10 มือถือมาแรงน่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนธันวาคม 2561 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย
สวัสดีเดือนธันวาคม ก้าวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2561 ก่อนจะเข้าสู่ปีใหม่ 2562 เรากลับมาอัปเดตกันเหมือนเดิมกับมือถือน่าซื้อประจำเดือน สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน โดยเฉพาะมือถือที่หลายคนรอคอยอย่าง Xiaomi Mi 8 Pro และ Xiaomi Mi 8 Lite ก็เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว รวมถึงมือถือกล้องหลัง 3 เลนส์ อย่าง OPPO R17 Pro ก็วางจำหน่ายแล้วเช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือที่น่าสนใจหลายรุ่น หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี เราคัดมาให้แล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อน่าใช้ประจำเดือนธันวาคม 2561 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ ที่มีสเปกเหมือนกับ Xiaomi Mi 8 แต่อัปเกรดไปใช้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกับรุ่น Mi 8 Explorer Edition และปรับปรุงการสแกนนิ้วดีขึ้นกว่าเดิม โดยเคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วขึ้น 29% นอกจากนี้ยังปรับโฉมสีสันบนตัวเครื่องใหม่ โดยใช้การไล่เฉดสีตามสมัยนิยม เงางามด้วยวัสดุกระจก
สเปกมีหน้าจอขนาด 6.21 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18:7:9, ความสว่าง 600 nits, DCI-P3 color gamut, ซีพียู Snapdragon 845 Octa-Core 2.8GHz, จีพียู Adreno 630, แรม 6GB / 8GB LPDDR4x, หน่วยความจำ 128GB (UFS 2.1), รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล ขนาดเลนส์ 26mm wide-angle lens, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.6″, เซ็นเซอร์ Sony IMX363, รูรับแสง f/1.8, ขนาดพิกเซล 1.4µm, dual-tone LED flash, กันสั่น 4 แกน (4-axis OIS), Optical zoom, ถ่ายวิดีโอ 4K, กล้องตัวที่สอง 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung S5K3M3, รูรับแสง f/2.4, ขนาดพิกเซล 1.0µm, 2X zoom และกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล พร้อม Real-time AI Portraits
ราคา 19,990 บาท (แรม 8GB + 128GB)
Xiaomi Mi 8 Lite หรือ Mi 8 Youth Edition มือถือระดับกลางราคาประหยัด มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรอยบาก ใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, f/1.9 รองรับ AI scene recognition สามารถแยกซีนได้ 238 ซีน, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI beautify, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกไล่เฉดสีสวยงาม และแบตเตอรี่ 3,350mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคา 9,990 บาท (แรม 6GB + 128GB), 7,990 บาท (4GB + 64GB)
3. OPPO A7
มือถือซีรีส์ A รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ พร้อมติ่งรูปหยดน้ำ (Waterdrop Screen) ความละเอียด HD+ สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 88.4% โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ดีไซน์สวยด้วยสีทองสว่าง (Glaring Gold) และสีน้ำเงินเข้ม (Glaze Blue) พร้อมลวดลายที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และยังเคลือบสาร Anti-reflective coating มาบนฝาหลังสามารถเพิ่มความสว่างถึง 37% และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต จากวัสดุแมกนีเซียมที่ใช้ช่วยป้องกันความร้อนจากแบตเตอรี่ขณะการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ด้านสเปกใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI beauty, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด HDR ให้การเซลฟี่ของคุณชัดและสว่างขึ้นแม้สภาวะที่มีแสงน้อย และเพิ่มความสนุกด้วย AR Stickers
ราคา 6,990 บาท
4. vivo Y95
มือถือระดับกลางราคาประหยัด ซีรีส์ Y เพิ่มอีกรุ่น โดยสเปกรุ่นนี้คล้ายกับ vivo Y93 แต่ต่างกันที่กล้องหน้า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ติ่งรูปหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.6% ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 439 12nm, แรม 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า, และรองรับ AI ทั้งกล้องหน้าและหลัง, มีสแกนลายนิ้วมือ, ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,030mAh
ราคา 7,499 บาท
5. Honor 8X
มือถือระดับกลางจาก Honor สเปกสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบางเฉียบ 4.25 มิลลิเมตร อัตราส่วน 19:5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91%, ซีพียู Kirin 710 แรม 4GB/6GB, กล้องหลังคู่ 20 + 2 ล้านพิกเซล, LED flash, AI scene recognition สามารถวิเคราะห์ภาพที่จะถ่ายและแยกได้ถึง 500 ซีน, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี 4-in-1 พิกเซล และ AI beautify รวมถึงมี 4D gaming experience ที่รวบรวมการสั่นสะเทือนในสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในเกมไว้กว่า 30 แบบ
ราคา 7,990 บาท (แรม 4GB + 64GB), ราคา 8,990 บาท (แรม 4GB + 128GB)
มือถือซีรีส์ Y ราคาประหยัดรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นที่ต้องการมือถือราคาถูก มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Oreo (Go Edition) หน้าจอกว้างไร้ขอบขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1,440 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9 ซีพียู Mediatek MT6739 Quad-Core, แรม 1GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รองรับ 2 ซิม, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0, รองรับระบบออโต้โฟกัส, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2, ด้านหน้าเป็นแฟลชแบบ Selfie Toning ส่วนด้านหลังเป็นแฟลชแบบ single-tone LED, ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้ากับสีดำ และแบตเตอรี่ 3,020mAh
ราคา 3,290 บาท
7. OPPO R17 Pro
มือถือซีรีส์ R จากค่าย OPPO มีกล้องหลังถึง 3 เลนส์ โดยเลนส์ตัวแรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 และ f/2.4 ตัวเลนส์สามารถสลับรูรับแสงตามสภาพแสงที่ถ่ายให้อัตโนมัติ แถมยังมีกันสั่น OIS มาให้อีกด้วย กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพในโหมด Portrait รวมถึงการซูม ส่วนกล้องตัวที่ 3 เรียกว่า Time of Flight (TOF) 3D ใช้สำหรับตรวจจับภาพวัถตุเกี่ยวกับความลึกแบบ 3D มีความแม่นยำสูงโดยใช้การวัดค่าผ่านแสงอินฟราเรด
ใช้ซีพียูรุ่นรองท็อปอย่าง Snapdragon 710 มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบากทรงหยดน้ำ (Waterdrop Screen) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.5% ใช้กระจกรุ่นใหม่ Corning Gorilla Glass 6, รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.41 วินาที รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล รองรับ AI, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB และแบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับ SuperVOOC fast charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-40% ในเวลา 10 นาที
ราคา 24,990 บาท (แรม 8GB + 128GB) ซื้อพร้อมโปรลดเหลือ 9,990 บาท
Samsung Galaxy A7 เวอร์ชั่น 2018 มือถือระดับกลางรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยแบ่งออกเป็นกล้องหลังความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (Ultra Wide) และกล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Depth) ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพ
กล้องหน้าจัดเต็ม มาพร้อมกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล มี LED flash และยังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดด้วยการรวม 4 พิกเซล เป็น 1 พิกเซล นอกจากนี้ยังมีโหมด Selfie Focus, Pro Lighting Mode และ AR emoji ส่วนสเปกอื่น ๆ มีหน้าจอ 6 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Octa-Core 2.2GHz (ไม่ระบุรุ่น แต่คาดว่าน่าจะเป็น Exynos 7885), สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, รองรับ Dolby Atmos และแบตเตอรี่ 3,300mAh ส่วนวัสดุตัวเครื่องขอบเป็นโลหะ ด้านหลังเป็นกระจก โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า, สีดำ, สีทอง และสีชมพู
ราคา 10,990 บาท (แรม 4GB + 64GB) และ 13,990 บาท (แรม 6GB + 128GB)
9. Motorola One
มือถือ Android One รุ่นใหม่ของ Motorola มาพร้อมหน้าจอแหว่งตามสมัยนิยมขนาด 5.9 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ใช้ซีพียู Snapdragon 625, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) รองรับการอัปเดต Android 9.0 (Pie) ส่วนแบตเตอรี่ 3,000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว TurboPower เคลมว่าชาร์จ 15 นาทีใช้งานได้ 4.5 ชั่วโมง
ราคา 7,990 บาท
10. OnePlus 6T
มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสเปกจาก OnePlus 6 โดยรุ่นนี้มีการปรับปรุงและอัปเกรดสเปกบางส่วนมาจากรุ่นก่อนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.41 นิ้ว (รุ่นเดิม 6.28 นิ้ว) มีรอยแหว่งแบบหยดน้ำ แถมยังเพิ่มการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่เคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.34 วินาที รวมถึงเพิ่มความจุแบตเตอรี่มากขึ้นเป็น 3,700mAh (มากกว่า OnePlus 6 ที่มีแบตเตอรี่ 3,300mAh) พร้อม Dash Charge
ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องและกล้องถ่ายภาพยังเหมือนกับรุ่นก่อน แต่เพิ่มโหมด NightScape ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม โดยใช้เวลาเพียง 2 วินาที ในการถ่ายภาพ และโหมด Studio Lighting ที่ช่วยจัดแสงตอนถ่ายภาพ Portrait
ราคา 18,999 บาท (แรม 6GB + 128GB), ราคา 22,999 บาท (แรม 8GB + 256GB)
10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนพฤศจิกายน 2561 มีรุ่นไหนบ้าง ?
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง