10 มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท ปี 2019 รุ่นไหนดี รุ่นไหนน่าซื้อ สำหรับผู้ซื้อที่มีงบประมาณจำกัด อยากได้มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท เลือกซื้อรุ่นไหนดี
เริ่มต้นปีใหม่ 2019 เริ่มต้นสิ่งดี ๆ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ เน้นตอบโจทย์แบบรอบด้าน สเปกคุ้มค่า แต่มีงบไม่เกิน 10,000 บาท ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อมือถือรุ่นไหนดี วันนี้กระปุกดอทคอมมี 10 มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท น่าซื้อ น่าใช้ ประจำปี 2019 มาแนะนำ ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้าง มาติดตามกันเลย
มือถือระดับกลางราคาประหยัด สเปกสุดคุ้มจาก Xiaomi มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรอยบาก ใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, f/1.9 รองรับ AI scene recognition สามารถแยกซีนได้ 238 ซีน, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI beautify, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกไล่เฉดสีสวยงาม และแบตเตอรี่ 3,350mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคา 9,990 บาท (แรม 6GB + 128GB), 7,990 บาท (4GB + 64GB)
มือถือที่สานต่อความสำเร็จ Zenfone Max Pro M1 มือถือระดับกลาง แบตเตอรี่อึด โดยรุ่นนี้ได้อัปเกรดสเปก ปรับโฉมดีไซน์สวยงามกว่าเดิม และยังคงคอนเซ็ปต์มือถือที่มีแบตเตอรี่อึดเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 กระจก Corning Gorilla Glass 6, ซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 8.1 (Oreo) แบบ Pure Android, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก กรอบอะลูมิเนียม, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ใช้งานต่อเนื่องนาน 2 วัน รองรับชาร์จเร็ว
ราคา
- ราคา 6,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
- ราคา 8,990 บาท (แรม 6GB + 64GB)
สำหรับใครที่ชอบมือถือเพียวแอนดรอยด์ ขอแนะนำ Nokia 6.1 Plus มือถือที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของ Google ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แบบ Pure Android ไม่มีอินเทอร์เฟซมาครอบทับ การันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ และความปลอดภัยเป็นประจำเป็นเวลา 2 ปี ส่วนด้านสเปกก็เหมือนกับรุ่น Nokia X6 มาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมติ่ง (Notch) อัตราส่วน 19:9 ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามดูหรูหรา โดยใช้วัสดุที่เป็นกระจกถึง 95% และโลหะเป็นเฟรม ใช้ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 400GB, รองรับ Dual VoLTE และแบตเตอรี่ 3,060mAh รองรับ Quick Charge 3.0 ชาร์จจาก 0-50% ใน 30 นาที
ราคา 8,990 บาท
4. Honor 8X
มือถือระดับกลางจาก Honor สเปกสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบางเฉียบ 4.25 มิลลิเมตร อัตราส่วน 19:5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91%, ซีพียู Kirin 710 + GPU Turbo, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหลังคู่ 20 + 2 ล้านพิกเซล, LED flash, AI scene recognition สามารถวิเคราะห์ภาพที่จะถ่ายและแยกได้ถึง 500 ซีน, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี 4-in-1 พิกเซล และ AI beautify รวมถึงมี 4D gaming experience ที่รวบรวมการสั่นสะเทือนในสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในเกมไว้กว่า 30 แบบ และแบตเตอรี่ 3,750mAh รองรับชาร์จเร็ว
ราคา 7,990 บาท (แรม 4GB + 64GB), ราคา 8,990 บาท (แรม 4GB + 128GB)
5. Motorola One
สำหรับใครที่ชอบสายแอนดรอยด์เพียว ๆ ขอแนะนำมือถือ Android One รุ่นใหม่ของ Motorola มาพร้อมหน้าจอแหว่งตามสมัยนิยมขนาด 5.9 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ใช้ซีพียู Snapdragon 625, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) รองรับการอัปเดต Android 9.0 (Pie) ส่วนแบตเตอรี่ 3,000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว TurboPower เคลมว่าชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้ 4.5 ชั่วโมง
ราคา 7,990 บาท
6. Xiaomi Mi A2
มือถือสุดคุ้มสานต่อความสำเร็จจาก Xiaomi Mi A1 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยรุ่นนี้ได้ปรับปรุงใหม่อีกครั้ง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) แบบ Pure Android (ไม่มีอินเทอร์เฟซมาครอบทับ) และรองรับการอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่จาก Google โดยตรง พร้อมการันตีอัปเดต Android 9.0 อีกด้วย มาพร้อมหน้าจอ 5.99 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB/128GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 9, กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล, f/1.75, เซ็นเซอร์ Sony IMX486 กล้องตัวที่สอง 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX376 รองรับการถ่ายภาพ Portrait และมีเทคโนโลยี AI ที่ช่วยแยกซีนการถ่ายภาพถึง 206 แบบ จาก 24 ประเภท กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX376 พร้อม soft LED flash และเทคโนโลยี AI beautification ช่วยปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้สวยงามยิ่งขึ้น และรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
ราคา 8,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
7. Vivo V11i
มือถือระดับกลางซีรีส์ V รุ่นใหม่ สานต่อความสำเร็จจาก Vivo V9 โดยรุ่นนี้ได้มีการปรับโฉมหน้าจอใหม่อีกครั้ง ใช้หน้าจอแบบ Halo FullView Display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91.27% มีขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, สแกนใบหน้าด้วยแสงอินฟราเรด ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามไล่เฉดสี มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ-ฟ้า (Starry Night) และสีฟ้า-ม่วง (Nebula)
ด้านสเปกใช้ซีพียู MediaTek Helio P60 Octa-Core, จีพียู Mali-G72 MP3, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล, f/2.0, กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล, f/2.0, สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และสแกนใบหน้า แบตเตอรี่ 3,315mAh รองรับ Fast Charging
ราคา 9,999 บาท
มือถือราคาประหยัดอีกรุ่นของ Xiaomi เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Thailand Mobile Expo 2018 ชูจุดเด่นกล้องคู่หน้าและหลัง พร้อมราคาสุดโดนใจ มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ด้วยการดีไซน์แบบ Full Screen อัตราส่วน 19:9 มีความขอบโค้งมนของขอบหน้าจอ ใช้ซีพียู Snapdragon 636 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และแบตเตอรี่ 4,000mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
สำหรับรุ่นนี้ใช้กล้องด้านหลังคู่ ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI มี AI Scene dectction, โหมดภาพถ่ายคน (AI Portrait 2.0) และการถ่ายภาพแบบเบลอ โดยผู้ใช้สามารถออกแบบรูปร่างหรือหมุนแสงโบเก้ (Bokeh) ได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ใช้เซ็นเซอร์ระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel Autofocus พิกเซลขนาดใหญ่ 1.4μm (2PD) ให้ภาพที่สว่างคมชัดและมีความละเอียดสูงแม้ถ่ายในเวลากลางคืน กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 20 + 2 ล้านพิกเซล
ราคา 6,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
มือถือรุ่นใหม่สานต่อจากรุ่น Mi Max 2 ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ 6.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9 ขอบหน้าจอบาง 1.3 มม. แบตเตอรี่อึดความจุ 5,500mAh รองรับ Quick Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-71% ในเวลา 1 ชั่วโมง ใช้ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล รองรับ dual PD focus และเทคโนโลยี AI ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
ราคา 8,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
10. Huawei Y9 2019
มือถือ 4 กล้อง ราคาประหยัดของ Huawei ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์ 3D ARC ขอบตัวเครื่องโค้งมนสวยงาม พร้อมไล่เฉดสีตัวเครื่องตามสมัยนิยม หน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Kirin 710 พร้อมเทคโนโลยี GPU Turbo, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI, มีสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint 4.0) ด้านหลังตัวเครื่อง เคลมว่าปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.3 วินาที และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคา 6,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง