10 มือถือน่าซื้อ เดือนมกราคม 2563 รุ่นไหนน่าใช้ เช็กเลย

          10 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนมกราคม 2563 ใครกำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีมือถือให้เลือกหลายราคา รุ่นไหนเด็ด สเปกสุดคุ้ม ราคาถูก เช็กก่อนซื้อกันเลย

มือถือเดือนมกราคม

          สวัสดีปีใหม่ บอกลาปีเก่า ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2563 กลับมาอัปเดตมือถือน่าซื้อประจำเดือนกันอีกครั้ง และเดือนนี้ก็มีมือถือแอนดรอยด์น่าซื้อหลายรุ่นเลยทีเดียว มีทั้งรุ่นที่เปิดตัวใหม่และรุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมตั้งแต่เดือนก่อน ๆ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ หากกำลังตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ก็ลองพิจารณาดูจากทั้ง 10 รุ่นนี้ได้เลย มีหลายราคาหลายระดับให้เลือกตามต้องการ

1. realme 5s

realme 5s

          มือถือรุ่นอัปเกรดจาก Realme 5 โดยปรับความละเอียดกล้องหลังจาก 12 ล้านพิกเซล เป็น 48 ล้านพิกเซล และสีสันของตัวเครื่องใหม่ สีแดง (Crystal Red) ด้านสเปกอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำขนาดเล็ก อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 78%, ซีพียู Snapdragon 665 11nm, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นพลาสติกสีแบบ Holographic และลวดลาย Crystal Design ใช้เทคนิคที่ทำให้เหมือนกับกระจก รวมถึงเคลือบสารกันน้ำ พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 10 วัตต์

          กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Samsung GM1, f/1.8, รองรับ AI Scene Recognition + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 119 องศา (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) + 2 ล้านพิกเซล (4cm macro)

ราคา 5,999 บาท (4GB/128GB)

2. Vivo Y19

Vivo Y19

          มือถือหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว FHD+ เป็นหน้าจอแบบ Halo FullView Display รอยบากแบบหยดน้ำ อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 90.3% ดีไซน์ตัวเครื่องมีความโค้งแบบ 3D Micro Arc มีการไล่ระดับสีบนตัวเครื่องอย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังมาพร้อมด้วย AI Triple Camera กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล กล้อง Super wide-angle และ Bokeh 8 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Face Beauty ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ไห้ดูดีได้ในคลิกเดียว แถมยังมีฟีเจอร์ Pose Master ที่จะช่วยแนะนำการโพสท่าทางต่าง ๆ ขณะถ่ายภาพให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อถ่ายแล้วก็สามารถนำไปแต่งหน้าเพิ่มเติมให้สวยกว่าเดิมได้อีกด้วย AI Makeup

          ด้านแบตเตอรี่ก็มีขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh พร้อม Dual-Engine Fast Charging ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Reverse Charging ทำให้สามารถแชร์แบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยสาย OTG สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ก็ประกอบไปด้วย แรม 6GB ความจุ 128GB มี Ultra Game Mode สำหรับการเล่นเกมที่ลื่นไหล Voice Changer ปรับแต่งเสียงขณะแชตกับเพื่อนในเกมได้ และรัน Android 9 ที่ใช้อินเทอร์เฟซแบบ Funtouch OS 9.2

ราคา 6,999 บาท (6GB/128GB)

3. OnePlus 7T Pro

OnePlus 7T Pro

          มือถือรุ่นอัปเกรดบางส่วนให้ดีขึ้นจากรุ่น OnePlus 7 Pro มาพร้อมหน้าจอ 6.67 นิ้ว Fluid AMOLED ความละเอียด Quad HD+ ไม่มีติ่ง, 90Hz refresh rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรม 8GB, ระบบระบายความร้อน liquid cooling, รัน Android 10.0 ครอบทับด้วย OxygenOS 10, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, เลนส์ 7 ชิ้น, รูรับแสง f/1.6, กันสั่น OIS และ EIS, กล้องตัวที่สอง 8 ล้านพิกเซล (telephoto lens), รูรับแสง f/2.4, ขนาดพิกเซล 1μm, มีกันสั่น OIS, Optical Zoom 3 เท่า, กล้องตัวที่สาม 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 117 องศา (Ultra Wide Angle Lens) รูรับแสง f/2.2 และยังมีโหมด NightScape 2.0 สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อยให้ภาพออกมาดูสว่างสดใส กล้องหน้าเหมือน OnePlus 7 Pro เป็นกล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.0, ขนาดพิกเซล 1.0μm

          แบตเตอรี่ 4,085mAh รองรับ Warp Charge 30T ชาร์จแบตเตอรี่เร็วขึ้น 23% และชาร์จเต็มในเวลา 30 นาที, ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่มีความรวดเร็วโดยใช้เวลาในการปลดล็อกแค่ 0.21 วินาที

ราคา 26,990 บาท

4. realme X2 Pro Master Edition

realme X2 Pro Master Edition
          มือถือรุ่นพิเศษที่ออกแบบร่วมกับ Naoto Fukusawa ผู้ก่อตั้ง Naoto Fukasawa Design ตัวเครื่องมาพร้อมสีพิเศษ 2 สี คือ สีอิฐแดง (Red Brick) และสีเทาคอนกรีต (Concrete) และรุ่นนี้จะมีให้เลือกเฉพาะแรม 12GB กับหน่วยความจำ 256GB เท่านั้น

          ด้านสเปกต่าง ๆ จะเหมือนกับ realme X2 Pro ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ล่าสุด realme ประกาศเปิดตัว realme X2 Pro มือถือเรือธงรุ่นแรกของค่าย สเปกจัดสุด กล้องจัดเต็ม มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.7%, รองรับ HDR10+, DC Dimming 2.0, 90Hz refresh rate, 135Hz touch sampling rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, ระบายความร้อนด้วยของเหลวพร้อมคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS

ราคา 19,999 บาท (12GB/256GB)

5. Xiaomi Mi Note 10

Xiaomi Mi Note 10

          มือถือรุ่นที่ออกมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการมือถือด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล เป็นรายแรกของโลก มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัว ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว AMOLED ขอบโค้ง ความละเอียด Full HD+ ขอบด้านล่างเล็กลง 3.43 มิลลิเมตร ใช้ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI 11, ดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D glass, รองรับ NFC, ลำโพง 1cc, Hi-Res audio และแบตเตอรี่ 5,260mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์ เคลมว่าสามารถชาร์จ 58% ในเวลา 30 นาที และ 100% ในเวลา 65 นาที

ราคา 16,990 บาท (6GB/128GB)

6. Vivo Y11 (2019)

Vivo Y11 (2019)

          Vivo Y11 (2019) มือถือราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม มีดีไซน์เหมือนรุ่น Vivo Y12 ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.35 นิ้ว HD+ Halo FullView LCD ความละเอียด HD+, ซีพียู Snapdragon 439, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD card, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, รัน Android 9 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.1

ราคา 3,999 บาท (3GB/32GB)

7. OPPO A9 2020

OPPO A9 2020

          มือถือจอใหญ่ สเปกคุ้มค่ารุ่นใหม่ ในราคาที่ไม่ถึง 10,000 บาท กับสโลแกน "สเปกแรงสุด กล้องหลัง 4 ตัว" ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ Waterdrop Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์แบบ 3D, ซีพียู Snapdragon 665 พร้อม Game Boost 2.0, แรมสูงสุด 8GB, มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด Ultra Wide และ Ultra Night Mode 2.0 กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AI Beauty 2.0 และตอบโจทย์ด้านความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมกับลำโพงสเตอริโอแบบคู่ และปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นได้

ราคา 8,990 บาท

8. Huawei Y9s

Huawei Y9s

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ที่มีสเปกบางส่วนและดีไซน์เหมือนกับรุ่น Honor 9X และ Honor 9X Pro มาพร้อมหน้าจอ 6.59 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ไม่มีติ่ง ใช้ซีพียู Kirin 710F พร้อม GPU Turbo 3.0, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMIUI 9.1, กล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ 4,000mAh และมีกล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (F1.8) + 8 ล้านพิกเซล (Wide-angle F2.4) + 2 ล้านพิกเซล (Depth F2.4)

ราคา 7,990 บาท (แรม 6GB/128GB)

9. Vivo S1 Pro

Vivo S1 Pro

          มือถือซีรีส์ S รุ่นใหม่ สานต่อจาก Vivo S1 สเปกระดับกลาง กล้องจัดเต็มกับราคาสุดประหยัดเหมือนเดิม ตัวเครื่องได้แรงบันดาลใจจากเครื่องประดับที่หรูหรา และสถาปัตยกรรมพระราชวัง การดีไซน์แบบ Diamond ที่เพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ กล้องหลัง 4 ตัว โฉมใหม่ทรงข้าวหลามตัด AI Quad Camera กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Wide-angle เลนส์ Macro และเลนส์ Bokeh กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพคมชัดยิ่งขึ้น

          ด้านสเปกอื่น ๆ ของ Vivo S1 Pro มีหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 90% ความละเอียดหน้าจอ Full HD+ และมาพร้อมกับฟังก์ชัน Always On Display ที่จะช่วยให้คุณทราบข้อความ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ แม้ในขณะหน้าจอล็อกอยู่ รวมถึงการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้ซีพียู Snapdragon 665 Octa-core, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB และแบตเตอรี่ 4,500mAh ชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging นอกจากนี้ยังมี Vivo Multi-Turbo และ Ultra Game Mode7.0 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมอีกด้วย

ราคา 9,999 บาท (128GB/256GB)

10.  OPPO Reno2

OPPO Reno2

          มือถือซีรีส์ Reno รุ่นใหม่ ที่ยังคงเน้นกล้องเหมือนเดิม โดยรุ่นนี้อัปเกรดไปใช้กล้องหลัง 4 ตัว พร้อมความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 116 องศา + เลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล รองรับไฮบริดซูม 5 เท่า ซูมสูงสุด 20 เท่า แบบดิจิทัลซูม + เซ็นเซอร์เก็บระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าสไลด์แบบครีบฉลาม 16 ล้านพิกเซล เคลมว่าสามารถสไลด์ได้เร็วแค่ 0.8 วินาที และผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 200,000 ครั้ง

          มีหน้าจอขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Dynamic AMOLED Panaromic ขอบจอบางเฉียบเพียง 3.35 มม. คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 93.1%, ซีพียู Snapdragon 730G, แรม 8GB, หน่วยความจำ 256GB, รองรับ Game Boost 2.0, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมวัสดุกระจก 3D เสริมความแกร่งด้วย Gorilla Glass 5 ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0

ราคา 17,990 บาท (แรม 8GB/256GB)

10 มือถือน่าซื้อ เดือนธันวาคม 2562 รุ่นไหนน่าใช้ เช็กเลย

          หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 มือถือน่าซื้อ เดือนมกราคม 2563 รุ่นไหนน่าใช้ เช็กเลย อัปเดตล่าสุด 31 มกราคม 2563 เวลา 09:22:45 37,047 อ่าน
TOP
x close