ไอโฟนเครื่องร้อน แบตฯ หมดเร็ว จะแก้ปัญหายังไงดี ?

          ไอโฟนเครื่องร้อนเกินไป ส่งผลทำให้เครื่องอืด แถมแบตเตอรี่หมดเร็ว จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง มาดูวิธีกันเลย

ภาพจาก shutterstock.com / antb

          ใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือไอโฟนหรือไอแพดหนัก ๆ ส่วนใหญ่ก็น่าจะเคยพบปัญหาเครื่องร้อนกันบ้าง ซึ่งตามปกติแล้วถ้าเครื่องเพียงแค่อุ่นหน่อย ๆ ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าหากใช้งานอย่างหนักหน่วง เช่น ชาร์จไปใช้งานไปด้วย สตรีมมิ่งวิดีโอ เล่นเกม หรือใช้แอปฯ ที่ประมวลผลหนัก ๆ เป็นเวลานาน ก็อาจเกิดปัญหาเครื่องร้อนได้ ซึ่งมักส่งผลให้แบตเตอรี่หมดไวหรือเสื่อมไวขึ้น รวมทั้งปัญหาเครื่องอืดเครื่องช้า วันนี้เราจึงมีวิธีแก้ปัญหาเครื่องร้อนมาแนะนำกัน

ร้อนแค่ไหนถึงเรียกว่าร้อนเกินไป ?

          เราจะรู้ได้ว่า iPhone หรือ iPad เครื่องร้อนเกินไปก็ต่อเมื่อมันมีความร้อนสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส รวมทั้งเกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น ชาร์จแบตเตอรี่ขึ้นช้า แสงหน้าจอวูบหรือดับเป็นระยะ ๆ สัญญาณมือถือไม่ค่อยดี แฟลชกล้องใช้งานไม่ได้ แอปฯ ที่ใช้กราฟิกหนัก ๆ ค้าง หรือถ้าร้อนหนักสุด ๆ ก็อาจมีแสดงข้อความเตือนว่า "iPhone needs to cool down before you can use it." (ต้องทำให้ไอโฟนเย็นลงก่อนที่จะใช้งานต่อ) โดยให้ลองใช้วิธีแก้ปัญหาดังต่อไปนี้

วิธีแก้ปัญหาไอโฟนเครื่องร้อน
 

1. พักการใช้งานเครื่อง

          ลองหยุดชาร์จแบตเตอรี่ หยุดใช้งาน ปิดเครื่องพักสักระยะหนึ่ง หรือถ้าใส่เคสอยู่ก็ให้ถอดออกเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ถ้าอยู่กลางแดดก็ให้นำเครื่องหลบเข้าที่ร่ม แต่ไม่ควรเอาเข้าตู้เย็นหรือแช่แข็ง เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนกระทันหันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเครื่องได้

2. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความร้อนสูง

          หลีกเลี่ยงการนำเครื่องวางไว้ในที่อุณหภูมิสูง เช่น วางไว้ในรถที่จอดกลางแดด หรือที่มีแดดจ้าส่องโดนเครื่องมือถือโดยตรง ถ้าหากพบว่าตัวเครื่องร้อนเกินไป การนำเข้าไปอยู่ในห้องแอร์ก็ช่วยได้เช่นกัน แต่อย่านำไปใส่ตู้เย็น เพราะอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจส่งผลเสียต่อตัวเครื่องมือถือได้

3. ปิด Background App Refresh

          แอปฯ ที่ทำงานแบบ Background App Refresh จะทำงานแม้ในเวลาที่เราไม่ได้ใช้งาน ทำให้เปลืองแบตเตอรี่และอาจส่งผลให้เครื่องร้อนกว่าปกติได้แม้เราจะไม่ค่อยได้ใช้งานก็ตาม ซึ่งสามารถเข้าไปเช็กได้ที่ Settings > Battery เพื่อดูว่าแอปฯ ไหนที่กินแบตเตอรี่ในระหว่างที่เราไม่ได้ใช้เครื่อง จากนั้นให้เข้าไปปิดการทำงานของแอปฯ นั้นที่ Settings > General > Background App Refresh

4. ปิดแอปฯ ต่าง ๆ

          การที่เปิดแอปฯ ไว้มากเกินไป หรืออาจมีแอปฯ ที่ค้าง ทำให้กินพลังเครื่องมากเกินไป ส่งผลให้เครื่องร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น จึงควรลองปิดแอปฯ ต่าง ๆ ให้หมด แล้วดูว่าอาการเครื่องร้อนหายไปหรือไม่ หรือจะลองปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่เลยก็ได้เช่นกัน

5. ลดแสงหน้าจอ

          การที่ปรับแสงหน้าจอสว่างเกินมากกว่า 50% ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เครื่องอุ่นหรือร้อนขึ้นได้เช่นกัน โดยให้ลองปรับลดแสงหน้าจอลงก็จะสามารถช่วยลดความร้อนของตัวเครื่องลงได้

6. ปิด Bluetooth และ Location Service

          ถ้าหากไม่ได้ใช้ Bluetooth ให้ลองเข้าไปปิดที่ Settings > Bluetooth รวมทั้งปิด Location Service ที่ Settings > Privacy > Location Services เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยให้ตัวเครื่องทำงานหนักน้อยลง ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาเครื่องร้อนได้ รวมทั้งประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้นด้วย

7. เปิด Airplane Mode

          ถ้าสัญญาณมือถือในบริเวณนั้นไม่ค่อยดี จะทำให้ไอโฟนต้องพยายามหาสัญญาณเรื่อย ๆ ส่งผลให้เครื่องทำงานหนักและร้อนกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากเราไม่ได้ใช้งานในช่วงนั้นก็อาจเปิด Airplane Mode เพื่อให้เครื่องเย็นลงได้

          ทั้งนี้ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป หรือเป็นเฉพาะตอนชาร์จแบตเตอรี่ ก็ให้เช็กดูว่าที่ชาร์จและสายชาร์จเป็นของแท้ไหม มีความเสียหายหรือไม่ แต่ถ้าอาการเครื่องร้อนไม่ได้เกิดเฉพาะตอนชาร์จแบตเตอรี่ก็อาจต้องส่งให้ศูนย์บริการแอปเปิลตรวจสอบและซ่อมดูแล้วล่ะ

บทความโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ

        - โทรศัพท์ร้อนทำไงดี อันตรายไหม ดูวิธีแก้ปัญหาได้ที่นี่ !
        - โทรศัพท์ร้อน เอาไปแช่ตู้เย็นได้ไหม ?
        - วิธีแก้แบตฯ เสื่อม นำไปแช่ตู้เย็นได้ไหม ?
        - โทรศัพท์ตกน้ำ ควรทำยังไงดี ให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
        - โทรศัพท์ตก เคลมได้ไหม จะหมดประกันหรือไม่