10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ สมาร์ทโฟน กลายเป็นอุปกรณ์ประจำกายของหลาย ๆ คน ด้วยความสามารถที่หลากหลายสามารถตอบโจทย์การใช้งานในหลาย ๆ ด้าน ทำให้สมาร์ทโฟนกลายมาเป็นอุปกรณ์เบอร์หนึ่งที่หลาย ๆ คนต้องมี แต่ด้วยความสามารถที่มีมากมายของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะฟีเจอร์ หรือลูกเล่นต่าง ๆ สงสัยให้สมาร์ทโฟนต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ จนทำให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้อย่างยาวนาน ทำให้หลายคนเลือกที่จะพกพาที่ชาร์จแบตไปไหนมาไหนด้วย หรือบางคนพกพาแบตเตอรี่สำรองกันเลยทีเดียว

          แต่สำหรับใครที่ไม่อยากพกที่ชาร์จแบตหรือแบตสำรอง และกำลังมองหาโทรศัพท์สำรองที่เอาโทรยามฉุกเฉินในกรณีที่สมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมดใช้การไม่ได้ หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าโลกนี้ยังมี "ฟีเจอร์โฟน" โทรศัพท์มือถือที่เคยโด่งดังและเป็นที่นิยมอย่างมากในอดีต ปัจจุบันฟีเจอร์โฟนก็จะถูกผลิตออกมาเรื่อย ๆ แต่จำนวนไม่ได้มากเหมือนกับสมาร์ทโฟน

        สำหรับใครที่กำลังมองหาฟีเจอร์โฟนเอาพกพาเป็นเครื่องสำรองหรือจะซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ใช้งาน โดยเน้นแบตเตอรี่อึดไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ, ขนาดเล็กพกพาสะดวก, ปุ่มกดขนาดใหญ่ตัวเลข วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมฟีเจอร์โฟนที่น่าใช้งานมาแนะนำ ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. Nokia 225 และ Nokia 225 Dual SIM

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         ฟีเจอร์โฟนรุ่นล่าสุดจากภายใต้แบรนด์โนเกีย ก่อนขายให้ไมโครซอฟท์ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 2.8 นิ้ว ตัวเครื่องบาง น้ำหนักเบา สีสันสดใส รองรับการท่องอินเทอร์เน็ตและใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก รองรับการใช้งาน 2 ซิม มีกล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล สามารถสแตนบายได้นาน 36 วัน, เล่นเพลงต่อเนื่อง 49 ชั่วโมงและฟีเจอร์ Nokia SLAM ให้ส่งไฟล์ผ่านมือถือสะดวกยิ่งขึ้น ราคาเบา ๆ เพียง 1,040 บาทเท่านั้น

2. Nokia 220 และ Nokia 220 Dual SIM

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         ฟีเจอร์โฟนเด็ดอีกตัวที่น่าสนใจ มาพร้อมดีไซน์สวย สามารถรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย มีหน้าจอสีขนาด 2.4 นิ้ว พร้อมแป้นพิมพ์กันฝุ่นและน้ำสาด กล้องถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 2 ซิม ตัวเครื่องสีสันสดใส และฟีเจอร์ Nokia SLAM ให้ส่งไฟล์ผ่านมือถือสะดวกยิ่งขึ้น สามารถสแตนบายได้นาน 29 วัน ราคา 1,190 บาท

3. Nokia 108 และ Nokia 108 Dual SIM

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         ฟีเจอร์โฟนที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องทรงแท่งสี่เหลี่ยม และมีหลากหลายสีสัน ใช้หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว TFT และมีทั้งรุ่นซิมเดียวและสองซิม ส่วนฟีเจอร์เด่น ๆ ของรุ่นนี้ เช่น กล้องถ่ายภาพ VGA, ถ่ายวิดีโอได้, รองรับการเพิ่ม microSD, แชร์ภาพหรือวิดีโอผ่าน Bluetooth, มีวิทยุ FM และเล่นเพลง MP3 สามารถสแตนบายได้นาน 31 วัน เล่นเพลงต่อเนื่องนาน 40 ชั่วโมง ราคา 990 บาท

4. Nokia 515

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         ฟีเจอร์โฟนโดดเด่นด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ยกระดับฟีเจอร์โฟนพรีเมียม สวยหรู เน้นราคาถูกเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว QVGA LCD เสริมความแกร่งด้วยกระจก Gorilla Glass 2 มีหน่วยความจำภายใน 256MB รองรับ microSD สูงสุด 32GB และรองรับเครือข่าย 3.5G HSDPA มีกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash มีให้เลือกทั้งรุ่นซิมเดียวและสองซิม ด้านตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมดีไซน์ทรงแท่งสี่เหลี่ยม สวยงาม มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ สามารถสแตนบายได้นาน 38 วัน ราคาค่อนข้างสูง 4,790 บาท

5. Nokia 107 Dual SIM

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

        ฟีเจอร์โฟนที่มาพร้อมฟีเจอร์ใช้งานพื้นฐานครบครัน ใช้หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว TFT 65 ล้านสี ขนาดตัวเครื่อง 112.9 x 47.5 x 14.9 มิลลิเมตร รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ส่วนฟีเจอร์พื้นฐานอื่น ๆ เช่น คีย์บอร์ดกันฝุ่น, วิทยุ FM และไฟฉาย เป็นต้น ราคา 750 บาท

6. Nokia 105

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

        ฟีเจอร์โฟนสุดเจ๋งชาร์จแบตเตอรี่ครั้งเดียวอยู่ได้เป็นเดือน มาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาด 1.45 นิ้ว มีฟีเจอร์การใช้งานของฟีเจอร์โฟนครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการโทร/รับสาย, ส่ง SMS, วิทยุ FM, ไฟฉาย และมีปุ่มกดเป็นแผงเดียวกัน ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าได้ดี แถมด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 35 วัน และคุยได้นานถึง 12.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว ราคา 630 บาท

7. Nokia 301

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

        ฟีเจอร์โฟนสองซิมที่มีความสามารถเหนือกว่าฟีเจอร์โฟนทั่ว ๆ ไป มาพร้อมหน้าจอ QVGA TFT ขนาด 2.4 นิ้ว กล้อง 3.2 ล้านพิกเซล หน่วยความจำภายใน 256 MB สามารถใช้งานแอพฯ อย่าง Facebook, Twitter, Whatsapp ฯลฯ ได้ แถมยังรองรับ 3G อีกด้วย ราคา 2,190 บาท

8. Nokia 130 และ Nokia 130 Dual SIM

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         ฟีเจอร์โฟนที่เน้นการฟังเพลงและดูคลิปวิดีโอ พร้อม FM Radio ในตัว สามารถเพิ่ม MicroSD รองรับสูงสุด 32GB จุเพลงได้ถึง 6,000 เพลง และฟังเพลงต่อเนื่องได้ 46 ชั่วโมง, ดูวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 16 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถโอนถ่ายข้อมูลผ่าน SD card, USB และ Bluetooth ผ่านเทคโนโลยี SLAM และด้านหลังตัวเครื่องมี Flashlight รุ่นนี้ขายอยู่ที่ราคา 790 บาท

9. Samsung Hero (E1200T)

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

         อีกหนึ่งฟีเจอร์โฟนยอดฮิตขวัญใจคนใช้แรงงาน โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรงทนทานและที่สำคัญราคาถูกไม่แพ้ฟีเจอร์โฟนยี่ห้อโนเกีย มีคุณสมบัติรองรับการใช้งานวิทยุ FM และมีช่องเสียบหูฟังแบบ S20 Pin ส่วนสเปคด้านอื่น ๆ ทั้งสองรุ่นเหมือนกัน โดยมีปุ่มกด 5 ทิศทาง ทำให้ช่วยเพิ่มความสะดวกในการควบคุมและใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีหน้าจอสีขนาด 1.52 นิ้ว ทำให้อ่านตัวอักษรได้ง่าย แสดงสีสันได้คมชัด ราคาสุดประหยัดเพียง 650 บาท

10. Samsung Hero 3G (E3309)

10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด

        ยกระดับไปอีกขั้นสำหรับคนที่อยากได้ฟีเจอร์โฟนที่เอาไว้ท่องเน็ตแบบเร็ว ๆ บนเครือข่าย 3G มาพร้อมหน้าจสีอขนาด 2 นิ้ว กล้อง VGA สแตนบายนาน 19 วันบนเครือข่าย 2G และ 13 วัน บนเครือข่าย 3G รุ่นนี้ขายอยู่ที่ราคา 690 บาท

         ทั้งหมดคือ 10 ฟีเจอร์โฟนที่รวบรวมข้อมูลมาแนะนำให้สำหรับคนที่กำลังมองหาฟีเจอร์โฟนเอาไว้พกพาเป็นเครื่องสำรอง หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากนี้น่าจะพอเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อฟีเจอร์โฟนได้บ้าง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Microsoft, Samsung, gsmarena

 

 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 ฟีเจอร์โฟนใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อสมาร์ทโฟนตัวเก่งแบตหมด อัปเดตล่าสุด 2 มีนาคม 2558 เวลา 16:38:00 14,226 อ่าน
TOP