ปัญหาและบั๊กต่าง ๆ ของ iOS 17 หลังจากการอัปเดต มีอะไรบ้าง ถ้าเจอจะต้องแก้ปัญหายังไง ดูคำแนะนำได้ที่นี่เลย
ภาพจาก : apple.com
หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 17 ให้ผู้ใช้ iPhone รุ่นที่รองรับสามารถอัปเดตได้ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2023 ก็มีคนจำนวนมากเริ่มทยอยอัปเดตกัน ซึ่งหลาย ๆ คนก็สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา แต่ก็มีผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่งที่พบปัญหาในการใช้งานบางอย่างหลังการอัปเดต โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำกันว่าถ้าเจอแต่ละปัญหาจะต้องทำอย่างไรบ้าง
iPhone แบตเตอรี่ไหล หมดเร็วขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตของ iOS 17 ที่มีคนเจอกันเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่คงต้องบอกให้สบายใจกันไว้ก่อนเลยว่านั่นไม่ใช่สิ่งผิดปกติและไม่จำเป็นต้องทำการแก้ปัญหาใด ๆ แต่มันเกิดจากฟีเจอร์ Spotlight ของ iOS หลังจากการอัปเดต ที่จะต้องมีกระบวนการจัดการไฟล์ทั้งหมดในระบบใหม่ ส่งผลให้ในช่วงนี้การใช้งาน iPhone อาจมีการหน่วงหรือช้าบ้างเล็กน้อย รวมทั้งแบตเตอรี่เร็วกว่าปกติ ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน และทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทำการแก้ปัญหาใด ๆ
แชร์ข้อมูลติดต่อด้วย NameDrop ไม่ได้
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 17 อย่าง NameDrop ที่ให้สามารถแชร์ข้อมูลติดต่อได้ด้วยการนำ iPhone มาไว้ใกล้ ๆ กันนั้น หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเมื่อลองทำดูแล้วหน้าจอกลับแสดงข้อความว่าสามารถรับข้อมูลติดต่อได้อย่างเดียว ซึ่งก็เป็นเพราะว่าหลังจากอัปเดต iOS 17 แล้วเรายังไม่ได้ตั้งค่า Contact Poster ของตัวเอง โดยให้เข้าไปที่แอปฯ การโทร. (Phone) จากนั้นกดเข้าไปที่ชื่อ Contact ของตัวเองแล้วกรอกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลของตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเลือกรูปภาพที่ต้องการ เพียงเท่านี้เมื่อใช้ฟีเจอร์ NameDrop ก็จะสามารถแชร์ข้อมูลติดต่อของตัวเองให้คนอื่นได้แล้ว
แจ้งเตือนไม่ทำงาน หรือเสียงเบา
สำหรับใครที่อัปเดต iOS 17 แล้วพบว่าแจ้งเตือนไม่ทำงาน หรือเสียงแจ้งเตือนเบากว่าปกติ ให้ลองเข้าไปที่การตั้งค่า (Settings)>การแจ้งเตือน (Notifications) จากนั้นปรับตั้งค่าปิดแล้วเปิดแจ้งเตือนต่าง ๆ ใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งปรับระดับความดังของเสียงแจ้งเตือน หรืออาจรีสตาร์ต iPhone ดูสักครั้ง
รูปภาพ Wallpaper ไม่แสดง
หากอัปเดต iOS 17 แล้วพบว่าหน้าจอไม่แสดงรูปภาพ Wallpaper ตามที่ได้ตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้ ให้ลองรีสตาร์ต iPhone ดู ถ้าหากทำแล้วยังไม่หาย แนะนำให้ลบแล้วทำการตั้งค่า Wallpaper ใหม่อีกครั้ง
บั๊กอื่น ๆ ของ iOS 17
นอกจากนี้ iOS 17 ก็อาจมีบั๊กบางอย่างที่พบได้เฉพาะผู้ใช้ iPhone บางรุ่นหรือบางเครื่องเท่านั้น เช่น มีสายเข้าแต่ไม่แสดงชื่อว่าใครโทร. มา หรือฟีเจอร์ Screen Time ไม่แสดงเวลาว่าใช้หน้าจอมานานเท่าไร ซึ่งปัญหาอาจเกิดขึ้นเพียงบางครั้ง และหายไปเองหลังจากใช้งานตามปกติไปสักพักหรือรีสตาร์ต iPhone แต่ผู้ใช้มักไม่สามารถแก้ปัญหาเองได้นอกจากจะรอทาง Apple อัปเดต iOS เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อแก้ไขบั๊กต่อไปครับ
บทความเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- iOS 17 มีอะไรใหม่ รองรับ iPhone รุ่นไหนบ้าง เช็กเลย !
- วิธีสร้างสติ๊กเกอร์จากรูปภาพใน iOS 17 ง่าย ๆ ทำยังไงมาดูกัน
- iPhone 15 เปิดตัว เผยสเปกพร้อมราคา เริ่มเปิดจอง 15 ก.ย. นี้ !
ขอบคุณภาพจาก : apple.com