10 มือถือมาแรงน่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนตุลาคม 2561 รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย
สวัสดีเดือนตุลาคม กลับมาอัปเดตกันอีกครั้งกับมือถือน่าซื้อประจำเดือน สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่และมือถือที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Galaxy A7 (2018) มือถือกล้องหลัง 3 ตัวแรกของซัมซุง หรือ Redmi Note 6 Pro มือถือราคาประหยัดจาก Xiaomi เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Thailand Mobile Expo 2018 ชูจุดเด่นกล้องคู่หน้าและหลัง ก็น่าสนใจอีกรุ่น สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือที่น่าสนใจหลายรุ่น หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี เราคัดมาให้แล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อน่าใช้ประจำเดือนตุลาคม 2561 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
มือถือระดับกลางรุ่นแรกของ Samsung ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยแบ่งออกเป็นกล้องหลังความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (Ultra Wide) และกล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Depth) ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพ
ในส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มเช่นกัน มาพร้อมกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล มี LED flash และยังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดด้วยการรวม 4 พิกเซล เป็น 1 พิกเซล นอกจากนี้ยังมีโหมด Selfie Focus, Pro Lighting Mode และ AR emoji ส่วนสเปกอื่น ๆ มีหน้าจอ 6 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Octa-Core 2.2GHz (ไม่ระบุรุ่น แต่คาดว่าน่าจะเป็น Exynos 7885), แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, มีสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, รองรับ Dolby Atmos และแบตเตอรี่ 3,300mAh ส่วนวัสดุตัวเครื่องขอบเป็นโลหะ ด้านหลังเป็นกระจก โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้า สีทอง และสีดำ
ราคา 10,990 บาท (แรม 4GB + 64GB)
มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Thailand Mobile Expo 2018 ชูจุดเด่นกล้องคู่หน้าและหลัง พร้อมราคาสุดโดนใจ มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ด้วยการดีไซน์แบบ Full Screen อัตราส่วน 19:9 มีความขอบโค้งมลของขอบหน้าจอ ใช้ซีพียู Snapdragon 636 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และแบตเตอรี่ 4,000mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
สำหรับรุ่นนี้ใช้กล้องด้านหลังคู่ ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI มี AI Scene dectction, โหมดภาพถ่ายคน (AI Portrait 2.0) และการถ่ายภาพแบบเบลอ โดยผู้ใช้สามารถออกแบบรูปร่างหรือหมุนแสงโบเก้ (Bokeh) ได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ใช้เซ็นเซอร์ระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel Autofocus พิกเซลขนาดใหญ่ 1.4μm (2PD) ให้ภาพที่สว่างคมชัดและมีความละเอียดสูงแม้ถ่ายในเวลากลางคืน กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 20 + 2 ล้านพิกเซล
ราคา 6,990 บาท
มือถือที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของ Google ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แบบ Pure Android ไม่มีอินเทอร์เฟซมาครอบทับ การันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ และความปลอดภัยเป็นประจำเป็นเวลา 2 ปี ส่วนด้านสเปกก็เหมือนกับรุ่น Nokia X6 มาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมติ่ง (Notch) อัตราส่วน 19:9 ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามดูหรูหรา โดยใช้วัสดุที่เป็นกระจกถึง 95% และโลหะเป็นเฟรม ใช้ซีพียู Snapdragon 636, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 400GB, รองรับ Dual VoLTE และแบตเตอรี่ 3,060mAh รองรับ Quick Charge 3.0 ชาร์จจาก 0 - 50% ใน 30 นาที
ราคา 8,990 บาท
มือถือระดับกลางซีรีส์ V รุ่นใหม่ สานต่อความสำเร็จจาก vivo V9 โดยรุ่นนี้ได้มีการปรับโฉมหน้าจอใหม่อีกครั้ง ใช้หน้าจอแบบ Halo FullView Display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนของขนาดจอและตัวเครื่อง 91.27% มีขนาด 6.41 นิ้วกับ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่น V11) สแกนใบหน้าด้วยแสงอินฟราเรด ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามไล่เฉดสี มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ-ฟ้า (Starry Night) และสีฟ้า-ม่วง (Nebula)
ด้านกล้องถ่ายภาพของ vivo V11 และ vivo V11i ใช้เป็นกล้องหลังเลนส์คู่ เทคโนโลยีถ่ายภาพ 2PD พร้อมระบบเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพ 2 x 1,200 ล้านพิกเซล สามารถจับโฟกัสถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วแม่นยำเป็นธรรมชาติ และถ่ายภาพได้แม้ในที่มีแสงหลากหลายแบบด้วยรูรับแสงขนาด f/1.8 ขนาดพิกเซล 1.28μm มีเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI Backlight HDR และ AI Low Light HDR ที่ใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพ 6 เฟรมรวมกันให้เป็นภาพเดียว, มีโหมด AI Secne Recognition ที่สามารถแยกแยะวิวทิวทัศน์ตอนกลางคืน โหมดภาพถ่ายกันสั่น แลโหมดถ่ายภาพบุคคล อาหาร ดอกไม้ เป็นต้น ส่วนกล้องหน้าของทั้ง 2 รุ่น ความละเอียดเท่ากันที่ 25 ล้านพิกเซล มีเทคโนโลยี AI พร้อมเทคโนโลยีปรับแต่งแสงแบบ 3D ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่สวยและคมชัด ดูรายละเอียดสเปกและอื่น ๆ ที่นี่
ราคา 13,999 บาท (vivo V11) และราคา 9,999 บาท (vivo V11i)
5. Wiko Lenny5
มือถือดีไซน์พรีเมียม ครบเครื่องทุกการใช้งาน ในราคาคุ้มค่า มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 5.7 นิ้ว จับถนัดมือ ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9 กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.0 และโหมดถ่ายภาพ Auto-HDR และ Face Beauty เพิ่มมิติของเสียงให้ดังและใสยิ่งขึ้นด้วยลำโพงคู่ ใช้ซีพียู MediaTek MT6580 Quad-Core 1.3GHz, หน่วยความจำ 16GB, แรม 1GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอก microSD ได้ถึง 64GB และรันระบบปฏิบัติการ Android 8 Oreo (Go Edition) รองรับ 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่ความจุ 2,800mAh ตัวเครื่องมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Anthracite, Gold, Bleen และ Cherry Red
ราคา 2,890 บาท
6. Nokia 3.1
มือถือ Android One ราคาประหยัด รุ่นอัปเกรดสเปคของ Nokia 3 มาพร้อมหน้าจอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD+, 18:9, ซีพียู MediaTek MT6750 ที่เคลมว่าแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 50%, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, รัน Android 8.0 (Oreo), กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, กรอบโลหะส่วนฝาหลังใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต และแบตเตอรี่ 2,990mAh
ราคา 4,990 บาท
7. OPPO Find X
สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์กล้องถ่ายภาพแบบสไลด์ขึ้นลง OPPO ได้คืนชีพมือถือซีรีส์ Find อีกครั้ง OPPO Find X เป็นมือถือระดับเรือธง อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหมือนกันแบรนด์อื่น ๆ มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามด้วยวัสดุกระจก 3D Glass หน้าจอไม่แหว่ง กล้องถ่ายภาพสุดคูลแบบสไลด์ขึ้น-ลง เมื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ เรียกว่า O-Face พร้อมฟีเจอร์ OMoji สร้างตัวการ์ตูนอีโมจิแบบ 3 มิติ ได้ทั้งแบบถ่ายรูปหรือวิดีโอ และตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม
มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.42 นิ้ว ขอบจอโค้ง ไร้ขอบสวยงาม ความละเอียด 2,360 x 1,080 พิกเซล, อัตราส่วน 19.5:9 โดย OPPO เรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Panoramic Arc Screen มีพื้นที่การแสดงผล 93.8% และที่สำคัญไม่มีรอยแหว่งบนหน้าจอ กล้องหลังคู่ 16 + 20 ล้านพิกเซล รับแสง f/2.0, แฟลช LED, กันสั่น OIS, มี AI Scene Recgonition ที่สามารถแยกซีนภาพถ่าย ระบุจากภาพที่กำลังจะถ่ายได้ถึง 20 ประเภท กว่า 800 แบบ และมีโหมด AI Portrait พร้อมการปรับแสง 3D lighting
ราคา 29,990 บาท
มือถือซีรีส์ Galaxy J ใหม่ ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว แบบ Infinity display อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด HD+ ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม มีให้เลือกหลายสี ใช้ซีพียู Snapdragon 425, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รัน Android 8.1 (Oreo), กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, LED flash, f/1.9, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, LED flash, f/2.2, มีสแกนลายนิ้วมือ, แบตเตอรี่ 3,300mAh, ตัวเครื่องมี 3 สี ได้แก่ สีชมพู สีทอง และสีดำ
ราคา 4,690 บาท
มือถือสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพจากทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการทำงานหรือความบันเทิง มาพร้อมแรม 4GB หน่วยความจำ 64GB สามารถเพิ่ม microSD Card สูงสุดถึง 512GB ช่วยให้การทำงานรวดเร็วและลื่นไหล สามารถเล่นเกม ROV หรือดูหนังสตรีมมิ่งออนไลน์ ได้อย่างลื่นไหล รักษาข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง หรือ สแกนด้วยใบหน้า (Face Detection) กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายรูปได้เหมือนมืออาชีพ สามารถถ่ายภาพบุคคล (Portrait) แบบหน้าชัดหลังเบลอหรือทำ Art Bokeh ละลายหลังเป็นรูปร่างได้ถึง 10 แบบ กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.9 พร้อมฟีเจอร์ Adjustable LED Flash แฟลชปรับระดับไฟได้ ให้ภาพเซลฟี่สวยแบบจัดเต็ม พร้อมโหมด AR Sticker สติ๊กเกอร์ตกแต่งเพิ่มความสนุกสนานให้กับการถ่ายภาพมากขึ้นแบบไม่เหมือนใคร โดยใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (Face Recognition) รวมถึงฟิลเตอร์แต่งภาพสุดอาร์ตเพิ่มความประทับใจให้โมเมนต์สำคัญในความทรงจำ ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี คือ สีแดงกับสีเทา
ราคา 7,990 บาท
10. Wiko Tommy3 Plus
มือถือราคาประหยัดอีกรุ่นจาก Wiko ใช้งานได้หลากหลาย สไตล์ไหนก็ลงตัว มาพร้อมจอ 5.45 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 จอแสดงผลความละเอียด HD+ ถ่ายภาพด้วยความละเอียดกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ซีพียูควอดคอร์ 1.3GHz, รองรับ 4G, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, แรม 2GB, รัน Android Oreo, ปลดล็อกเครื่องได้ด้วย Face Unlock และแบตเตอรี่ 2,900mAh พร้อมหน้าต่างการใช้งาน Wiko User Interface ควบคู่กับ Wiko Launcher
ราคา 3,190 บาท
10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนกันยายน 2561 มีรุ่นไหนบ้าง ?
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง