10 มือถือน่าใช้ เดือนตุลาคม 2563 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย

          แนะนำมือถือเดือนตุลาคม 2563 น่าซื้อ น่าใช้ สำหรับคนกำลังมองหามือถือใหม่ มีมือถือน่าซื้อเดือนตุลาคม 2020 ให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนสเปกคุ้ม ราคาถูก เช็กก่อนซื้อเลย 

มือถือเดือนตุลาคม

          กลับมาอัปเดต โทรศัพท์ มือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2563 และเดือนนี้ก็มีมือถือน่าซื้อหลายรุ่นเลยทีเดียว มีทั้งรุ่นที่เปิดตัวใหม่และรุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมตั้งแต่เดือนก่อน ๆ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ก็ลองพิจารณาดูจากทั้ง 10 รุ่นนี้ได้เลย มีหลายราคาหลายระดับให้เลือกตามต้องการ

1. Samsung Galaxy S20 FE

มือถือเดือนตุลาคม

          มือถือรุ่นย่อยในซีรีส์ Galaxy S20 ที่มีราคาย่อมเยากว่าเดิม เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิป Octa-Core ความเร็ว 2.7-2.8GHz แรมสูงสุด 8GB ความจุสูงสุด 256GB มีกล้องหลัง 3 เลนส์ 12MP ซูมได้สูงสุด 30x กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับการแชร์แบตเตอรี่ และรัน Android 10 ครอบทับด้วย ONE UI 2

          - รุ่น LTE 128GB ราคา 20,900 บาท
          - รุ่น 5G 128GB ราคา 23,900 บาท
          - รุ่น 5G 256GB ราคา 25,900 บาท

2. Sony Xperia 1 II

มือถือเดือนตุลาคม

          มือถือรุ่นเรือธงตัวใหม่ที่ใช้ซีพียู Snapdragon รุ่นใหม่, กล้อง 3 ตัวรุ่นปรับปรุง และรองรับ 5G สเปกประกอบไปด้วย หน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 รีเฟรชเรต 90Hz แบบขอบบาง, ซีพียู Qualcomm Snapdragon 865 แรม 8GB ความจุเครื่อง 256GB เพิ่ม microSDXC ได้สูงสุด 1TB ระบบปฏิบัติการ Android 10.0 กล้อง 3 ตัว เลนส์ Zeiss ได้แก่ เลนส์ Wide 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultrawide 12 ล้านพิกเซล ร่วมกับเลนส์ Depth TOF มีระบบกันสั่น OIS ซูมภาพแบบ Optical ได้ 3 เท่า และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

          ราคา 35,990 บาท

3. Xiaomi POCO X3 NFC

มือถือเดือนตุลาคม

          มือถือแบรนด์ลูกรุ่นใหม่ที่ยังคงเน้นสเปกคุ้ม ๆ ราคาเบา ๆ ตามแบบฉบับของแบรนด์ POCO โดยมาพร้อมหน้าจอ LCD 6.67 นิ้ว FHD+ Refresh Rate 120Hz และ Touch-sampling Rate 240Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 732G มีแรม 6GB ความจุเลือกได้ 64GB/12GB สามารถใส่ microSD เพิ่มได้ ส่วนกล้องหลังของ POCO X3 NFC ก็จัดมาให้ถึง 4 เลนส์ โดยมีเลนส์หลัก 64GB กล้องหน้า 20MP เป็นแบบ Punch-hole เจาะรูกลางจอ สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ด้านข้างตัวเครื่อง แบตเตอรี่ขนาด 5160mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และรัน Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12

          - รุ่น 6GB/64GB ราคา 6,999 บาท
          - รุ่น 6GB/128GB ราคา 7,999 บาท

4. Vivo V20 Pro 5G

มือถือเดือนตุลาคม

          มือถือที่มีจุดเด่นเป็นกล้องหน้าคู่ พร้อมฟีเจอร์ Eye Autofocus และฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ความละเอียด 4K รวมทั้งการถ่ายวิดีโอเซลฟี่แบบ Slo-mo 240fps ได้ นอกจากนี้ V20 Pro 5G ยังขึ้นชื่อว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางที่สุดในโลกอีกด้วย สำหรับด้านสเปกอื่น ๆ ของ Vivo V20 Pro 5G นั้นก็ประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED 6.44 นิ้ว FHD+ ใช้ชิป Snapdragon 765G มีแรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลังมี 3 เลนส์ 64MP กล้องหน้าคู่ 44MP สแกนนิ้วในหน้าจอ แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และรัน Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11

          ราคา 14,999 บาท

5. Samsung Galaxy Note 20 Series

มือถือเดือนตุลาคม

          มือถือตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุด มีแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ Galaxy Note 20 และ Galaxy Note 20 Ultra ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีดีไซน์คล้ายกัน แตกต่างกันตรงที่ Note 20 จะเป็นหน้าจอแบบแบน ส่วน Note 20 Ultra จะเป็นหน้าจอแบบขอบข้างโค้ง และมีขนาดจอที่ใหญ่กว่า ส่วนสเปกนั้นแน่นอนว่า Galaxy Note 20 Ultra จะมีสเปกที่สูงกว่า สำหรับฟีเจอร์และจุดเด่นหลัก ๆ ก็มีตั้งแต่ปากกา S-Pen ที่ถูกปรับปรุงให้ตอบสนองการเขียนได้เร็วขึ้น โดย S-Pen ของ Galaxy Note 20 จะมี Latency ลดลงเหลือเพียง 26ms ส่วนของ Galaxy Note 20 Ultra จะมี Latency 9ms และกล้องก็มีโหมด Pro Video ที่สามารถปรับความไวในการซูมได้ รวมทั้งสามารถใช้ไมโครโฟน Bluetooth สำหรับบันทึกเสียง และเลือกปรับความดังของเสียงได้อีกด้วย

          - Galaxy Note 20 4G 256GB ราคา 29,990 บาท
          - Galaxy Note 20 5G 256GB ราคา 33,990 บาท
          - Galaxy Note 20 Ultra 4G 256GB ราคา 38,990 บาท
          - Galaxy Note 20 Ultra 4G 512GB ราคา 42,990 บาท
          - Galaxy Note 20 Ultra 5G 256GB ราคา 42,990 บาท
          - Galaxy Note 20 Ultra 5G 512GB ราคา 46,990 บาท

6. OnePlus Nord

มือถือเดือนตุลาคม

           มือถือ 5G ราคาระดับกลางที่มีสเปกเกือบเทียบเท่าระดับเรือธง ตั้งแต่หน้าจอ 6.44 นิ้ว Full HD+ ที่รองรับการแสดงผล 90Hz ชิป Snapdragon 765G แรมสูงสุด 12GB ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลัง 4 เลนส์ กล้องหน้าคู่ พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 4115mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W และรัน Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10.0

          - รุ่น 8GB/128GB ราคา 14,990 บาท
          - รุ่น 12GB/256GB ราคา 17,990 บาท

7. OPPO Reno 4

มือถือเดือนตุลาคมv

          มือถือที่มีจุดเด่นอย่างหน้าจอ OLED พร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 765G รองรับ 5G พร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยสเปกอื่น ๆ ก็ประกอบไปด้วย หน้าจอ 6.43 นิ้ว แรม 8GB ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลังจะมี 3 เลนส์ 48MP + 8MP + 2MP กล้องหน้าคู่ 32MP + 2MP แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W ด้วยเทคโนโลยี SuperVOOC 2

          ราคา 11,990 บาท

8. realme X50 5G

          มือถือรองรับ 5G ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว Refresh Rate 120Hz พร้อมโหมด Sunlight Display Technology เพื่อใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะ และโหมด Dark Mode สำหรับใช้งานเวลากลางคืน, ชิปเซต Snapdragon 765G Octa-core, ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7 นอกจากนี้ก็ยังมีกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วย เลนส์ Wide 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ซูม Telephoto 12 ล้านพิกเซล ซูมแบบ Hybrid ได้ 5 เท่า เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างถึง 119 องศา เลนส์ Ultra-Macro สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าในรุ่นนี้เป็นแบบเลนส์คู่ ใช้เลนส์ Wide 16 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล เพื่อการเซลฟี่ในมุมมองที่กว้างกว่า

          ราคา 12,990 บาท

9. Xiaomi Redmi 9A

มือถือเดือนตุลาคมv

          มือถือราคาประหยัดที่มาพร้อมหน้าจอ 6.53 นิ้ว HD+ ใช้ชิป MediaTek Helio G25 แรม 2GB ความจุ 32GB กล้องหน้า 5MP ใช้พอร์ต USB-C มีช่องหูฟัง 3.5 มม. แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รัน Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และรัน Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12

          ราคา 2,799 บาท

10. iPhone SE (2020)

มือถือเดือนตุลาคมv

          iPhone SE รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็น iPhone ราคาถูกรุ่นใหม่ที่มาพร้อมจอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว และ Touch ID บนปุ่มโฮม มีดีไซน์คล้ายกับ iPhone 8 แต่อัปเกรดสเปกให้แรงขึ้นด้วยชิป A13 Bionic ตัวเดียวกับใน iPhone 11 Pro ตัวเครื่องมีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีแดง (PRODUCT)RED ด้านสเปกอื่น ๆ ก็ประกอบไปด้วยความจุที่มีให้เลือก 64GB/128GB/256GB ส่วนกล้องหลังมีเลนส์เดียว 12MP และกล้องหน้า 7MP ส่วนปุ่มโฮมยังคงมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือเหมือนเดิม รวมทั้งยังคงใช้พอร์ต Lightning และไม่มีช่องหูฟัง

          ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท

10 มือถือน่าใช้ เดือนกันยายน 2563 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย

          หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 มือถือน่าใช้ เดือนตุลาคม 2563 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย อัปเดตล่าสุด 2 ตุลาคม 2563 เวลา 19:33:21 46,872 อ่าน
TOP
x close