเล่นเกมต่อเนื่องนาน 11 ชั่วโมง

ราคา 4,699 บาท (แรม 2GB + 16GB)

3. Xiaomi Redmi 6A

          มือถือราคาประหยัด ระดับเริ่มต้นที่ลดสเปกมาจากรุ่น Redmi 6 พร้อมปรับราคาใหม่ และมีของแถมอย่าง Mi Fidget Cube และ Mi In-Ear Headphones Basic ให้อีกด้วย ด้านสเปกใช้ซีพียู MediaTek Helio A22 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 12nm Quad-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับ AI Portrait mode, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้าแทน ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีเทา, สีฟ้า และสีทอง ส่วนรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ 3,000mAh

ราคา

          - แรม 2GB + 16GB ราคา 2,999 บาท (ราคาปกติ 3,590 บาท)
          - แรม 2GB + 32GB ราคา 3,333 บาท (ราคาปกติ 3,990 บาท)

4. OPPO A7

          มือถือซีรีส์ A จาก OPPO มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ พร้อมติ่งรูปหยดน้ำ (Waterdrop Screen) ความละเอียด HD+ สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 88.4% โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ดีไซน์สวยด้วยสีทองสว่าง (Glaring Gold) และสีน้ำเงินเข้ม (Glaze Blue) พร้อมลวดลายที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และยังเคลือบสาร Anti-reflective coating มาบนฝาหลังสามารถเพิ่มความสว่างถึง 37% และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต จากวัสดุแมกนีเซียมที่ใช้ช่วยป้องกันความร้อนจากแบตเตอรี่ขณะการใช้งานได้เป็นอย่างดี

          ด้านสเปกใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI beauty, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด HDR ให้การเซลฟี่ของคุณชัดและสว่างขึ้นแม้สภาวะที่มีแสงน้อย และเพิ่มความสนุกด้วย AR Stickers

ราคาพิเศษ 3,490 บาท (ติดโปร) เมื่อซื้อผ่านทรูมูฟ เอช จ่ายล่วงหน้า 1,500 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Fun Unlimited 699 บาทขึ้นไป สัญญา 12 เดือน

5. Nokia 2.1

          มือถือ Android Oreo (Go edition) ระดับล่าง ราคาถูก รุ่นอัปเกรดสเปกของ Nokia 2 มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD, อัปเกรดซีพียูใหม่เป็น Snapdragon 425 (Nokia 2 ใช้ Snapdragon 212), แรม 1GB, หน่วยความจำ 8GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเป็นโพลีคาร์บอเนตเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่สีสันเล็กน้อย และจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ แบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้นาน 2 วัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อซื้อในงานรับฟรีเสื้อยืดและ microSD ขนาด 16GB

ราคา 3,390 บาท

6. Moto E5 Plus

          มือถือราคาประหยัดซีรีส์ E สานต่อจาก Moto E4 Plus ยังคงชูจุดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6 นิ้ว แบบ Max Vision display ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม พร้อมแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 5,000mAh รองรับ 15W TurboPower ชาร์จแค่ 15 นาที ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมง สำหรับรุ่นนี้เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น งบประมาณจำกัด อยากได้มือถือที่เน้นความคุ้มค่า แบตเตอรี่อึด หน้าจอใหญ่ ดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัย

ราคา 4,990 บาท

7. Wiko View Max

          มือถือหน้าจอขนาดใหญ่ 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 สนุกได้ทั้งวันกับแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 4,000mAh ทุกภาพถ่ายคมชัดสดใสด้วยกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่คมชัดแม้แสงน้อย ใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกันได้ไม่สะดุด เสริมความปลอดภัยด้วยระบบสแกนนิ้ว (Fingerprint) และระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง (Face Unlock) ซีพียู Mediatek MT6739WA, Quad-Core 1.3 GHz, Cortex-A53, จีพียู PowerVR GE8100, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB พร้อมดีไซน์เรียบหรู 3 สี ได้แก่ ดำแอนทราไซต์ (Anthracite) สีทอง (Gold) และสีแดงเชอร์รีเรด (Cherry Red)

ราคา 3,890 บาท

10 มือถือน่าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบต้นปี

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย