20 มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนกรกฎาคม 2018

          20 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกรกฎาคม 2018 มาดูกันว่ามือถือใหม่เดือนนี้ มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดนกันบ้าง

          ก้าวเข้าสู่เดือนกรกฎาคมของปี 2018 ตลาดมือถือยังคงคึกคักเหมือนเดิม แบรนด์ต่าง ๆ ยังคงทยอยเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมือถือที่เปิดตัวในช่วงเดือนมิถุนายน ก็เริ่มออกวางจำหน่าย มีทั้งรุ่นเรือธง มือถือระดับกลาง และระดับล่างที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น มีให้เลือกหลายรุ่น หลายราคาด้วยกัน และในเดือนกรกฎาคม มีมือถือใหม่เปิดตัวหลายรุ่นจากหลากหลายแบรนด์ มาดูกันว่ามือถือใหม่ทั้ง 20 รุ่น จะมีรุ่นไหนเด็ดโดนใจกันบ้าง

1. Sony Xperia XA2 Plus

          มือถือซีรีส์ Xperia XA รุ่นใหม่ สำหรับรุ่นนี้ทาง Sony ปรับขนาดหน้าจอใหม่เป็นแบบอัตราส่วน 18:9 ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, กระจก Gorilla Glass 5, ใช้ซีพียู Snapdragon 630, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รองรับ microSD สูงสุด 400GB, รัน Android 8.0 Oreo, มีให้เลือกทั้งรุ่นซิมเดียวและสองซิม, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง, วัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม และแบตเตอรี่ 3,580mAh รองรับ Quick Charge 3.0 และ Qnovo Adaptive Charging

ราคายังไม่เปิดเผย

2. Huawei nova 3

          มือถือ 4 กล้อง ซีรีส์ nova รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบาก (notch), ซีพียู Kirin 970 รองรับ GPU Turbo, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.2, กล้องหลังคู่ 16 + 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยในการถ่ายภาพ, กล้องหน้าคู่ 24 + 2 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้า และฟีเจอร์ 3D Qmoji สร้างอีโมจิแบบ 3 มิติ เหมือนกับ Animoji ของแอปเปิล, Omoji ของ OPPO และ AR Emoji ของ Samsung

ราคายังไม่เปิดเผย

3. OPPO A5

          มือถือซีรีส์ A รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบาก (notch) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 87.8% ใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.1, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด portrait, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม AI beautify และรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง (ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ) แบตเตอรี่ 4,230mAh เคลมว่าสามารถเล่นวิดีโอนาน 14 ชั่วโมง และเล่นเกมต่อเนื่องนาน 11 ชั่วโมง

ราคาประมาณ 7,590 บาท

4. Honor 10 GT

          มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสเปกใหม่จาก Honor 10 โดยเพิ่มแรมจากเดิม 6GB เป็น 8GB และเพิ่มเทคโนโลยี GPU Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกถึง 60% ประหยัดพลังงานลง 30% นอกจากนี้ยังเพิ่มโหมดสำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืนมาให้อีกด้วย โดยทำงานร่วมกับ AI สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ด้านสเปกอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม

ราคายังไม่เปิดเผย

5. vivo Z10

          vivo Z10 หรือ vivo V7+ ที่วางขายในประเทศไทย แต่รุ่นนี้มีการปรับสเปกหน่วยความจำลงเหลือ 32GB จากเดิม 64GB (vivo V7+) สเปกอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 มีพื้นที่หน้าจอ 84.4% ขอบจอบางเฉียบเพียง 2.15 มิลลิเมตร กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มี LED flash พร้อมโหมด Face Beauty 7.0 และโหมด Portrait ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส PDAF และ LED flash สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล (Ultra HD)

          รุ่นนี้ใช้ซีพียู Snapdragon 450 Octa-Core, รัน Android 7.1 (Nougat) ครอบทับด้วย FuntouchOS 3.2 พร้อมฟีเจอร์แบ่งหน้าจอ Smart Split 3.0 และ App Clone, รองรับ 2 ซิม, microSD, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และรองรับการสแกนใบหน้า (Face Access)

ราคาประมาณ 7,290 บาท

6. Samsung Galaxy On6

          มือถือซีรีส์ Galaxy On6 หรือ Galaxy J6 (รุ่นที่วางจำหน่ายนอกอินเดีย) ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.6 นิ้ว Super AMOLED Infinity display ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 18.5:9, ซีพียู Exynos 7870 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.0 (Oreo), กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี LED flash ทั้งกล้องหน้า-หลัง ส่วนรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh

ราคาประมาณ 6,990 บาท

7. vivo Z21i

          vivo เปิดตัวมือถือซีรีส์ Z เพิ่มอีกรุ่น หลังจากเปิดตัว vivo Z1 ไปก่อนหน้านี้ โดยรุ่นนี้มีการปรับสเปกใหม่บางส่วน มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD +, อัตราส่วน 19:9 มีรอยบาก (notch) คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90% ขอบจอบางเฉียบ, แรม 4GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ซีพียู Snapdragon 636, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi AI และการสแกนใบหน้า (Face Wake) ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 3,260mAh

ราคาประมาณ 9,490 บาท

8. vivo V9 6GB

          มือถือรุ่นอัปเกรดสเปกมาจาก vivo V9 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนมีนาคม สำหรับ vivo V9 6GB รุ่นนี้ จะอัปเกรดสเปกเปลี่ยนซีพียูใหม่ พร้อมกับเพิ่มแรมเป็น 6GB โดยเปลี่ยนมาใช้ซีพียู Snapdragon 660 AIE (รุ่นเดิมใช้ Snapdragon 626, แรม 4GB) แต่กล้องถ่ายภาพถูกลดสเปกลงเช่นกัน โดยกล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ AI Bokeh และ HDR, กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล (รุ่นเดิม กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล) พร้อมโหมดถ่ายภาพ AI Face Beauty, AR Sticker, AI Selfie Lighting และรองรับฟีเจอร์ AI Face Access ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเหมือนเดิม มีให้เลือก 2 สี คือ สีแดงกับสีดำ

ราคาประมาณ 9,990 บาท

9. OPPO A73s

          มือถือซีรีส์ A รุ่นอัปเกรดสเปกจาก A73 มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว Full Screen ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 18:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 84.8%, ซีพียู MediaTek Helio P60 ความเร็ว 2.0GHz, จีพียู Mali-G72, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 8.1 ครอบทับด้วย ColorOS 5.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า และแบตเตอรี่ 3,410mAh

ราคาประมาณ 9,790 บาท

10. Xiaomi Redmi 6 Pro

          มือถือระดับกลางซีรีส์ Redmi เพิ่มอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 5.84 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19:9, จอรอยบาก (Notch), ซีพียู Snapdragon 625, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 12 + 5 ล้านพิกเซล รองรับ AI portraits และ AI scene detection, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับ AI portrait และ AI Face unlock (ปลดล็อกด้วยใบหน้า) ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh

ราคาประมาณ 5,000 - 6,590 บาท

11. Huawei Y6 Prime 2018

          มือถือรุ่นเล็ก สเปกระดับเริ่มต้ม ราคาประหยัดในซีรีส์ Y เพิ่มมาอีกรุ่น คือ Huawei Y6 Prime 2018 มีสเปกบางส่วนคล้ายกับ Huawei Y6 2018 มาพร้อมหน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ FullView Display, 18:9, ซีพียู Snapdragon 425, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.0 (Oreo) ครอบทับด้วย EMUI 8.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Toning Flash, มีสแกนลายนิ้วมือและปลดล็อกด้วยใบหน้า นอกจากนี้ยังมีลำโพงที่ให้เสียงได้ถึง 88 dB ทำให้เสียงดีขึ้น 78% พร้อมเทคโนโลยี Huawei Histen ช่วยปรับแต่งเสียง

ราคา 4,690 บาท

12. OPPO Find X

          กลับมาคืนชีพอีกครั้งมือถือซีรีส์ Find ของ OPPO สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือระดับเรือธง อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามด้วยวัสดุกระจก 3D Glass หน้าจอไม่แหว่ง กล้องถ่ายภาพสุดคูลแบบสไลด์ขึ้น-ลง เมื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ และยังมีเทคโนโลยี AI ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ เรียกว่า O-Face พร้อมฟีเจอร์ OMoji สร้างตัวการ์ตูนอีโมจิแบบ 3 มิติ ได้ทั้งแบบถ่ายรูปหรือวิดีโอ ตัวเครื่องไล่เฉดสี มีให้เลือก 2 คือ สีน้ำเงิน (Glacier Blue) และสีแดง (Bordeaux Red)

          OPPO Find X ใช้กล้องหลังคู่ 16 + 20 ล้านพิกเซล รับแสง f/2.0, แฟลช LED, กันสั่น OIS, มี AI Scene Recgonition ที่สามารถแยกซีนภาพถ่าย ระบุจากภาพที่กำลังจะถ่ายได้ถึง 20 ประเภท กว่า 800 แบบ และมีโหมด AI Portrait พร้อมการปรับแสง 3D lighting ส่วนกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 37,900 บาท

13. ASUS Zenfone Ares

          มือถือรุ่นสานต่อจาก Zenfone AR อดีตมือถือแรม 8GB รุ่นแรกของโลก ที่รองรับเทคโนโลยี Google Tango และ Google Daydream สำหรับ Zenfone Ares ยังคงมีดีไซน์เหมือนกับรุ่นแรก และเน้นไปที่ระบบ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD พร้อมเทคโนโลยี Tru2life หน้าจอที่ให้สีที่สวยสมจริง และใช้งานกลางแจ้งได้ดี โดยมีอัตราส่วน 16:9 ใช้ซีพียู Snapdragon 821 (รุ่นเก่า), แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 7.0 Nougat และแบตเตอรี่ 3,300mAh รองรับ Quick Charge 3.0

ราคาประมาณ 10,900 บาท

14. vivo Y75s

          มือถือซีรีส์ Y ที่เป็นรุ่นอัปเกรดสเปคจาก vivo Y75 โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ Full Screen 2.0 อัตราส่วน 18:9, ซีพียู Snapdragon 450 14nm Octa-Core 1.8GHz, จีพียู Adreno 506, แรม 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 7.1 (Nougat) ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,225mAh

ราคาประมาณ 6,590 บาท

15. vivo NEX S และ NEX A

          มือถือเรือธงและมือถือระดับกลางซีรีส์ NEX โดยทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ตัวเครื่องที่เหมือนกัน แตกต่างกันที่สเปก เช่น แรม, ซีพียู และสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ ไม่มีรอยแหว่ง ขนาด 6.59 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ ขอบจอแคบ 1.71 มม. ขอบด้านบนแคบ 2.16 มม. คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.24%, ซีพียู Snapdragon 845 และ Snapdragon 710, แรม 8GB/6GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.0, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ AI Portrait พร้อม Auto Scene detection และความพิเศษอีกอย่างของกล้องหน้าจะเป็นโมดูลซ่อนไว้ที่ด้านบนของตัวเครื่อง เปิดใช้งานกล้องหน้าโมดูลดังกล่าวจะโผล่ออกมาจากด้านบนสุด

ราคาประมาณ 19,500 - 25,000 บาท

16. Xiaomi Redmi 6 และ Redmi 6A

          มือถือซีรีส์ Redmi ที่สานต่อจาก Redmi 5 และ Redmi 5A สำหรับ Redmi 6 มาพร้อมหน้าจอ 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 18:9 คิดเป็นพื้นที่ 80.7% ของตัวเครื่อง, ซีพียู MediaTek Helio P22 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 12nm, แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 9 รองรับการอัปเดต MIUI 10, กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, รองรับ AI Portrait, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับปลดล็อกด้วยใบหน้าและ AI Portrait

          ส่วน Redmi 6A เป็นรุ่นราคาประหยัด ระดับเริ่มต้น ใช้ซีพียู MediaTek Helio A22 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 12nm Quad-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับ AI Portrait mode และไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้าแทน

ราคาประมาณ 2,990 - 4,990 บาท

17. Samsung Galaxy A9 Star และ A9 Star Lite

          มือถือระดับกลางซีรีส์ A รุ่นใหม่ เริ่มต้นที่ Galaxy A9 Star มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว Super AMOLED Infinity display ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, กล้องหลังคู่ 16 + 24 ล้านพิกเซล, LED flash, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,700mAh ส่วน Galaxy A9 Star Lite เป็นรุ่นที่ลดสเปกลงมา

ราคาประมาณ 9,990 - 14,990 บาท

18. Samsung Galaxy J3 (2018) และ Galaxy J7 (2018)

          มือถือซีรีส์ J รุ่นใหม่ Galaxy J3 มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, f/1.9, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ซีพียู Quad-Core Exynos 7570 14nm, แรม 2GB, สำหรับ Galaxy J7 กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, f/1.7, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, f/1.9 ส่วนรายละเอียดสเปกอื่น ๆ ยังไม่เปิดเผย

ราคายังไม่เปิดเผย

19. Samsung Galaxy A8 Star

          มือถือที่มีหน้าตาและสเปกเหมือนกับ Galaxy A9 Star เพิ่มอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว Super AMOLED Infinity display ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, กล้องหลังคู่ 16 + 24 ล้านพิกเซล, LED flash, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,700mAh

ราคา 17,990 บาท

20. vivo Y81

          มือถือระดับกลางซีรีส์ Y รุ่นใหม่ ต่อจาก vivo Y83 มาพร้อมหน้าจอแหว่ง 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 19:9, ขอบจอบาง 2.15 มม. คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88%, ซีพียู MediaTek Helio P22 Octa-Core, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย FunTouch 4.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,260mAh

ราคา 6,999 บาท

25 มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนมิถุนายน 2018

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย