ส่อง 20 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2018 มีมือถือใหม่เปิดตัวรุ่นไหนบ้าง มือถือใหม่ ปี 2018 มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน อยากรู้มาดู
ก้าวเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2018 สำหรับเดือนนี้ตลาดมือถือยังคงคึกคักไปด้วยมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่ทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง และเดือนนี้ก็มีมือถือที่แฟน ๆ ฝั่งแอนดรอยด์หลายคนรอคอย อย่าง OnePlus 6T มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสเปกจาก OnePlus 6 เปลี่ยนมาใช้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ พร้อมหน้าจอใหญ่ขึ้นและแบตเตอรี่อึดกว่าเดิม รวมถึง Xiaomi Mi MIX 3 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ สานต่อจาก Mi MIX 2s มาพร้อมจุดเด่นหน้าไร้ขอบ ไม่มีติ่ง เต็มจอทั้ง 4 มุม Full Screen Slider นอกจากนี้มือถือที่เปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคม ก็เริ่มออกวางจำหน่าย มีทั้งรุ่นเรือธง มือถือระดับกลาง และระดับล่างที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น มีให้เลือกหลายรุ่น หลายราคาด้วยกัน ส่วนมือถือใหม่เดือนพฤศจิกายน มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลย
มือถือเรือธงรุ่นใหม่ พร้อมจุดเด่นหน้าไร้ขอบ ไม่มีติ่ง เต็มจอทั้ง 4 มุม Full Screen Slider มีขนาด 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:5:9, มีพื้นที่หน้าจอถึง 94.3%, Contrast 60000:1, ความสว่างสูงสุด 600 nits โดยขอบด้านล่างทแคบลงกว่าเดิมเหลือ 4.46 มม. เมื่อเทียบกับ Mi MIX 2S และการออกแบบเสาอากาศแบบกำหนดเองเพื่อให้พื้นที่เสาอากาศลดลง 72% ใช้ซีพียู Snapdragon 845, แรมสูงสุด 10GB, รองรับ Google ARCore และรัน Android 8.1 (Oreo) พร้อม AI voice assistant, แบตเตอรี่ 3,200mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย นอกจากนี้ Mi MIX 3 จะรองรับ 5G ในช่วงไตสมาสที่ 1 ปี 2019 อีกด้วย
ราคาประมาณ 15,600 บาท
2. HTC Exodus 1
มือถือรุ่นใหม่ของ HTC ที่เน้นเจาะกลุ่มคนที่สนใจด้าน Blockchain โดยเฉพาะ ซึ่งมือถือรุ่นนี้จะต้องซื้อด้วยสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum เท่านั้น ไม่สามารถซื้อด้วยสกุลเงินปกติได้ โดยมาพร้อมฟีเจอร์กระเป๋าเงินดิจิทัลในตัว รองรับสกุลเงินอย่าง Bitcoin, Ethereum และ Litecoin และมีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยอย่าง Social Key Recovery สำหรับส่งโค้ดบางส่วนให้กับคนที่ไว้ใจ ซึ่งจะต้องนำโค้ดมารวมกันจึงจะสามารถปลดล็อกได้
ราคาประมาณ 32,000 บาท
3. Meizu Note 8
มือถือสเปกระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9 ซีพียู Snapdragon 632 แรม 4GB รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย flyme OS, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, Dual PD auto focus, เซ็นเซอร์ Sony IMX362 sensor, f/1.9, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า, เครื่องใช้วัสดุโลหะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี และแบตเตอรี่ 3,600mAh รองรับ mCharge
ราคาประมาณ 6,150 บาท
4. OnePlus 6T
มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสเปกจาก OnePlus 6 โดยรุ่นนี้มีการปรับปรุงและอัปเกรดสเปกบางส่วนมาจากรุ่นก่อนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.41 นิ้ว (รุ่นเดิม 6.28 นิ้ว) มีรอยแหว่งแบบหยดน้ำ แถมยังเพิ่มการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่เคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.34 วินาที รวมถึงเพิ่มความจุแบตเตอรี่มากขึ้นเป็น 3,700mAh (มากกว่า OnePlus 6 ที่มีแบตเตอรี่ 3,300mAh) พร้อม Dash Charge
ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องและกล้องถ่ายภาพยังเหมือนกับรุ่นก่อน แต่เพิ่มโหมด NightScape ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม โดยใช้เวลาเพียง 2 วินาที ในการถ่ายภาพ และโหมด Studio Lighting ที่ช่วยจัดแสงตอนถ่ายภาพ Portrait
ราคา 18,999 บาท (แรม 6GB + 128GB), ราคา 22,999 บาท (แรม 8GB + 256GB)
5. vivo Y81i
มือถือราคาประหยัดที่ปรับลดสเปกมาจาก vivo Y81 มาพร้อมหน้าจอแหว่ง 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 19:9, เพิ่มมุมมองการเห็น 15.5% หรือคิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 87.9%, ซีพียู MediaTek MT6761 Octa-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD Card, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย FunTouch 4.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รวมถึงมีโหมดมอเตอร์ไซค์เพื่อป้องกันการโทร. ตอนขี่มอเตอร์ไซค์ได้ และแบตเตอรี่ 3,260mAh
ราคา 4,499 บาท
6. nubia X
มือถือสุดอินดี้ที่แปลกแหวกแนว ที่มีสองหน้าจอ โดยหน้าจอแรกขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19:9, ขอบจอบางเฉียบ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 93.6% หน้าจอที่สองขนาด 5.1 นิ้ว OLED ความละเอียด HD+ พร้อมโหมดช่วยป้องกันสายตา, กล้องหลังคู่ 16 + 24 ล้านพิกเซล, ไม่มีกล้องหน้า, รองรับ AI scene recognition, dual-tone LED flash และสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ทั้งสองหน้าจอ (ถูกติดตั้งไว้ทั้งสองด้าน) ด้านสเปกใช้ซีพียู Snapdragon 845, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย nubia UI 6.0, แบตเตอรี่ 3,800mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคาประมาณ 15,700 บาท
มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ และเป็นมือถือที่มีกล้องรวมกัน 6 ตัว รุ่นแรกของโลก โดยแบ่งเป็นกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหน้า 3 ตัว มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สไลด์เพื่อเปิดกล้องหน้าได้ ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ Kirin 980 พร้อม Dual NPU, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0 และ YOYO assistant, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, กล้องหลัง 16 + 24 + 16 ล้านพิกเซล, รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, ส่วนกล้องหน้า 16 + 2 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ 3D Face Unlock และ 3D Qmoji
ราคาประมาณ 18,000 บาท
8. vivo Y93
มือถือระดับกลางซีรีส์ Y รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ 19:9 รอยบากทรงหยดน้ำ (Waterdrop) และเป็นมือถือรุ่นแรกในตลาด ที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 439 ผลิตบนสถาปัตยกรรม FinFET ด้วยเทคโนโลยี 12 นาโนเมตร, แรม 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake) ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคาประมาณ 7,190 บาท
มือถือระดับกลางซีรีส์ Z เพิ่มอีกรุ่น ต่อจาก Lenovo Z5 โดยรุ่นนี้มีการปรับดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบสไลด์เพื่อเปิดกล้องหน้า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Super AMOLED, อัตราส่วน 19.5:9, ขอบจอบาง 2.07 มิลลิเมตร คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 95.06%, ซีพียู Snapdragon 710, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ZUI 10, กล้องหน้าคู่ 16 + 8 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้าด้วยอินฟราเรด, กล้องหลังคู่ 12 + 24 ล้านพิกเซล และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ราคาประมาณ 9,500 บาท
10. Royole FlexPai
มือถือที่มีหน้าจอแบบพับได้รุ่นแรกของโลก เป็นได้ทั้งมือถือและแท็บเล็ต คือเมื่อพับครึ่งจะเป็นมือถือที่มีหน้าจอทั้งด้านหน้าและหลัง เมื่อกางออกมาก็จะเป็นแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ โดย Royole ได้โฆษณาว่า หน้าจอของ FlexPai นั้นมีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกและแข็งแรงทนทานมาก ซึ่งผ่านการทดสอบด้วยการพับงอมากกว่า 2 แสนครั้งโดยไม่เกิดความเสียหายใด ๆ
หน้าจอของ FlexPai เมื่อกางออกจะมีขนาด 7.8 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 เมื่อพับครึ่งจะมีอัตราส่วนด้านหนึ่ง 16:9 และอีกด้านหนึ่ง 18:9 โดยด้านที่เป็นอัตราส่วน 18:9 จะมีขอบด้านข้างเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับเลนส์กล้อง ซึ่งเป็นกล้องเลนส์คู่ 20 ล้านพิกเซล Telephoto และ 16 ล้านพิกเซล Wide-Angle ทำหน้าที่เป็นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วย Dual View Camera Mode ที่จะแสดงภาพจากเลนส์กล้องบนหน้าจอทั้งสองด้านเมื่อพับหน้าจอ
ราคาประมาณ 52,000 บาท
มือถือซีรีส์ Z ใหม่อีกรุ่น โดยรุ่นนี้ยังคงเจาะกลุ่มผู้ใช้มือถือระดับกลางและลดสเปกพร้อมเพิ่มความละเอียดกล้องจากรุ่น vivo Z1 มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบาก (notch) มีพื้นที่การใช้งาน 90% ของพื้นที่ตัวเครื่องทั้งหมด ใช้ซีพียู Snapdragon 626, แรม 4GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.0, กล้องหลัง 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 3,260mAh
ราคาประมาณ 5,290 บาท
12. OPPO RX17 Pro และ RX17 Neo
มือถือสำหรับลุยตลาดมือถือยุโรปของ OPPO โดยทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ที่ประเทศจีนในชื่อ OPPO R17 Pro และ OPPO R17 แต่มีการปรับเปลี่ยนสเปกบางส่วนลงเล็กน้อย และยังมีบางส่วนที่ยังเหมือนเดิม ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19:9 AMOLED มีติ่งหน้าจอ, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.5% สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.41 วินาที, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ซีพียู Snapdragon 710 แรมสูงสุด 8GB สำหรับ RX17 Pro และซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB สำหรับ RX17 Neo
ราคาประมาณ 22,590 บาท (OPPO RX17 Pro), ราคาประมาณ 13,100 บาท (OPPO RX17 Neo)
13. Wiko Tommy3 Plus
มือถือราคาสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 5.45 นิ้ว แสดงผลความละเอียด HD+ คมชัดทุกมุมมอง ถ่ายภาพด้วยความละเอียดกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0 ทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น ถ่ายในที่แสงน้อยก็สวยสดใสยิ่งขึ้น ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รองรับ 4G การใช้งานลื่นไหลด้วยหน่วยประมวลผล Quad-Core 1.3GHz หน่วยความจำ 16GB และแรม 2GB รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า ครบถ้วนด้านฟังก์ชันการถ่ายภาพมากมาย และใช้งานเต็มอิ่มมากกว่าเดิมกับแบตเตอรี่จุถึง 2,900mAh ใช้งานง่าย ลงตัวกับทุกสไตล์ ดีไซน์สวยพรีเมียมมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำแอนทราไซต์ (Anthracite), สีทอง (Gold) และสีบลีน (Bleen)
ราคา 3,190 บาท
14. vivo Y73
มือถือระดับกลางซีรีส์ Y รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 ไม่มีติ่ง ขอบจอบางเฉียบ และเป็นมือถือรุ่นที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 439 ผลิตบนสถาปัตยกรรม FinFET ด้วยเทคโนโลยี 12 นาโนเมตร แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake) และมีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 3,360mAh
ราคาประมาณ 3,790 บาท
15. OPPO A7
มือถือซีรีส์ A รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ พร้อมติ่งรูปหยดน้ำ (Waterdrop Screen) ความละเอียด HD+ สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 88.4% โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ดีไซน์สวยด้วยสีทองสว่าง (Glaring Gold) และสีน้ำเงินเข้ม (Glaze Blue) พร้อมลวดลายที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และยังเคลือบสาร Anti-reflective coating มาบนฝาหลังสามารถเพิ่มความสว่างถึง 37% และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต จากวัสดุแมกนีเซียมที่ใช้ช่วยป้องกันความร้อนจากแบตเตอรี่ขณะการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ราคา 7,990 บาท
Samsung เปิดตัวมือถือ Android Oreo (Go edition) เพิ่มอีกรุ่น คือ Galaxy J4 Core หลังจากเปิดตัว Galaxy J2 Core ไปก่อนหน้านี้ โดยรุ่นนี้ยังคงเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นที่ต้องการมือถือราคาประหยัด ใช้งานทั่วไป และมีหน้าจอขนาดใหญ่ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด HD+, ซีพียู Quad-core 1.4GHz, แรม 1GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 512GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมี LED flash
ราคายังไม่เปิดเผย
17. Samsung W2019
มือถือฝาพับระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ สานต่อจาก Samsung W2018 โดยรุ่นนี้ยังคงคอนเซ็ปต์มือถือแอนดรอยด์ฝาพับระดับพรีเมียมเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอคู่ขนาด 4.2 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD ใช้ซีพียูรุ่นท็อป Snapdragon 845 แรม 6GB กล้องหลังคู่ 12 + 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.5 สำหรับถ่ายภาพกลางคืน และ f/2.4 สำหรับการถ่ายภาพในตอนกลางวัน, ระบบโฟกัส PDAF, ขนาดพิกเซล 1.4μm, กันสั่น OIS, ด้านตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกแบบ 3D และกรอบโลหะ ตัดขอบด้วยสีทองและสีเงินได้อย่างสวยงาม มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง
ราคาประมาณ 90,300 บาท
18. vivo X21s
มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ ที่มีสเปกและดีไซน์เหมือนกับรุ่น vivo V11 มาพร้อมหน้าจอแบบ Halo FullView Display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ ขนาด 6.41 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91.27% มีความละเอียด Full HD+ และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามไล่เฉดสี มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ-ฟ้า (Starry Night) และสีชมพูไล่เฉดสี (Millenium Powder)
ราคาประมาณ 11,900 บาท
19. vivo Y95
มือถือระดับกลางราคาประหยัด ซีรีส์ Y เพิ่มอีกรุ่น โดยสเปกรุ่นนี้คล้ายกับ vivo Y93 แต่ต่างกันที่กล้องหน้า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ติ่งรูปหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.6% ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 439 12nm, แรม 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า, มีสแกนลายนิ้วมือ, ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคาประมาณ 8,690 บาท
มือถือรุ่นใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะมี 2 ติ่งบนหน้าจอ ทั้งด้านบน-ด้านล่าง โดยติ่งด้านบนจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ส่วนด้านล่างมีลักษณะเป็นแถบสีดำคร่อมปุ่มโฮมและใช้สแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย สำหรับด้านสเปกนั้นก็ถือว่าแรงพอตัว ด้วยพลังของซีพียู Snapdragon 845 พร้อมแรม 4GB ส่วนกล้องนั้นมีเลนส์เดียว 22.6 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie และแบตเตอรี่ 2,500mAh
ราคายังไม่เปิดเผย