อยากได้มือถือใหม่ แต่มีงบไม่เกิน 5,000 บาท ซื้อมือถือรุ่นไหนดี ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบปลายปี มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง
กลับมาอีกครั้งกับงาน Thailand Mobile Expo 2019 งานที่รวมมือถือและแก็ดเจ็ตจากหลากหลายแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งท้ายปี 2019 สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ แต่มีงบจำกัด อยากได้มือถือที่มีราคาไม่เกิน 5,000 บาท สเปกคุ้มค่า เน้นการใช้งานทั่วไป แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี และกำลังจะไปซื้อมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 วันที่ 3-6 ตุลาคม 2562 ที่ไบเทค บางนา วันนี้กระปุกดอทคอมมี 10 มือถือสำหรับคนที่มีงบไม่เกิน 5,000 บาท มาแนะนำ ส่วนจะมีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง มาติดตามกันเลย
1. Realme 5
มือถือราคาประหยัดอีกปรับสเปกจากรุ่น Realme 5 Pro แต่ก็ยังคุ้มค่า โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งหยดน้ำเล็ก ๆ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89% มีกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ความจุมากถึง 5,000mAh สามารถสแตนด์บายได้ 29.9 วัน คุยต่อเนื่อง 49 ชั่วโมง ใช้ซีพียู Snapdragon 665 11nm แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB/128GB และรัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, รองรับ AI Scene recognition + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 119 องศา (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) + 2 ล้านพิกเซล (4cm macro) วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นพลาสติกสีแบบ Holographic และลวดลาย Crystal Design ใช้เทคนิคที่ทำให้เหมือนกับกระจก รวมถึงเคลือบสารกันน้ำ และมีแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10 วัตต์
ราคา 4,599 บาท (แรม 3GB/64GB)
2. OPPO A5 2020
มือถือราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม ดีไซน์ฝาแฝด OPPO A9 2020 ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ Waterdrop Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์แบบ 3D, ซีพียู Snapdragon 665 พร้อม Game Boost 2.0, แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 12+8+2+2 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด Ultra Wide และ Ultra Night Mode 2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AI Beauty 2.0 และตอบโจทย์ด้านความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมกับลำโพงสเตอริโอแบบคู่ และปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นได้
ราคา 4,999 บาท (แรม 3GB/64GB)
มือถือซีรีส์ A อีกรุ่น ที่อัปเกรดสเปกใหม่จากรุ่น Galaxy A10 โดยรุ่นนี้ส่วนที่เปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ก็จะเป็นการเพิ่มสแกนลายนิ้วมือ, กล้องหลังคู่ และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ด้านสเปกอื่น ๆ เหมือนเดิม มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ Infinity-V (ติ่งตัว V), ซีพียู Exynos Octa-Core, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Samsung One UI, กล้องหลังคู่ 13 +2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับสแกนใบหน้า (Face Unlock) และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 4,490 บาท (แรม 2GB/32GB)
มือถือระดับกลางซีรีส์ Y จาก Vivo มีสเปกสุดคุ้มกับราคาที่น่าสนใจ มาพร้อมหน้าจอ 6.35 นิ้ว Halo FullView Display ติ่งทรงหยดน้ำ อัตราส่วน 19.3:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P22 12nm, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS, มี Ultra Game Mode, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา Super Wide-Angle และ 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth Camera ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ไล่เฉดสี ด้านหลังมีสแกนลายนิ้วมือ และมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh
ราคา 4,799 บาท (แรม 3GB/32GB)
5. Wiko View 3
มือถือซีรีส์ View รุ่นใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้กล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด พร้อมกับดีไซน์แบบไล่เฉดสีดูสวยงามทันสมัย ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด HD+ และ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีติ่งทรงหยดน้ำ ใช้ซีพียู Mediatek Helio P22, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD, รัน Android 9.0 (Pie), แบตเตอรี่ 4,000mAh และกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล (Sony IMX486,1.25 μm) + 2 ล้านพิกเซล (Depth) + 13 ล้านพิกเซล (Super Wide Angle 120°) ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
ราคา 4,490 บาท (แรม 3GB/32GB)
มือถือซีรีส์ Y ราคาถูก อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการมือถือราคาประหยัดที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.71 นิ้ว Dewdrop Display (ติ่งทรงหยดน้ำ) ความละเอียด HD+, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 84.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22 MT6761 2.0GHz Quad-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ แต่มีสแกนใบหน้า, ดีไซน์ตัวเครื่องมีรุ่นที่เป็นฝาหลังหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลและสีดำให้เลือก ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 3,020mAh ที่เคลมว่าฟังเพลงได้นาน 74 ชั่วโมง และดูวิดีโอต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง
ราคา 3,799 บาท (แรม 2GB/32GB)
7. Realme 3
มือถือรุ่นอัปเกรดจาก Realme 1 และ Realme 2 ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ขอบจอบาง 2.05 มิลลิเมตร, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.30%, ใช้ซีพียู MediaTek Helio P60, แรม 3GB + 32GB, แรม 4GB + 64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมโหมด 2 โหมดใหม่ Nightscape สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและ Chroma Boost ทำให้สีสดใสขึ้นและปรับปรุงช่วงไดนามิกเพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมดุลมากขึ้น, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty, DIY Beautify และปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4,230mAh
ราคา 4,590 บาท (แรม 3GB/32GB)
8. OPPO A5s
มือถือระดับกลางซีรีส์ A จาก OPPO ที่สานต่อจาก OPPO A5 มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop Screen), อัตราส่วน 19:9, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beautification 2.0 และ AR Stickers, แบตเตอรี่ 4,230mAh, ใช้ซีพียู MediaTek Helio P35 (ความแรงเทียบเท่า Snapdragon 625), แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB และรัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2
ราคา 4,599 บาท (แรม 3GB/32GB)
9. Redmi Note 7
มือถือระดับกลาง สเปกคุ้มค่า ราคาสุดประหยัด แบรนด์ลูกของ Xiaomi มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop notch) ขอบจอบางเพียง 1.95 มิลลิเมตร, ใช้ซีพียู Snapdragon 660, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 ส่วนไฮไลต์ของรุ่นนี้อยู่ที่กล้องหลังคู่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2″ Samsung ISOCELL Bright GM1, รูรับแสงกว้าง f/1.8, 4-in-1 พิกเซล ที่สามารถถ่ายรูปภาพความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล, ขนาดพิกเซล 1.6μm, กล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซล, รองรับ Portrait และมี AI ส่วนกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh รองรับ Quick Charge 4.0
ราคา 4,999 บาท (แรม 3GB/32GB)
10. Nokia 2720 Flip
Nokia 2720 Flip อดีตมือถือฝาพับดีไซน์หรูหราให้กับมามีชีวิตโลดแล่นอีกครั้งบนโลกการสื่อสาร ด้วยดีไซน์มือถือฝาพับสุดคลาสสิก พร้อมอัปเกรดสเปกให้ทันสมัยรองรับ 4G และใช้ระบบปฏิบัติการ KaiOS 2.5 รองรับผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant, YouTube, Facebook, WhatsApp, Google Maps และ HAC (รองรับเครื่องช่วยฟัง) สามารถจัดเก็บรายชื่อผู้ติดต่อได้ 1,000 รายชื่อ มีปุ่ม SOS โทรออกฉุกเฉินเบอร์คนโปรดได้ 1 เบอร์ และส่ง SMS ข้อความฉุกเฉินพร้อมพิกัดดาวเทียมไปยังหาเบอร์คนสนิท 5 เบอร์เพื่อขอความช่วยเหลือ องรับการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย และแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ความจุ 1,500mAh สแตนด์บายสูงสุด 28 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ราคา 2,790 บาท
10 มือถือน่าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo 2019 รอบปลายปี
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง