ส่อง 35 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนตุลาคม 2018 มีมือถือใหม่เปิดตัวรุ่นไหนบ้าง มือถือใหม่ ปี 2018 มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน อยากรู้มาดู
ก้าวเข้าสู่เดือนตุลาคม เป็นอีกเดือนที่ตลาดมือถือคึกคักไปด้วยมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่ทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง และเดือนนี้ก็มีมือถือที่แฟน ๆ ฝั่งแอนดรอยด์หลายคนรอคอย อย่าง Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro มือถือซีรีส์ Mate รุ่นใหม่ ที่ยังคงเอกลักษณ์มือถือหน้าจอไร้ขอบ พร้อมฟีเจอร์ AI ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้มือถือที่เปิดตัวในช่วงเดือนกันยายน ก็เริ่มออกวางจำหน่าย มีทั้งรุ่นเรือธง มือถือระดับกลาง และระดับล่างที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น มีให้เลือกหลายรุ่น หลายราคาด้วยกัน ส่วนมือถือใหม่เดือนตุลาคม มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลย
มือถือระดับกลางซีรีส์ A รุ่นใหม่ และเป็นมือถือรุ่นแรกของ Samsung ที่ไม่ได้ผลิตขึ้นในโรงงานของตัวเอง แต่ใช้บริการ Wintech บริษัทที่รับผลิตมือถือให้กับ Xiaomi ช่วยผลิตมือถือรุ่นนี้แทน ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 660, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB และ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล, รัน Android 8.1, แบตเตอรี่ 3,300mAh, ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีแดง, สีดำ, สีฟ้า และสีม่วง
ราคาประมาณ 8,590 บาท
มือถือเกมมิ่งรุ่นใหม่ แรม 10GB รุ่นแรกของโลก อัปเกรดสเปกบางส่วนจาก Black Shark รุ่นแรก ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงดูสวยล้ำสมัย บางลงกว่าเดิมจาก 9.25 มิลลิเมตร เหลือ 8.7 มิลลิเมตร พร้อมระบบระบายความร้อน Dual Liquid Cooling ด้านหลังเครื่องมีสัญลักษณ์ตัวอักษร S ที่ส่องแสงได้ในตัว และปรับตำแหน่งกล้องคู่ด้านหลังจากแนวนอนเป็นแนวตั้งตามสมัยนิยม รวมถึงอุปกรณ์เสริมด้านเกมมิ่งที่มีให้เลือกมากมาย
ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.01 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, รองรับ HDR, อัตราส่วน 18:9, ยังคงใช้ซีพียูรุ่นท็อป Snapdragon 845, แรม 6GB/8GB และ 10GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, กล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล, f/1.7, แฟลช LED, มี AI, กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, f/2.2, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Joy UI และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคาประมาณ 15,000 บาท
3. OPPO R15x
มือถือระดับกลางซีรีส์ R รุ่นใหม่ มีสเปกคล้ายกับ OPPO K1 ที่เปิดตัวก่อนไปหน้านี้ มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ เป็นหน้าจอที่มีรอยบากรูปหยดน้ำ (Waterdrop Screen) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91%, ซีพียู Snapdragon 660 AIE Octa-Core, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash รองรับเทคโนโลยี AI ส่วนกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจก 3D ไล่เฉดสีตามสมัยนิยม รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีแบตเตอรี่ความจุ 3,600mAh
ราคาประมาณ 11,900 บาท
Vertu ได้กลับมาเปิดตัว Aster P มือถือสุดหรูรุ่นใหม่อีกครั้งหลังจากที่หายเงียบไปเป็นปี โดยยังคงเน้นดีไซน์หรูแต่ไม่เน้นสเปกเช่นเดิม บอดี้ทำจากไทเทเนียม กระจกหน้าจอแซฟไฟร์ และหลังเครื่องเป็นหนังแท้ พร้อมปุ่มด้านข้างเครื่องสำหรับกดเพื่อเรียกใช้บริการผู้ช่วยส่วนตัวต่าง ๆ ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 4.97 นิ้ว Full HD ใช้ซีพียู Snapdragon 660 Octa-Core แรม 6GB ความจุ 128GB ไม่รองรับ microSD กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รัน Android 8.1 Oreo ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 3,200mAh และรองรับ Quick Charge 3.0
ราคาประมาณ 149,000 บาท
5. Lenovo K5 Pro และ Lenovo K5s
มือถือซีรีส์ K เพิ่มอีก 2 รุ่น โดยมือถือทั้ง 2 รุ่น ชูจุดเด่นด้วยกล้องคู่หน้าและหลัง แบตเตอรี่อึด หน้าจอใหญ่ 5.99 นิ้ว (K5 Pro) ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 636, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ZUI, กล้องคู่หน้าและหลังเท่ากันที่ 16 + 5 ล้านพิกเซล LED flash และรองรับ AI portraits มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,050mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
ราคาประมาณ 4,690 บาท
มือถือระดับกลางซีรีส์ S รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอบาก 6.26 นิ้ว ไร้ขอบ ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18.7:9, ซีพียู Snapdragon 636, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ZUI 5.0, กล้องหลังคู่ 20 + 12 ล้านพิกเซล รองรับ AI portraits และซูม 2 เท่า ส่วนกล้องหน้าคู่ 20 + 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX476, 4-in-1 พิกเซล ขนาดพิกเซล 2.0µm, รองรับ AI portraits, 3D lighting และปลดล็อกด้วยใบหน้า สำหรับตัวเครื่องดีไซน์โลหะแบบ unibody และแบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
ราคาประมาณ 6,000 บาท
มือถือรุ่นใหม่ในตระกูล View Series (วิว ซีรีส์) โดดเด่นด้วยหน้าจอ 5.93 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล ที่ช่วยเบลอภาพพื้นหลัง และโฟกัสภาพอย่างเฉียบคม พร้อมสนุกไปกับโหมด Live AR Filters ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำ ด้านสเปกใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 450 Octa-Core 1.8GHz, หน่วยความจำภายใน 32GB, แรม 3GB, รองรับ microSD ได้ถึง 256GB ความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับการใช้งานได้อย่างยาวนาน ดีไซน์สวยพรีเมียมไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีให้เลือก 3 ได้แก่ สีดำแอนทราไซต์ (Anthracite), สีทอง (Gold) และสีลาเวนเดอร์ บลีน (Lavender Bleen)
ราคา 4,990 บาท
8. Nokia X7
Nokia X7 (ในประเทศจีนเรียกว่า Nokia 7.1 Plus) มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากโนเกีย โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด 1080p+ ความสว่าง 500 nits คอนทราสต์ 1,500:1 รองรับ DCI-P3 และเทคโนโลยีหน้าจอแบบ PureDisplay เหมือนกับ Nokia 7.1 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 กล้องตัวแรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS) ส่วนกล้องตัวที่ 2 มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และเป็นเลนส์ของ Zeiss ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รองรับระบบ AI ยิ่งได้ใช้งานร่วมกับซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 710 แล้วทำให้ได้ภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น
ราคาประมาณ 8,000 บาท
9. vivo Z3
มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Z มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบเกือบไร้ขอบ มีติ่งแบบหยดน้ำด้านบน อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 90% ใช้ซีพียู Snapdragon 670 / Snapdragon 710 แรม 6GB มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,315mAh และมีระบบสั่นที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสขณะเล่นเกม
ราคาประมาณ 7,990 บาท
10. PORSCHE DESIGN Huawei Mate 20 RS
มือถือรุ่นพิเศษที่เปิดตัวพร้อมกับ Mate 20 และ Mate 20 Pro ซึ่งเป็นการร่วมมือกับแบรนด์รถหรู PORSCHE ในการดีไซน์ตัวเครื่องให้ดูหรูระดับพรีเมียม หลังเครื่องเป็นหนัง คาดกลางด้วยกระจก พร้อมโลโก้ PORSCHE กลางเครื่อง มีเซ็นเซอร์สแกนใบหน้า 3D และสแกนนิ้วในหน้าจอ รองรับทั้งชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,200mAh พร้อมธีมและไอคอนแบบพิเศษของ PORSCHE DESIGN
ราคาประมาณ 64,000 บาท
11. Huawei Mate 20 X
Mate 20 X มือถือที่เน้นเจาะกลุ่มคนชอบเล่นเกม มีดีไซน์เดียวกับอีก 2 รุ่น มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่จัดเต็มถึง 7.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีรอยบากเป็นติ่งเล็ก ๆ เหมือนของ Mate 20 เนื่องจากไม่มีเซ็นเซอร์สแกน 3D อย่าง Mate 20 Pro แถมยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัสอีกด้วย
จุดเด่นของ Huawei Mate 20 X ก็คือ เทคโนโลยี GPU Turbo 2.0 ที่จะช่วยเร่งความเร็วและความแรงเพื่อให้เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งลำโพงสเตอริโอที่ขอบทั้ง 2 ข้างของตัวเครื่อง เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการเล่นเกมและชมภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ HUAWEI Supercool สำหรับช่วยระบายความร้อน ทำให้เครื่องเย็นอยู่ตลอดเวลา เล่นเกมได้ลื่นไหลไม่กระตุก นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh ทำให้เล่นเกมต่อเนื่องได้ยาวนานกว่าเดิม
ราคาประมาณ 34,000 บาท
12. Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro
มือถือกล้อง 3 เลนส์ที่มาพร้อม AI มีหน้าจอแบบไร้ขอบทั้งสองรุ่น โดยหน้าจอของ Mate 20 จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีรอยบากเล็กกว่า Mate 20 Pro แต่ Mate 20 Pro จะมีสเปกที่สูงกว่า ลำโพงจะถูกย้ายไปไว้ที่ขอบเครื่องแทน พร้อมทั้งเปิดตัว SD card แบบใหม่ของ Huawei โดยเฉพาะ มีชื่อว่า nanaSD card สำหรับใช้ใส่เพิ่มความจุให้ Mate 20 และ Mate 20 Pro
Huawei Mate 20 มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 18.7:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 4/6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,000mAh มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0
Huawei Mate 20 Pro มาพร้อมหน้าจอโค้ง OLED ขนาด 6.39 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ใช้ซีพียู Kirin 980 Octa-core จีพียู Mali-G76 720MHz แรม 6GB ความจุ 128GB (รองรับ nanoSD) แบตเตอรี่ 4,200mAh รองรับชาร์จไร้สาย มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังในหน้าจอ ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. กันน้ำ IP68 Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0
ราคาประมาณ 30,000 บาท
13. Huawei Enjoy Max และ Huawei Enjoy 9 Plus
มือถือที่มีสเปกเหมือนกับ Honor 8X Max มาพร้อมหน้าจอ 7.12 นิ้ว ทรงหยดน้ำ ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบาง คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.5%, ซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล มี LED flash, AI scene recognition, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 5,000mAh แต่ความพิเศษของรุ่นนี้ด้านหลังตัวเครื่องลวดลายจะเป็นหนัง
ส่วนทางด้าน Huawei Enjoy 9 Plus มีสเปกเหมือนกับ Honor 8X หน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบาง 4.25 มิลลิเมตร คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91%, ซีพียู Kirin 710, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล มี LED flash, AI scene recognition, กล้องหน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh
ราคาประมาณ 8,000 บาท
14. Palm Phone
Palm แบรนด์มือถือยอดนิยมในอดีตกลับมาคืนชีพอีกครั้ง โดยครั้งนี้ Palm กลับมาพร้อมโลโก้ใหม่ และทีมงานใหม่จากซานฟรานซิสโก พร้อมเปิดตัวมือถือรุ่นแรกของบริษัทที่สวนกระแสตลาดสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กเท่ากับบัตรเครดิต และมีหน้าจอแค่ 3.3 นิ้ว ความละเอียด HD ตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม กระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, รัน Android 8.1 (Oreo), ซีพียู Snapdragon 435, แรม 3GB, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล พร้อม Flash, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 800mAh
ราคาประมาณ 11,390 บาท
15. Nokia 3.1 Plus
มือถือราคาประหยัดตระกูล Android One รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 ซีพียู MediaTek Helio P22 Octa-Core, แรม 2GB/3GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รัน Android 8.0 (Oreo), กล้องหลังคู่ 13 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, รองรับ 2 ซิม, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง บอดี้ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม และแบตเตอรี่ 3,500mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้ 2 วัน
ราคาประมาณ 5,000 บาท
Samsung สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการมือถืออีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy A9 (2018) มือถือระดับกลาง ที่มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว เป็นรุ่นแรกของโลก สเปกสุดคุ้ม หน้าจอใหญ่ 6.3 นิ้ว แบบ Infinity Display Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ พร้อมฟีเจอร์ Always Active Screen, ซีพียู Snapdragon 660 Octa-Core 2.2GHz, แรม 6GB และ 8GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 512GB, รองรับ 2 ซิม, รัน Android 8.0 Oreo และแบตเตอรี่ 3,800mAh รองรับชาร์จเร็ว
ราคา 19,990 บาท (แรม 6GB + 128GB)
17. Honor 8C
มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ มาพร้อมซีพียู Snapdragon 632 เป็นรุ่นแรกของวงการมือถือแทนรุ่น Snapdragon 626 ที่ดีกว่าถึง 40% ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบาก, แรม 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash มีโหมด Portrait shots และ AI scene recognition ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีโหมด AI beautify
ราคาประมาณ 5,290 บาท
18. Razer Phone 2
มือถือเกมมิ่งรุ่นใหม่ สานต่อความแรงจาก Razer Phone รุ่นแรก โดยรุ่นนี้เน้นปรับปรุงไปที่สเปก หน้าจอ และกล้องถ่ายภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงเป็นมือถือที่เน้นเล่นเกมโดยเฉพาะเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอ 5.72 นิ้ว IGZO LCD ความละเอียด Quad HD เป็นหน้าจอแบบ 120Hz UltraMotion สามารถแสดงภาพได้ลื่นไหล เหมาะกับการเล่นเกม รองรับ Wide Color Gamut และ HDR ใช้ซีพียูรุ่นยอดฮิต Snapdragon 845 พร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling แรม 8GB (LPDDR4X), หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 1TB, รัน Android 8.1, ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 และลำโพงสเตอริโอรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS
ราคาประมาณ 26,390 บาท
19. OPPO K1
มือถือซีรีส์ K ใหม่ของ OPPO เป็นมือถือระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ Waterdrop Screen เป็นหน้าจอที่มีรอยบากทรงหยดน้ำ มีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งานทั้งหมด 91% ใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE Octa-Core, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash รองรับเทคโนโลยี AI ส่วนกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจก 3D ไล่เฉดสีตามสมัยนิยม รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีแบตเตอรี่ความจุ 3,500mAh
ราคาประมาณ 7,590 บาท
20. Google Pixel 3 และ Pixel 3 XL
มือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ Google ที่ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด พร้อมปรับโฉมดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอให้ทันสมัยเทียบเท่าแบรนด์อื่น ๆ เริ่มต้นที่ Pixel 3 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9 ส่วน Pixel 3 XL มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ อัตราส่วน 18.5:9 และเป็นหน้าจอบากตามสมัยนิยม ใช้ซีพียู Snapdragon 845 แรม 4GB หน่วยความจำ 64GB และ 128GB รัน Android 9.0 (Pie) แบตเตอรี่ 2,915mAh (รุ่น Pixel 3) และแบตเตอรี่ 3,400mAh (รุ่น Pixel 3 XL) พร้อมหัวชาร์จ Fast Charge 18W รวมถึงรองรับชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi และเคลมว่าชาร์จแค่ 15 นาที สามารถใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง
ราคาประมาณ 26,200 บาท
21. Realme C1
มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ ต่อจาก Realme 2 Pro มือถือระดับกลางที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ สำหรับ Realme C1 เป็นมือถือระดับล่าง ราคาถูก มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบาก คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.8% ใช้ซีพียู Snapdragon 450 แรม 2GB รัน ColorOS 5.1 พัฒนามาจาก Android 8.1 (Oreo) กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า และแบตเตอรี่ความจุ 4,230mAh
ราคาประมาณ 3,000 บาท
22. Panasonic Eluga X1 และ X1 Pro
มือถือระดับกลางซีรีส์ X1 ดีไซน์สวยหน้าจอบากตามสมัยนิยม กล้องหลังคู่พร้อม AI Sense ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าผ่านอินฟราเรด ด้านสเปกเหมือนกัน ต่างกันตรงที่แรม มีหน้าจอ 6.18 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ กระจก Gorilla Glass 3 กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล, LED flash กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Bokeh, Face Emoji และ Face Beauty, รัน Android 8.1 Oreo, ซีพียู MediaTek Helio P60, แรม 4GB/6GB และแบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับ Wireless charging (เฉพาะรุ่น X1 Pro)
ราคาประมาณ 10,900 บาท
23. Nokia 7.1
มือถือระดับกลาง Android One มาพร้อมหน้าจอ 5.84 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมติ่ง คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 80% รองรับการแสดงผล HDR10 ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ PureDisplay ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบไหน หน้าจอก็ให้สีสันที่คมชัดดูมีมิติสวยงาม รัน Android 8.1 (Oreo)
กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล (RGB) + 5 ล้านพิกเซล (Monochrome) เลนส์ ZEISS พร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็ว กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ AI enhanced พร้อมโหมดถ่ายภาพมากมาย เช่น Pro UI, Dual-Sight เป็นต้น ตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม 6000 ซีรีส์ แบตเตอรี่ 3,060mAh รองรับ USB Type-C fast charging เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0 ถึง 50% ในเวลา 30 นาที
ราคาประมาณ 11,000 บาท
24. LG V40 ThinQ
มือถือเรือธงซีรีส์ V รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นด้วยกล้องถ่ายภาพ 5 ตัว แบ่งออกเป็นกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหน้า 2 ตัว สเปกจัดเต็ม ดีไซน์สุดพรีเมียมด้วยวัสดุกระจกไล่สีได้อย่างเงางาม และยังใช้เทคโนโลยี Silky Blast เคลือบทับเพื่อให้ตัวเครื่องสัมผัสผิวที่นุ่มนวล ตัวเครื่องยังผ่านการทดสอบความทนทาน MIL-STD 810G และกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (New Aurora Black), สีเทา (New Platinum Gray), สีน้ำเงิน (New Moroccan Blue) และสีแดง (Carmine Red)
ราคายังไม่เปิดเผย
25. Huawei Y9 2019
มือถือ AI น้องเล็ก แต่สเปกไม่เล็กตาม ชูจุดเด่นเอาใจสายเอนเตอร์เทนตัวจริง มาพร้อมหน้าจอใหญ่ สเปกแรง แบตเตอรี่อึด และกล้อง 4 ตัว ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายภาพก็ครบ ด้วยซีพียู AI Kirin 710 ที่มาพร้อม AI Game Suite และ GPU Turbo เพื่อการเล่นเกมแบบกราฟิกสูงให้ลื่นไหล และเต็มตาด้วยหน้าจอ Huawei FullView Display ขนาด 6.5 นิ้ว และแรม 4GB กับแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh มาพร้อมกล้อง 4 ตัว ถ่ายภาพสวยได้ดั่งใจ พร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่หรู บางเฉียบ
ราคา 6,990 บาท
26. Realme 2 Pro
มือถือรุ่นใหม่ จากแบรนด์อดีตผู้บริหาร OPPO มาพร้อมหน้าจอทรงหยดน้ำตามสมัยนิยม โดยทาง Realme เรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Dewdrop Full Screen มีขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีพื้นที่การใช้งาน 90.8%, กระจก Gorilla Glass, ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, มี AI scene recognition, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty และแบตเตอรี่ 3,500mAh
ราคาประมาณ 6,290 บาท
มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ ชูจุดเด่นกล้องคู่หน้าและหลัง พร้อมราคาสุดโดนใจ มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ด้วยการดีไซน์แบบ Full Screen อัตราส่วน 19:9 มีความขอบโค้งมนของขอบหน้าจอ ใช้ซีพียู Snapdragon636 Octa-core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และแบตเตอรี่ 4,000mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ราคา 6,990 บาท
28. Wiko Lenny5
มือถือดีไซน์พรีเมียม ครบเครื่องทุกการใช้งาน ในราคาคุ้มค่า มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 5.7 นิ้ว จับถนัดมือ ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.0 และโหมดถ่ายภาพ Auto-HDR และ Face Beauty เพิ่มมิติของเสียงให้ดังและใสยิ่งขึ้นด้วยลำโพงคู่ ใช้ซีพียู MediaTek MT6580 Quad-Core 1.3GHz, หน่วยความจำ 16GB, แรม 1GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD ได้ถึง 64GB และรันระบบปฏิบัติการ Android 8 Oreo (Go Edition) รองรับ 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่ความจุ 2,800mAh ตัวเครื่องมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Anthracite, Gold, Bleen และ Cherry Red
ราคา 2,890 บาท
29. Meizu X8
มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแหว่งตามสมัยนิยมขนาด 6.2 นิ้ว เป็นรุ่นแรกของค่าย อัตราส่วน 18.5:9 ใช้หน้าจอ LCD คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89.6% ขอบจอบาง 1.7 มิลลิเมตร และขอบด้านล่าง 4.8 มิลลิเมตร กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล พร้อม dual-tone LED flash กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,210mAh รองรับ mCharge fast charging
ราคาประมาณ 7,590 บาท
มือถือราคาถูก มาพร้อมหน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9, รัน Android Oreo สำหรับรุ่น V8 Pro ใช้ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P22, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล ส่วน V8 ใช้ซีพียู Quad-Core MediaTek MT6739, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่น
ราคาประมาณ 3,790 บาท
31. Meizu 16X
มือถือระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ สัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 90.62%, ซีพียู Snapdragon 710, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Flyme OS, กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX380, ขนาดพิกเซล 1.55μm, รูรับแสงกว้าง f/1.8, กล้องตัวที่สอง 20 ล้านพิกเซล (telephoto lens) ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX350, ซูม 3 เท่า, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับ AI beauty และปลดล็อกด้วยใบหน้า พร้อมแบตเตอรี่ 3,100mAh รองรับ mCharge flash charging
ราคาประมาณ 9,900 บาท
Samsung Galaxy A7 เวอร์ชั่น 2018 มือถือระดับกลางรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยแบ่งออกเป็นกล้องหลังความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (Ultra Wide) และกล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Depth) ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพ
ในส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มเช่นกัน มาพร้อมกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล มี LED flash และยังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดด้วยการรวม 4 พิกเซล เป็น 1 พิกเซล นอกจากนี้ยังมีโหมด Selfie Focus, Pro Lighting Mode และ AR emoji ส่วนสเปกอื่น ๆ มีหน้าจอ 6 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Octa-Core 2.2GHz (ไม่ระบุรุ่น แต่คาดว่าน่าจะเป็น Exynos 7885), สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, รองรับ Dolby Atmos และแบตเตอรี่ 3,300mAh ส่วนวัสดุตัวเครื่องขอบเป็นโลหะ ด้านหลังเป็นกระจก โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า, สีดำ, สีทอง และสีชมพู
ราคา 10,990 บาท (แรม 4GB + 64GB) และ 13,990 บาท (แรม 6GB + 128GB)
33. Xiaomi Mi 8 Lite
Xiaomi Mi 8 Lite หรือ Mi 8 Youth Edition มือถือระดับกลางราคาประหยัดเพิ่มมาอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรอยบาก ใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล, f/1.9 รองรับ AI scene recognition สามารถแยกซีนได้ 238 ซีน, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ AI beautify, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกไล่เฉดสีสวยงาม และแบตเตอรี่ 3,350mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคาประมาณ 6,690 บาท
34. Xiaomi Mi 8 Pro
มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ ที่มีสเปกเหมือนกับ Xiaomi Mi 8 แต่อัปเกรดไปใช้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกับรุ่น Mi 8 Explorer Edition และปรับปรุงการสแกนนิ้วดีขึ้นกว่าเดิม โดยเคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วขึ้น 29% นอกจากนี้ยังปรับโฉมสีสันบนตัวเครื่องใหม่ โดยใช้การไล่เฉดสีตามสมัยนิยม เงางามด้วยวัสดุกระจก มีให้เลือก 2 สี คือ สีส้ม-แดง (Sunset Gold), สีดำ (Black) และแบบฝาหลังโปร่งใส (Transparent Titanium)
ราคาประมาณ 15,000 บาท
35. Samsung Galaxy J4+ และ Galaxy J6+
มือถือซีรีส์ Galaxy J 2 รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว แบบ Infinity display อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด HD+ ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม มีให้เลือกหลายสี ใช้ซีพียู Snapdragon 425, แรมสูงสุด 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo), แบตเตอรี่ 3,300mAh, มีสแกนลายนิ้วมือ และกล้องคู่เฉพาะรุ่น Galaxy J6+
ราคา
- Galaxy J4+ ราคา 4,690 บาท (แรม 2GB + 16GB)
- Galaxy J6+ ราคา 7,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)