ติดฟิล์มไฮโดรเจล ฟิล์มกระจก ฟิล์มแบบด้าน ต่างกันอย่างไร ติดแบบไหนดี ?

          ติดฟิล์มไฮโดรเจลกับฟิล์มมือถือแต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี

ติดฟิล์มไฮโดรเจล

          ฟิล์มกันรอยจัดว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่คนใช้มือถือแทบทุกคนมักจะต้องซื้อมาติดทันทีที่ซื้อเครื่อง คือขาดไม่ได้กันเลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยป้องกันหน้าจอจากรอยขีดข่วนต่าง ๆ โดยฟิล์มกันรอยที่มีขายกันในปัจจุบันนั้นก็มีอยู่หลากหลายประเภท ทำให้บางคนอาจจะตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าควรติดฟิล์มแบบไหนดี วันนี้เราจึงได้มาแนะนำฟิล์มกันรอยมือถือประเภทต่าง ๆ ที่มีขายอยู่ทั่วไป เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกติดฟิล์มมือถือได้ตรงความต้องการมากขึ้น

ฟิล์มมือถือ จำเป็นต้องติดไหม ?

          ถึงกระจก Gorilla Glass ที่แบรนด์มือถือนิยมใช้เป็นกระจกหน้าจอทุกวันนี้มีความแข็งแรงทนทานต่อรอยขีดข่วนมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าสามารถทนทานได้ 100% เสมอไป เพราะถ้าหากโดนวัตถุที่มีความแข็งมากกว่ากระจกก็สามารถเป็นรอยได้อยู่ แต่ก็ยังมีคนใช้มือถือจำนวนหนึ่งที่ไม่นิยมติดฟิล์มมือถือ โดยมีเหตุผลอย่างเช่น ไม่ติดแล้วหน้าจอสวยกว่า ให้ความรู้สึกเวลาสัมผัสดีกว่า ทัชลื่นกว่า ฟิล์มเป็นรอยง่าย ขี้เกียจเปลี่ยนฟิล์มบ่อย ซึ่งในบางคนแม้ไม่ติดฟิล์ม แต่ใช้งานมาหลายปีหน้าจอก็ยังไม่เป็นรอย หรือบางคนก็มีเป็นรอยบ้างแต่ไม่ซีเรียส อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและดวงของแต่ละคน

          โดยทั่วไปแล้วการติดฟิล์มก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากราคาฟิล์มที่ไม่แพง เป็นรอยเยอะก็เปลี่ยนได้ แต่ถ้าหน้าจอเป็นรอยแล้วค่าเปลี่ยนแพงกว่าฟิล์มเยอะ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนด้วย ถ้าหากเป็นคนใช้มือถือค่อนข้างทะนุถนอม ไม่ชอบติดฟิล์ม ไม่คิดจะนำมือถือไปขายต่อ และไม่ซีเรียสถ้าหน้าจอจะมีรอยบ้างเล็กน้อย ก็อาจจะไม่ต้องติดฟิล์มก็ได้ แต่ต้องแน่ใจนะว่าถ้าหน้าจอเกิดเป็นรอยขึ้นมาจะต้องไม่เสียใจในภายหลัง

ติดฟิล์มไฮโดรเจล

ติดฟิล์มมือถือแบบไหนดี ?

          ฟิล์มมือถือที่มีขายกันในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายสารพัดแบบ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. ฟิล์มแบบใส (Clear Screen Protector)

          เป็นฟิล์มชนิดที่แพร่หลายมากที่สุด ราคาถูกที่สุด โดยข้อดีของฟิล์มแบบใสก็คือ จะมีผลต่อแสงสีของหน้าจอน้อยที่สุด ให้ความรู้สึกไม่ค่อยแตกต่างกับตอนไม่ติดฟิล์ม แต่เนื่องจากตัวฟิล์มเป็นพื้นผิวแบบมันเงา จึงเป็นรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย แต่ก็มีฟิล์มแบบใสที่กันรอยนิ้วมือได้ด้วยเช่นกัน

2. ฟิล์มแบบด้าน (Anti-glare Screen Protector)

          ฟิล์มอีกหนึ่งชนิดที่ค่อนข้างได้รับความนิยม โดยมีจุดเด่นคือ ช่วยลดแสงสะท้อนจากรอบข้าง รวมทั้งช่วยให้ภาพในหน้าจอดูนุ่มนวลสบายตามากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความสดใสของหน้าจอที่ลดลง นอกจากนี้ยังไม่เป็นรอยนิ้วมือและเป็นรอยยากกว่าฟิล์มแบบใส

3. ฟิล์มกันเสือก (Privacy Screen Protector)

          ฟิล์มสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมีความลับเยอะ ไม่ชอบให้คนรอบข้างแอบดูหน้าจอมือถือ โดยฟิล์มชนิดนี้จะทำให้หน้าจอมือถือสามารถมองเห็นจากมุมตรงได้เท่านั้น ถ้ามีคนข้าง ๆ แอบมองแบบมุมเอียงจะมองเห็นหน้าจอเป็นสีดำมืด คือมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้หน้าจอสดใสน้อยลง และถ้ามีคนแอบมองจากข้างหลังก็อาจสามารถมองเห็นได้อยู่ดี

4. ฟิล์มกระจก (Tempered Glass Screen Protector)

          ฟิล์มแบบกระจกนี้นอกจากจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว จุดเด่นหลัก ๆ ของมันก็คือ การช่วยป้องกันหน้าจอแตกจากแรงกระแทก เช่น ทำมือถือตกพื้น หรือทำของหนัก ๆ ตกใส่หน้าจอมือถือ นอกจากนี้พื้นผิวของมันก็จะคล้ายกับกระจกหน้าจอจริง ๆ มากกว่าฟิล์มแบบอื่น ๆ แต่จะมีความหนามากกว่าและราคาแพงกว่าฟิล์มแบบอื่น ๆ

5. ฟิล์มไฮโดรเจล (Hydrogel Screen Protector)

          ฟิล์มกันรอยแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ โดยมีจุดเด่นคือ ความแข็งแรงทนทานใกล้เคียงกับฟิล์มกระจก แต่บางกว่าพอสมควร ทำให้มองเห็นสีสันของหน้าจอได้เต็มที่ ไม่มีขอบหนาจนรู้สึกเกะกะสายตา และไม่กระทบกับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แถมยังมีให้เลือกทั้งแบบใสและแบบด้านอีกด้วย

          นอกจากฟิล์มทั้ง 5 ประเภทดังกล่าวแล้ว ก็มีฟิล์มชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยแพร่หลายอีก ทั้งฟิล์มที่มีคุณสมบัติของฟิล์มหลายประเภทไว้ในแผ่นเดียว หรือฟิล์มที่มีลวดลายในตัวสำหรับติดรอบตัวเครื่อง ทั้งนี้ การเลือกติดฟิล์มกันรอยมือถือไม่มีคำตอบที่ดีที่สุด แต่ขึ้นอยู่ลักษณะการใช้งานและความพึงพอใจของแต่ละคนนั่นเอง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ติดฟิล์มไฮโดรเจล ฟิล์มกระจก ฟิล์มแบบด้าน ต่างกันอย่างไร ติดแบบไหนดี ? อัปเดตล่าสุด 31 สิงหาคม 2564 เวลา 09:10:14 58,676 อ่าน
TOP
x close