โทรศัพท์กันน้ำ 2024 ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนบ้าง ?

          มัดรวมโทรศัพท์กันน้ำ 2024 ที่มีคุณสมบัติ IP68 กันน้ำได้ดี แม้ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้ว

 

           โทรศัพท์มือถือหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันโดยเฉพาะรุ่นระดับเรือธง มักจะมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำในตัว ซึ่งความสามารถในการกันน้ำนั้นจะมีหลายระดับ บางรุ่นก็กันได้เพียงละอองน้ำหรือป้องกันน้ำกระเด็นใส่ แต่บางรุ่นก็สามารถแช่ลงน้ำได้เลย สำหรับใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์กันน้ำมาใช้สักเครื่อง เราก็ได้คัดเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 (หรือ IPX8) ซึ่งเป็นระดับที่กันน้ำได้ดีที่สุด มาแนะนำเพื่อน ๆ กันแล้ว จะสถานการณ์ไหนก็หมดห่วงเรื่องน้ำเข้าเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำโทรศัพท์ตกน้ำหรือเปียกขณะเล่นน้ำในวันสงกรานต์

IP68 กันน้ำได้แค่ไหน

          IP ย่อมาจาก Ingress Protection เป็นมาตรฐานสากลสำหรับวัดระดับการกันน้ำและกันฝุ่นของอุปกรณ์ และจะมีตัวเลขตามหลัง IP อีก 2 ตัว โดยตัวเลขแรกหมายถึง ระดับการป้องกันของแข็ง รวมถึงฝุ่น มีระดับตั้งแต่ 0-6 ส่วนตัวเลขหลังหมายถึง ระดับการกันน้ำของอุปกรณ์ มีระดับ 0-9 ซึ่งสำหรับการกันน้ำเราจะดูที่ตัวเลขหลังสุดเป็นหลัก โดย IP68 จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามือถือรุ่นนั้นสามารถกันน้ำลึกกว่า 1 เมตร ได้นานกว่า 30 นาทีนั่นเอง โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ค่าตัวเลข IPXX ของมือถือกันน้ำหมายความว่าอะไรบ้าง ?

โทรศัพท์กันน้ำ 2024 ยี่ห้อไหนดี

1. Xiaomi 14 Series

ภาพจาก : mi.com

          มือถือซีรีส์เรือธงปี 2024 ของ Xiaomi ที่ในรุ่นรองอย่าง Xiaomi 14 จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ Refresh Rate 1-120Hz ใช้ชิปตัวแรงล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ 5G แรม 12GB ทำให้ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 512GB กล้องหลัง LEICA VARIO-SUMMILUX 3 เลนส์ กล้องหลัก Light Fusion 900 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.31 นิ้ว กล้องหน้า 32MP กันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ 4610mAh ชาร์จเร็ว 90W ชาร์จไร้สาย 50W และรัน Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS ส่วนรุ่นท็อป Xiaomi 14 Ultra จะมีสเปกหลาย ๆ อย่างที่สูงกว่า ประกอบไปด้วย หน้าจอ All Around Liquid Display AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ แรม 16GB ช่วยให้เปิดใช้งานหลายแอปฯ ได้ไม่หน่วง กล้องหลัก LYT-900 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว พร้อมเลนส์ Periscope แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จไร้สาย 80W

          - Xiaomi 14 ราคา 29,990 บาท
          - Xiaomi 14 Ultra ราคา 40,990 บาท

2. Samsung Galaxy S24 Series

ภาพจาก : samsung.com

          มือถือเรือปี 2024 จาก Samsung มาพร้อม Galaxy AI ในตัว ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะช่วยยกระดับการใช้มือถือในชีวิตประจำวันไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยแปลภาษา สรุปงาน หาข้อมูล หรือการช่วยถ่ายและแต่งรูปให้สวย โดยไม่จำเป็นต้องโหลดแอปฯ มาติดตั้งเพิ่มเติม โดยรุ่นท็อปสุดอย่าง Galaxy S24 Ultra ที่เป็นตัวท็อปสุด จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว QHD+ 120Hz ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 แรม 12GB ความจุเลือกได้สูงสุด 1TB กล้องหลัง 4 เลนส์ มีความละเอียดสูงถึง 200MP OIS พร้อมเลนส์ Periscope ที่รองรับ Optical Zoom 5x กล้องหน้า 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1

          - Galaxy S24 8GB/256GB ราคา 33,900 บาท
          - Galaxy S24 8GB/512GB ราคา 37,900 บาท
          - Galaxy S24+ 12GB/256GB ราคา 38,900 บาท
          - Galaxy S24+ 12GB/512GB ราคา 43,900 บาท
          - Galaxy S24 Ultra 12GB/256GB ราคา 46,900 บาท
          - Galaxy S24 Ultra 12GB/512GB ราคา 52,900 บาท
          - Galaxy S24 Ultra 12GB/1TB ราคา 62,900 บาท

3. vivo X100 Series

ภาพจาก : vivo.com

          มือถือตระกูลเรือธงจาก vivo โดยรุ่นท็อปอย่าง X100 Pro จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Dimensity 9300 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 16GB ความจุ 512GB กล้องหลัง Zeiss 50MP OIS พร้อมเลนส์ Super Wide-Angle 50MP และ APO Floating Telephoto 50MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge กันน้ำ กันฝุ่น IP68 และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14

          - vivo X100 ราคา 26,999 บาท
          - vivo X100 Pro ราคา 37,999 บาท

4. Redmi Note 13 Pro+ 5G

ภาพจาก : mi.com

          มือถือตัวท็อปของตระกูล Redmi Note 13 จาก Xiaomi ที่มีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ CrystalRes AMOLED ขอบโค้ง 1.5K ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล 120Hz และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7200-Ultra รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรมสูงสุด 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้ละเอียดและนิ่ง กล้องหน้า 13MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็วถึง 120W มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14

          - รุ่น 8GB/256GB ราคา 13,990 บาท
          - รุ่น 12GB/512GB ราคา 15,990 บาท

5. Sony Xperia 5 V

ภาพจาก : sony.co.th

          มือถือเรือธง Sony รุ่นรองของ Xperia 1 V ที่มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 52MP กล้องหน้า 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว PD ชาร์จไร้สาย Qi การแชร์แบตเตอรี่ และรันระบบปฏิบัติการ Android 13

          - ราคา 39,990 บาท

6. Xiaomi 13T Series

ภาพจาก : mi.com

          มือถือสเปกระดับกลาง-เรือธงที่แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro โดยรุ่นรอง Xiaomi 13T จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8200-Ultra รองรับ 5G แรม 12GB สามารถใช้งานและเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 256GB กล้องหลัง Leica 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 20MP แบตเตอรี่ 5000mAh ฟังเพลงได้ 100 ชั่วโมง เล่นวิดีโอได้ 16 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จเต็มในเวลา 42 นาที มีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 และรัน Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14 สแกนนิ้วในหน้าจอ ส่วนตัวท็อป Xiaomi 13T Pro จะมีสเปกบางอย่างสูงกว่า ประกอบไปด้วย ชิปประมวลผลที่ใช้ชิปตัวแรงอย่าง Dimensity 9200+ แรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 1TB ลงแอปฯ ลงเกม เก็บรูปได้เยอะจุใจ แบตเตอรี่ 5000mAh ฟังเพลงได้นาน 73 ชั่วโมง ดูวิดีโอได้นาน 17 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge ชาร์จแบบโหมดเพิ่มประสิทธิภาพเต็มใน 19 นาที และชาร์จแบบโหมดมาตรฐานเต็มใน 24 นาที นอกจากนี้ยังเพิ่มการรองรับ Wi-Fi 7 อีกด้วย

           - Xiaomi 13T 12GB/256GB ราคา 15,990 บาท
           - Xiaomi 13T Pro 12GB/512GB ราคา 19,990 บาท
           - Xiaomi 13T Pro 16GB/1TB ราคา 23,990 บาท

7. Samsung Galaxy S23 FE

ภาพจาก : samsung.com

          มือถือเรือธงรุ่นน้องเล็กของตระกูล Samsung Galaxy S23 Series ที่มาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ชิปประมวลผล Exynos 2200 รองรับ 5G แรม 8GB สามารถใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 128GB/256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 10MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

          - รุ่นความจุ 128GB ราคา 21,400 บาท
          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 24,400 บาท

8. iPhone 15 Series

ภาพจาก : apple.com

          มือถือปี 2023 จาก Apple ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68 โดยในรุ่นนี้มีการอัปเกรดชิปประมวลผลให้เร็วแรงกว่าเดิม กล้องที่ถ่ายรูปได้ประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับในรุ่น Pro จะใช้ชิป A17 Pro ส่วนดีไซน์ของทั้ง 4 รุ่นนั้นจะมีการปรับปรุงให้ขอบตัวเครื่องมีความมนกว่าเดิม รวมทั้งเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว และในคราวนี้หน้าจอของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะมาพร้อม Dynamic Island ด้วย ส่วน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะเปลี่ยนไปใช้วัสดุตัวเครื่องแบบไทเทเนียมที่มีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม เพิ่มปุ่มแอ็คชั่นด้านข้างเครื่องที่สามารถตั้งให้เป็นปุ่มลัดตามต้องการได้ เช่น สลับโหมดเปิด/ปิดเสียง หรือสั่งเปิดแอปฯ ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไร้สาย MagSafe 15W และ Qi 7.5W

          - iPhone 15 ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
          - iPhone 15 Plus ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
          - iPhone 15 Pro ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
          - iPhone 15 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท

9. Samsung Galaxy Z Flip5

ภาพจาก : samsung.com

          โทรศัพท์มือถือดีไซน์ฝาพับที่มาพร้อมหน้าจอด้านนอก Flex Window เป็น Super AMOLED ขนาดใหญ่ 3.4 นิ้ว ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล ซึ่งถือเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าจอนอกของรุ่นอื่น ๆ ในตลาดขณะนี้ โดยสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอนอกได้ตามที่ชอบ ส่วนหน้าจอหลักด้านใน Dynamic AMOLED 2X มีขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 1-120Hz พร้อมปรับปรุง Flex Mode เพิ่มแผงควบคุมการเล่นสื่อบันเทิงได้สะดวก บานพับเป็นแบบใหม่ Flex Hinge ที่มีความทนทานยิ่งขึ้น ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 8GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลังคู่ 12MP กล้องหน้า 10MP มีฟีเจอร์ FlexCam ให้สามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้ แบตเตอรี่ 3700mAh สามารถฟังเพลงได้นาน 57 ชั่วโมง และดูวิดีโอ 20 ชั่วโมง มีคุณสมบัติกันน้ำ IPX8 และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1.1

          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 39,900 บาท
          - รุ่นความจุ 512GB ราคา 45,900 บาท

10. Samsung Galaxy Z Fold5

ภาพจาก : samsung.com

          โทรศัพท์พับได้รุ่นใหญ่ที่มีหน้าจอหลักด้านใน QXGA+ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2176 x 1812 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 1-120Hz พร้อมบานพับเป็นแบบใหม่ Flex Hinge หน้าจอด้านนอก HD+ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2316 x 904 พิกเซล Refresh Rate 48-120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุสูงสุด 1TB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Telephoto ที่รองรับ Optical Zoom 3x, Space Zoom 30x กล้องหน้าบนจอนอก 10MP และกล้องหน้าบนจอหลัก 4MP แบตเตอรี่ 4400mAh สามารถฟังเพลงได้นาน 73 ชั่วโมง ดูวิดีโอได้นาน 21 ชั่วโมง ตัวเครื่องมีความหนาเพียง 13.4 มม. และเบาเพียง 253 กรัม มีคุณสมบัติกันน้ำ IPX8 รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับปากกา S Pen ได้ และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1.1

          - รุ่นความจุ 256GB ราคา 59,900 บาท
          - รุ่นความจุ 512GB ราคา 65,900 บาท
          - รุ่นความจุ 1TB ราคา 75,900 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

          สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง

           ทั้งหมดนี้ก็คือโทรศัพท์กันน้ำ IP68 รุ่นเด่น ๆ ที่กำลังจำหน่ายในช่วงปีนี้ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหาโทรศัพท์กันน้ำได้อยู่ก็น่าจะตัดสินใจเลือกกันง่ายขึ้น แต่ถึงแม้ว่าจะใช้มือถือกันน้ำแล้ว การระวังไม่ให้โทรศัพท์ตกน้ำหรือเปียกน้ำไว้ก่อนก็น่าจะดีที่สุดนะครับ

บทความโทรศัพท์มือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

          - โทรศัพท์ Samsung 2024 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เช็กราคาได้ที่นี่
          - โทรศัพท์มือถือ vivo 2024 รุ่นไหนดี เช็กสเปกและราคาได้ที่นี่เลย !
          - มือถือราคาไม่เกิน 15,000 ปี 2024 มัดรวมรุ่นระดับกลางขึ้นไป
          - มือถือราคาไม่เกิน 7,000 บาท ปี 2024 มีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน
          - มือถือราคาไม่เกิน 4,000 บาท ปี 2024 มีงบจำกัด จะซื้อรุ่นไหนดี ?

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mi.com, samsung.com, vivo.com, sony.co.th, apple.com