ส่อง 20 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกันยายน 2018 มีมือถือใหม่เปิดตัวรุ่นไหนบ้าง มือถือใหม่ ปี 2018 มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดนกันบ้าง
ก้าวเข้าสู่เดือนกันยายน ตลาดมือถือยังคงคึกคักด้วยมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง และเดือนนี้ก็มีมือถือที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ iPhone รุ่นใหม่ โดยปีนี้แอปเปิลเปิดตัวถึง 3 รุ่น ได้แก่ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone XR ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นอกจากนี้มือถือที่เปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคม ก็เริ่มออกวางจำหน่าย มีทั้งรุ่นเรือธง มือถือระดับกลาง และระดับล่างที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น มีให้เลือกหลายรุ่น หลายราคาด้วยกัน ส่วนมือถือใหม่เดือนกันนายน มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลย
1. iPhone Xs และ iPhone Xs Max
iPhone Xs และ iPhone Xs Max เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่อัปเกรด และปรับปรุงมาจาก iPhone X นั่นเอง โดยรุ่นนี้เน้นไปที่การอัปเกรดสเปก เพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานได้ดีกว่าเดิมตามสไตล์แอปเปิล ดีไซน์ตัวเครื่องของ iPhone Xs และ iPhone Xs Max ไม่ต่างจาก iPhone X ยังคงใช้ดีไซน์ที่มีทิศทางเดียวกัน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป ก็คือ เรื่องของหน้าจอ เริ่มต้นที่ iPhone Xs มีหน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว Super Retina HD ความละเอียด 2,436 x 1,125 พิกเซล (458ppi) ส่วน iPhone Xs Max มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว Super Retina HD ความละเอียด 2,688 x 1,242 พิกเซล (458ppi)
ซีพียู Apple A12 Bionic เป็นซีพียูโทรศัพท์มือถือตัวแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร โดย 2 คอร์ประมวลผลการทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 15% เและ 4 คอร์ประหยัดพลังงานใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 50% และประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 50% (รายละเอียดอื่น ๆ อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่)
ราคาประมาณ 32,790 - 47,590 บาท
2. iPhone XR
iPhone รุ่นราคาถูกที่เปิดตัวมาพร้อมกับ iPhone Xs รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว หน้าจอแบบ LCD (326ppi) แอปเปิลเรียกหน้าจอนี้ว่า Liquid Retina HD เคลมว่าเป็นหน้าจอ LCD ที่ดีที่สุด ใช้ซีพียู A12 Bionic ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร พร้อม Neural Engine รุ่นที่ 2, กล้องหลังตัวเดียว 12 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพบุคคล (Portrait)โดยใช้กล้องเลนส์เดี่ยว, ตัวเครื่องใช้วัสดุกรอบอะลูมิเนียม ด้านหลังเป็นกระจก มีให้เลือกถึง 6 สี, มี Face ID, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 และแบตเตอรี่ที่เคลมว่าใช้งานได้นานกว่า iPhone 8 Plus ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง
ราคาประมาณ 24,490 บาท
3. vivo Y97
มือถือระดับกลางซีรีส์ Y เพิ่มอีกรุ่น ใช้หน้าจอ Waterdrop display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 90.3 % มีความละเอียด Full HD+, ซีพียู MediaTek Helio P60 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, รัน Android 8.1, รองรับการสแกนใบหน้าด้วยอินฟราเรด, รองรับ Jovi, Game Mode 4.0 และแบตเตอรี่ 3,315mAh
ราคาประมาณ 9,590 บาท
4. OPPO A7x
มือถือซีรีส์ A รุ่นใหม่ หรือจะเรียกว่าเป็น OPPO F9 เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายเฉพาะประเทศจีน แต่มีปรับลดสเปกบางส่วนลง เช่น กล้องหน้า และเพิ่มแบตเตอรี่มากขึ้น ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนกันไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมลวดลายกลีบดอกไม้ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ Waterdrop Screen เป็นหน้าจอที่มีรอยบากทรงหยดน้ำ มีขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งานทั้งหมด 90.8% ขอบจอโค้งมนสวยงาม ใช้ซีพียู MediaTek Helio P60 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, f/2.0, รองรับ AI, ด้านหลังมีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ความจุ 4,230mAh
ราคาประมาณ 10,000 บาท
5. vivo X23
มือถือซีรีส์ X รุ่นใหม่ พร้อมปรับโฉมหน้าจอใหม่ Halo FullView display เปลี่ยนรอยแหว่งขนาดกว้างเป็นแบบทรงหยดน้ำเหมือนกับ OPPO F9 มีขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบาง 1.76 มิลลิเมตร มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 91.27% ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามใช้วัสดุกระจก 3D glass พร้อมกับไล่เฉดสีแบบ Aurora ดูสวยงาม กล้องหลังคู่แนวตั้ง พร้อมเลนส์ไวด์ สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เคลมว่าสแกนได้รวดเร็วแค่ 0.35 วินาที
ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 670 AIE, แรม 8GB, กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 กล้องตัวที่สอง 13 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 125 องศา รองรับการปลดล็อกใบหน้าด้วยอินฟราเรด กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม AI beautify และผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi AI
ราคาประมาณ 16,800 บาท
6. nubia Z18
มือถือเรือธงซีรีส์ Z รุ่นใหม่ ประจำปี 2018 จาก nubia มาพร้อมสเปกแรงแบบจัดเต็มเหมือนเดิม ด้วยซีพียู Snapdragon 845 แรมสูงสุด 8GB, หน้าจอไร้ขอบมีรอยเว้าแบบหยดน้ำ ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9 มีสัดส่วนของขนาดหน้าจอและตัวเครื่อง 91.8% ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย nubia UI 6.0, กล้องหลังคู่ 16 + 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, ระบบโฟกัส PDAF, กันสั่น OIS, รองรับ AI, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้า และมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง ส่วนตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะและกระจก Gorilla Glass ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 3,450mAh พร้อม Quick Charge 4
ราคาประมาณ 13,490 บาท
7. Honor 8X
มือถือหน้าจอใหญ่ ระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบางเฉียบ 4.25 มิลลิเมตร อัตราส่วน 19:5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91%, ซีพียู Kirin 710 แรม 4GB/6GB, กล้องหลังคู่ 20 + 2 ล้านพิกเซล, LED flash, AI scene recognition สามารถวิเคราะห์ภาพที่จะถ่ายและแยกได้ถึง 500 ซีน, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี 4-in-1 พิกเซล และ AI beautify รวมถึงมี 4D gaming experience ที่รวบรวมการสั่นสะเทือนในสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในเกมไว้กว่า 30 แบบ
ราคาประมาณ 6,700 บาท
8. Honor 8X Max
มือถือซีรีส์ X รุ่นใหม่ จาก Honor ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ 7.12 นิ้ว มีติ่งรูปหยดน้ำ อัตราส่วน 18.7:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 90.5% ความละเอียด Full HD+ และมีแบตเตอรี่อึดความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 9V/2A ด้านสเปกอื่น ๆ ใช้ซีพียู Snapdragon 660 และ 636, แรมสูงสุด 6GB, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล, LED flash, มี AI Scene Recognition, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ราคาประมาณ 7,190 บาท
มือถือระดับกลางซีรีส์ V รุ่นใหม่ สานต่อความสำเร็จจาก vivo V9 โดยรุ่นนี้ได้มีการปรับโฉมหน้าจอใหม่อีกครั้ง ใช้หน้าจอแบบ Halo FullView Display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91.27% มีความละเอียด Full HD+ รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่น V11) สแกนใบหน้าด้วยแสงอินฟราเรด ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามไล่เฉดสี มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ-ฟ้า (Starry Night) และสีฟ้า-ม่วง (Nebula)
กล้องถ่ายภาพของ vivo V11 และ vivo V11i ใช้เป็นกล้องหลังเลนส์คู่ เทคโนโลยีถ่ายภาพ 2PD พร้อมระบบเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพ 2 x 1,200 ล้านพิกเซล สามารถจับโฟกัสถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วแม่นยำเป็นธรรมชาติ และถ่ายภาพได้แม้ในที่มีแสงหลากหลายแบบด้วยรูรับแสงขนาด f/1.8 ขนาดพิกเซล 1.28μm มีเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI Backlight HDR และ AI Low Light HDR ที่ใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพ 6 เฟรมรวมกันให้เป็นภาพเดียว
ราคา 13,999 บาท (vivo V11) และราคา 9,999 บาท (vivo V11i)
มือถือระดับกลางซีรีส์ Mate รุ่นใหม่ ดีไซน์หน้าจอแหว่ง วัสดุตัวเครื่องขอบเป็นโลหะ ด้านหลังเป็นกระจกโค้ง มาพร้อมซีพียูรุ่นใหม่ HiSilicon Kirin 710 (4 x ARM Cortex-A73@2.2GHz + 4 x ARM Cortex-A53@1.7GHz) ผลิตที่เทคโนโลยี 12 นาโนเมตร หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหลัง 20 ล้านพิกเซล (f/1.8) + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,750mAh รองรับ Fast charging
ราคาประมาณ 12,400 บาท
มือถือระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9, ซีพียู Snapdragon 636, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ZUI 4.0, วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจก, แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับ 18W fast charging, กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รองรับ AI Beauty และมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ราคาประมาณ 9,590 บาท
12. Motorola One และ Motorola One Power
มือถือ Android One รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอแหว่งตามสมัยนิยมขนาด 5.9 นิ้ว และ 6.2 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ส่วนซีพียู Snapdragon 625 กับ Snapdragon 636 มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง กล้องหลังคู่ กล้องหน้าเท่ากันที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รัน Android 8.1 (Oreo) และเคลมว่าเตรียมอัปเดต Android 9.0 (Pie) เร็ว ๆ นี้ ส่วนแบตเตอรี่รองรับ TurboPower fast charging ทั้ง 2 รุ่น
ราคาประมาณ 11,400 บาท
มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ ที่เป็นรุ่นสเปกปรับราคาให้ถูกลงจาก BlackBerry KEY2 มาพร้อมหน้าจอ 4.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ขอบจอบางเฉียบ, ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, กล้องหลังคู่ 13 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 3,000mAh
ไฮไลท์ของรุ่นนี้อยู่ที่คีย์บอร์ด 4 แถวแบบ QWERTY ที่ได้รับการออกแบบใหม่ พิมพ์ง่ายกว่าเดิม รองรับ Flick typing, และสามารถตั้งค่าปุ่มลัดได้ 52 แบบ และมีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Spacebar, ตัวคีย์บอร์ดออกแบบให้ใหญ่และสูงขึ้น 20% และยังมีปุ่ม Speed key เพื่อเป็นทางลัดใช้เรียกแอปฯ ต่าง ๆ บนตัวเครื่องได้
ราคาประมาณ 13,900 บาท
14. ZTE Axon 9 Pro
มือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ ZTE มาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED, รองรับ HDR10, ซีพียู Snapdragon 845, แรม 6GB, รัน Android 8.1 (Oreo), กล้องหลังคู่ 12 + 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363, กันสั่น OIS, Dual Pixel auto focus, เลนส์มุมกว้าง 130 องศา, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, บอดี้เป็นกระจก มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ Quick Charge 4.0 และชาร์จไร้สาย
ราคาประมาณ 24,900 บาท
15. Sony Xperia XZ3
มือถือเรือธงรุ่นใหม่ ส่งท้ายปี 2018 พร้อมปรับโฉมหน้าจอใหม่เปลี่ยนมาใช้จอ OLED ขอบโค้ง ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด QHD+ อัตราส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม ด้านสเปกใช้ซีพียู Snapdragon 845 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 (Pie), กล้องหลัง Dual Motion Eye ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/ 2.3″ Exmor RS, รองรับการถ่าย Super Slow Motion ที่ 960 fps, กันสั่น 5 แกน และ Predictive Capture ที่เก็บภาพให้ก่อนการกดซัตเตอร์ถ่าย นอกจากนี้ยังปรับปรุงแอปฯ กล้องใหม่ทั้งหมด ส่วนกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
ราคาประมาณ 29,900 บาท
16. HTC U12 life
มือถือระดับกลางซีรีส์ U รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, บอดี้ตัวเครื่องผิวเคลือบคู่แบบอะครีลิกที่มีลวดลายคล้ายโลหะ สามารถทนต่อรอยขีดข่วน และดูสวยงามแปลกตา ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 3,600mAh
ราคาประมาณ 12,790 บาท
17. Realme 2
มือถือจากอดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัท OPPO เปิดตัว Realme 2 มือถือรุ่นใหม่ ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Realme หลังจากเปิดตัวรุ่นแรก Realme 1 ไปแล้ว มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 19:9 มีรอยแหว่ง คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.8%, ซีพียู Snapdragon 450, แรมสูงสุด 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.1, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ AI beautify และการสแกนใบหน้า (Face Unlock) รวมถึงมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ราคาประมาณ 4,000 บาท
มือถือ Android One ที่มาพร้อมรอมแบบ Pure Android และอีกรุ่น คือ LG G7 Fit มือถือสเปกทั่วไป รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย LG UX จุดสังเกตทั้ง 2 รุ่น ใช้ซีพียูอดีตรุ่นท็อปอย่าง Snapdragon 835 และ Snapdragon 821
สำหรับ LG G7 One และ LG G7 Fit มีสเปกที่คล้ายกัน ใช้หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว FullVision LCD Super Bright display ความละเอียด QHD+ อัตราส่วน 19.5:9, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, กันกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD 810G, รองรับ Hi-Fi Quad DAC, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคายังไม่เปิดเผย
19. OPPO R17 Pro
มือถือที่ใช้ซีพียูรุ่นรองท็อปอย่าง Snapdragon 710 มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบากทรงหยดน้ำ (Waterdrop Screen) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.5% ใช้กระจกรุ่นใหม่ Corning Gorilla Glass 6, รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เคลมว่าสามารถปลดล็อกได้เร็วแค่ 0.41 วินาที รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.2, กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล รองรับ AI, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB และแบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับ SuperVOOC fast charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-40% ในเวลา 10 นาที
ราคาประมาณ 20,500 บาท
มือถือ Android Go รุ่นแรกของ Samsung จับกลุ่มผู้ซื้อที่มีงบจำกัด อยากได้มือถือที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีสเปกไม่สูง แต่ก็ใช้งานได้อย่างราบรื่นด้วยระบบปฏิบัติการ Android Oreo (Go edition) ที่ออกแบบมาเพื่อมือถือสเปกต่ำโดยเฉพาะ ด้านสเปกของ Galaxy J2 Core มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด qHD TFT, ซีพียู Exynos 7570 Quad-Core, แรม 1GB, หน่วยความจำ 8GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 2,600mAh
ราคายังไม่เปิดเผย