Find My Device ค้นหามือถือ Android หายแม้ไม่ต่อเน็ตได้แล้ว

          Google ปรับปรุง Find My Device ใหม่ สามารถค้นหามือถือ Android ที่ทำหายแม้ไม่ต่อเน็ตได้แล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่อีกหลายอย่าง
 

 

          Google ปรับปรุง Find My Device เป็นรูปแบบใหม่ ให้สามารถค้นหาโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถค้นหาได้แม้ว่าอุปกรณ์นั้น ๆ จะไม่ได้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ พร้อมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Find My Device ฟีเจอร์ใหม่ มีอะไรบ้าง ?

1. ตามหามือถือได้แม้ไม่ต่อเน็ต

          สามารถค้นหาตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ Android รุ่นที่รองรับได้แม้ว่าอุปกรณ์นั้น ๆ จะไม่ได้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม โดยสามารถเช็กตำแหน่งได้บนแผนที่ Google Maps หรือสั่งให้ตัวเครื่องส่งเสียงได้ นอกจากนี้สำหรับเฉพาะมือถือ Google Pixel 8 และ Pixel 8 Pro จะสามารถค้นหาตำแหน่งได้ในขณะที่ปิดเครื่องหรือแบตเตอรี่หมดอีกด้วย

2. ติดตามสิ่งของด้วย Bluetooth tracker tags

          ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป จะสามารถค้นหาตำแหน่งของใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น กุญแจ กระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าเดินทาง ได้ด้วยอุปกรณ์ Bluetooth tracker tags ของ Chipolo กับ Pebblebee (และจะรองรับยี่ห้ออื่น ๆ อีกในอนาคต) ผ่านแอปฯ Find My Device ซึ่งระบบจะมีการแจ้งเตือนหากพบ Bluetooth tracker ของคนอื่นกำลังแอบติดตามเราอยู่ด้วย

ภาพจาก : Google

3. ค้นหาสิ่งของใกล้ตัว

          นอกจาก Bluetooth tracker tags จะช่วยตามหาสิ่งของที่หายแล้ว หากเป็นสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวแต่หาไม่เจอ เช่น จำไม่ได้ว่าวางกุญแจไว้ที่ไหนในห้อง ก็สามารถกดปุ่ม Find nearby เพื่อใช้ฟีเจอร์ค้นหาสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวได้อีกด้วย

ภาพจาก : Google

4. บอกตำแหน่งของที่ลืมไว้ที่บ้านด้วย Google Nest

          เมื่อออกไปข้างนอกแต่ลืมของหรือหาไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือกุญแจ ทำให้เกิดความกังวลว่าลืมไว้ที่บ้านหรือเปล่า ก็สามารถใช้แอปฯ Find My Device เพื่อเช็กได้ โดยจะมีการแสดงให้ทราบว่าของชิ้นนั้น ๆ อยู่ใกล้กับอุปกรณ์ในบ้านที่รองรับ Google Nest ชิ้นใด อย่างเช่นลำโพงที่วางไว้ตามห้องต่าง ๆ

ภาพจาก : Google

5. แชร์อุปกรณ์กับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว

          ในกรณีที่สิ่งของหรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่ใช้ร่วมกันหลายคนอย่างเช่นกุญแจบ้านหรือรีโมตทีวี ก็สามารถแชร์ตำแหน่งให้คนอื่นสามารถเช็กผ่านแอปฯ Find My Device ได้

ภาพจาก : Google

          Find My Device รูปแบบใหม่นี้จะรองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ Android 9 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยจะเริ่มเปิดให้กลุ่มผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ใช้ก่อนเป็นประเทศแรก ๆ ครับ

 

บทความโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ

          - วิธีตามหาโทรศัพท์หาย ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทำยังไงมาดู
          - เก็บโทรศัพท์ได้ ควรทําอย่างไรดี ?
          - เช็กเลข IMEI โทรศัพท์มือถือ ต้องเข้าไปดูตรงไหน ?
          - เช็กเบอร์ตัวเอง ต้องทำยังไงบ้าง ?
          - วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ ว่าเป็นของใคร ต้องทำยังไง ?

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Google