มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนพฤศจิกายน 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย

          มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2019 มีมือถือใหม่รุ่นไหนน่าสนใจ มาดูมือถือใหม่ปี 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย รับรองว่าจัดเต็มแน่นอน

          กลับมาอัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2019 กันอีกครั้ง หลาย ๆ แบรนด์ยังคงทยอยเปิดตัวมือถือใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่น่าสนใจหลายรุ่น เช่น Motorola RAZR 2019, Vivo S5 และ Xiaomi Mi Note 10 เป็นต้น รวมถึงมือถือที่เปิดตัวกันตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมบางรุ่นก็เริ่มทยอยออกวางจำหน่าย

          สำหรับเดือนนี้มีมือถือเปิดตัวใหม่รุ่นไหนน่าสนใจเพิ่มอีกบ้าง ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ ลองมาเช็กกันก่อนซื้อ ว่ามีมือถือรุ่นไหนเด็ด น่าจับจองเป็นเจ้าของกันบ้าง ถ้าพร้อมมาติดตามกันเลย

1. Motorola RAZR 2019

          Motorola คืนชีพมือถือฝาพับยอดนิยมในอดีตอย่าง Motorola RAZR ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยอยู่ในรูปแบบโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอพับได้ พร้อมขายในราคาสุดพรีเมียม หน้าจอเป็นแบบพับจากบนลงล่าง และเมื่อพับลงมาจะมีหน้าจอเล็กขนาด 2.7 นิ้ว อีกหนึ่งจอที่ด้านหน้า ใช้ควบคุมเครื่องแบบง่าย ๆ เช่น เปลี่ยนเพลง, เรียก Google Assistant หรือเปิดการแจ้งเตือน ส่วนตรงกลางเครื่องจะเป็นข้อพับโลหะให้ความแข็งแรงทนทาน มีสเปกระดับกลาง และยังคงดีไซน์สไตล์เดียวกับ RAZR V3

          ด้านสเปกมีหน้าจอแบบพับได้ขนาด 6.2 นิ้ว flexible OLED อัตราส่วน 21:9 CinemaVision มีกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รองรับ Laser Auto Focus มีโหมด Night Vision และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบปัญญาประดิษฐ์ในตัว (AI) กล้องหน้าเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล ใช้ซีพียู Snapdragon 710 แรม 6GB, รัน Android Pie พอร์ต Premium USB Type-C และแบตเตอรี่ 2,510mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์ TurboPower charging

ราคาประมาณ 45,900 บาท

2. Vivo S5

          มือถือซีรีส์ S รุ่นใหม่ สเปกระดับกลาง กล้องจัดเต็มเหมือนเดิม มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว Full HD+ แบบ Punch-Hole อัตราส่วน 20:9, ขอบจอบาง 2.98 มิลลิเมตร อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.38%, กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ฝังบนหน้าจอ, ซีพียู Snapdragon 712, แรม 8GB, หน่วยความจำ Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้อง 4 ตัว โฉมใหม่ทรงข้าวหลามตัด ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide + 5 ล้านพิกเซล Portrait และ 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Macro วัสดุตัวเครื่องด้านหลังกระจก 3D, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, มีแบตเตอรี่ความจุ 4,100mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์ Vivo Flash Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 11,900 บาท

3. HTC Desire 19s

          หลังจาก HTC เปิดตัว HTC Desire 19+ มือถือซีรีส์ Desire ที่มีหน้าจอติ่ง รุ่นแรกของแบรนด์ ล่าสุด HTC เปิดตัว HTC Desire 19s ตามมาอีกรุ่น โดยรุ่นนี้ปรับลดสเปกจาก HTC Desire 19+ เช่น กล้อง, ซีพียูและแรม ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีติ่งทรงหยดน้ำ, ซีพียู MediaTek Helio P22 MT6762 2.0GHz, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย HTC Sense UI, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้า มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,850mAh

ราคาประมาณ 5,990 บาท

4. Smartisan Jianguo Pro 3

          TikTok แอปฯ แชร์วิดีโอชื่อดังจากประเทศจีน ล่าสุด Bytedance บริษัทแม่ผู้พัฒนาแอปฯ ตัวนี้ ได้จับมือกับ Smartisan แบรนด์มือถือชื่อดังของจีน เปิดตัว Smartisan Jianguo Pro 3 มือถือระดับเรือธง สเปกไม่ธรรมดา พร้อมติดตั้งแอปฯ TikTok มาให้ในตัว เพียงแค่ปัดที่หน้าจอหลักก็สามารถเข้าแอปฯ ได้ทันที

          สเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ AMOLED และ DC Dimming, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Smartisan OS 3.0, กล้องหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ Sony IMX586), 13 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 123 องศา (Ultra-wide), 8 ล้านพิกเซล (Telephoto) และ 5 ล้านพิกเซล (2cm macro lens), กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 พิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์, ตัวเครื่องดีไซน์คล้าย iPhone 4 และมีขนาดบางเพียง 7.8 มิลลิเมตร

ราคาประมาณ 12,690 บาท

5. Huawei Y9s

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ที่มีสเปกบางส่วนและดีไซน์เหมือนกับรุ่น Honor 9X และ Honor 9X Pro มาพร้อมหน้าจอ 6.59 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ไม่มีติ่ง ใช้ซีพียู Kirin 710F พร้อม GPU Turbo 3.0, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMIUI 9.1, กล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ 4,000mAh และมีกล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (F1.8) + 8 ล้านพิกเซล (Wide-angle F2.4) + 2 ล้านพิกเซล (Depth F2.4)

ราคายังไม่เปิดเผย

6. Xiaomi Mi Note 10

          อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ Mi CC9 Pro ที่เป็นรุ่นวางขายทั่วโลก (Global Version) สเปกต่าง ๆ เหมือนกันทั้งหมด เปลี่ยนแค่ชื่อที่ใช้ทำการตลาดเท่านั้น มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัว ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว AMOLED ขอบโค้ง ความละเอียด Full HD+ ขอบด้านล่างเล็กลง 3.43 มิลลิเมตร ใช้ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI 11, ดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D glass, รองรับ NFC, ลำโพง 1cc, Hi-Res audio และแบตเตอรี่ 5,260mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์ เคลมว่าสามารถชาร์จ 58% ในเวลา 30 นาที และ 100% ในเวลา 65 นาที

ราคาประมาณ 12,900 บาท

7. Redmi Note 8T

          อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ Redmi Note 8 ที่ออกมาเพื่อวางจำหน่ายในตลาดยุโรป โดยเพิ่มการรองรับ NFC ส่วนสเปกต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ LCD, ซีพียู Snapdragon 665 11nm, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 pixel เพื่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา, 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และ 2 ล้านพิกเซล (2cm macro), กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล ลำโพงได้รับการปรับปรุงให้เสียงดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน, มี Smart PA, สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังมีขนาดเล็กกว่ารุ่น Note 7 แต่ปลดล็อกได้เร็วขึ้น 30%, ตัวเครื่องใช้วัสดุ 2.5D Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และเคลือบสารกันน้ำ พร้อมแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ แถมมาให้ในกล่อง

ราคาประมาณ 5,990 บาท

8. Xiaomi Mi CC9 Pro

          มือถือรุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัว ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว AMOLED ขอบโค้ง ความละเอียด Full HD+ ขอบด้านล่างเล็กลง 3.43 มิลลิเมตร ใช้ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI 11, ดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D glass, รองรับ NFC, ลำโพง 1cc, Hi-Res audio และแบตเตอรี่ 5,260mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์ เคลมว่าสามารถชาร์จ 58% ในเวลา 30 นาที และ 100% ในเวลา 65 นาที, กล้องหลัง 5 ตัว แบ่งเป็น กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล + 12 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 12,900 บาท

9. Vivo Y5s

          มือถือระดับกลางสเปกสุดคุ้ม หรืออีกเวอร์ชั่นของ Vivo Y19 ที่วางขายอยู่ในประเทศไทย มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว Full HD+ แบบ Halo FullView Display รอยบากทรงหยดน้ำ อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 90.3% ดีไซน์ตัวเครื่องมีความโค้งแบบ 3D Micro Arc มีการไล่ระดับสีสวยงาม กล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล กล้อง Super wide-angle และ Bokeh 8 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Face Beauty ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ให้ดูดีได้ในคลิกเดียว แถมยังมีฟีเจอร์ Pose Master ที่จะช่วยแนะนำการโพสท่าทางต่าง ๆ ขณะถ่ายภาพให้โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย เมื่อถ่ายแล้วก็สามารถนำไปแต่งหน้าเพิ่มเติมให้สวยกว่าเดิมได้อีกด้วย AI Makeup มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น

ราคาประมาณ 6,490 บาท

10. Vivo Y19

          มือถือหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว FHD+ เป็นหน้าจอแบบ Halo FullView Display รอยบากแบบหยดน้ำ อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 90.3% ดีไซน์ตัวเครื่องมีความโค้งแบบ 3D Micro Arc มีการไล่ระดับสีบนตัวเครื่องอย่างสวยงาม AI Triple Camera กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล กล้อง Super wide-angle และ Bokeh 8 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Face Beauty ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ให้ดูดีได้ในคลิกเดียว แถมยังมีฟีเจอร์ Pose Master ที่จะช่วยแนะนำการโพสท่าทางต่าง ๆ ขณะถ่ายภาพให้โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย เมื่อถ่ายแล้วก็สามารถนำไปแต่งหน้าเพิ่มเติมให้สวยกว่าเดิมได้อีกด้วย AI Makeup และมีแบตเตอรี่ 5,000mAh พร้อม Dual-Engine Fast Charging ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น

ราคา 6,999 บาท

11. Samsung Galaxy XCover FieldPro

          มือถือสายพันธุ์แกร่งซีรีส์ XCover ที่ใช้ซีพียูระดับเรือธง พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วย Samsung Knox, Push-to-Talk และอื่น ๆ อีกมากมาย มาพร้อมหน้าจอ 5.1 นิ้ว ความละเอียด QHD, ซีพียู Exynos 9810 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android Oreo รองรับการอัปเดต Android 10, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED 3 ดวง, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,500mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้เอง ตัวเครื่องพร้อมลุยทุกสถานการณ์ กันน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที ตามมาตรฐาน IP68 และผ่านการรับรองมาตรฐาน MIL-STD 810G มาตรฐานความทนทานต่อการสั่น และการตกกระแทกจากความสูงไม่เกิน 1.2 เมตร ทนต่อความร้อน รวมถึงสามารถใช้งานได้แม้ใส่ถุงมืออยู่ก็ตาม

ราคายังไม่เปิดเผย

12. Vivo iQOO Neo 855

          มือถือซีรีส์ iQOO รุ่นใหม่ ที่อัปเกรดสเปกจาก Vivo iQOO Neo ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ยังคงเน้นไปที่ความคุ้มค่าราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือด้านเกมมิ่งโดยเฉพาะ โดยอัปเกรดเป็นซีพียู Snapdragon 855 พร้อมหน่วยความมาตรฐาน UFS 3.0 และหน้าจอที่รองรับ HDR 10 ส่วนสเปกอื่น ๆ ยังคงเหมือน iQOO Neo iQOO Neo 855 ยังมีโหมด Multi-Turbo ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น AI Turbo เพิ่มความเร็วในการเปิดแอปฯ 30%-50%, Net Turbo สามารถสลับไปใช้ Wi-Fi และ 4G ให้อัตโนมัติ ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุด, Cooling Turbo ระบายความร้อนด้วย Super liquid cooling, Center Turbo, และ Game turbo ช่วยเพิ่มความลื่นให้กับการเล่นเกม รวมถึงรองรับระบบ 4D Gaming 2.0 ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh พร้อมชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ที่เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0 ถึง 25% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 8,590 บาท

13. Moto G8 Play และ Moto E6 Play

          มือถือราคาประหยัดอีก 2 รุ่นจาก Motorola คือ Moto G8 Play กับ Moto E6 Play เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่มีงบในการซื้อมือถือที่จำกัด Moto G8 Play มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+, ซีพียู Helio P70, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 117 องศา (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล Depth sensor, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ส่วน Moto E6 Play มีหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD+, ซีพียู Snapdragon 435, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ทั้ง 2 รุ่น รัน Android Pie, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh กับ 3,000mAh ตามลำดับ

ราคาประมาณ 7,290 บาท (Moto G8 Play), 3,990 บาท (Moto E6 Play)

14. Moto G8 Plus

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม สำหรับสายเพียวแอนดรอยด์สานต่อจาก Moto G7 Plus มาพร้อมหน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ, ซีพียู Snapdragon 665, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9 (Pie) รองรับการอัปเดต Android 10 และด้านความปลอดภัยนาน 2 ปี, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung GM1, f/1.79 + 16 ล้านพิกเซล เลนส์กว้าง Ultra-Wide รูรับแสง F/2.2 สามารถเก็บภาพมุมกว้าง 117 องศา มีระบบลดการสั่นไหวของวิดีโอ  5 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth เลเซอร์โฟกัส และกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 5,990 บาท

15. Sony Xperia 1 Professional Edition

          มือถืออีกรุ่นที่อัปเกรดสเปกบางส่วนจาก Xperia 1 ยังคงใช้หน้าจอ OLED ความละเอียด 4K อัตราส่วน 21:9 เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมการรองรับสัญญาณ 10 บิต เพื่อให้จอแสดงผลที่ปรับเทียบในเรื่องของสีสันได้ดีขึ้นตามการตั้งค่าการรับชม นอกจากนี้ยังเพิ่มแอปฯ Imaging Edge ทำให้การเชื่อมต่อกล้อง Sony กับมือถือทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดภาพได้ง่ายกว่าเดิม และปิดท้ายด้วยการรองรับการเชื่อมต่อ Ethernet ผ่านสาย USB Type-C (สเปกอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม)

ราคาประมาณ 39,900 บาท

16. Meizu 16T

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่ จาก Meizu มาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Super AMOLED ได้รับรองจาก TÜV eye protection certification, ซีพียู Snapdragon 855, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Flyme OS, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide) รองรับถ่ายภาพมาโครที่ระยะ 2.5cm + 5 ล้านพิกเซล (Depth sensor), กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้ารวดเร็วแค่ 0.2 วินาที

ราคาประมาณ 8,590 บาท

17. Honor 20 Lite (Youth Edition)

          มือถือระดับกลางที่มาพร้อมสเปกคุ้มค่า ราคาประหยัด หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ OLED พร้อมสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, ซีพียู Kirin 710F, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor), กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 20 วัตต์

ราคาประมาณ 5,990 บาท

18. Huawei nova 5z

          มือถือระดับกลางที่ปรับราคาลงจากรุ่น Huawei nova 5i Pro แถมบางส่วนสเปกและดีไซน์ก็เหมือนกัน มีหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ Punch-Hole กล้องหน้าเจาะรูบนหน้าจอ 32 ล้านพิกเซล, ซีพียู Kirin 810 7nm, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, รัน  Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1.1, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง + 2 ล้านพิกเซล เลนส์มาโคร ขนาด 2 เซนติเมตร + 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth Sensing สำหรับถ่าย Portrait, ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 20 วัตต์ ชาร์จจาก 0-50% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 6,900 บาท

19. Vivo U3

          มือถือที่รีแบรนด์มาจาก Vivo U10 ล่าสุด Vivo ประกาศเปิดตัว Vivo U3 ที่อัปเกรดสเปกให้ขึ้นจาก Vivo U3x ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องสเปกระดับกลางที่คุ้มค่า จอใหญ่ แบตเตอรี่อึด 5,000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Snapdragon 675, แรม 4GB/6GB, หน่วยความจำ 64GB, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 16 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 ซิม, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 2.4G, Bluetooth 5.0, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ต microUSB

ราคาประมาณ 4,290 บาท

20. Vivo Y11 (2019)

          มือถือราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม มีดีไซน์เหมือนรุ่น Vivo Y12 ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.35 นิ้ว HD+ Halo FullView LCD ความละเอียด HD+, ซีพียู Snapdragon 439, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD card, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, รัน Android 9 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.1 กล้องหลังคู่ 13 ล้านพิกเซล, f/2.2 + 2 ล้านพิกเซล, f/2.4, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, f/1.8ม รองรับ AI พร้อมโหมดถ่ายภาพ Professional, PDAF, Palm Shoot, Voice Capture, Time Lapse, Slow Motion, Animation, HDR, Panorama, Portrait, Watermark, AI Face Beauty และ Camera Filter ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

ราคา 3,999 บาท

21. Huawei Enjoy 10

          สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือที่ปรับลดสเปกมาจากรุ่น Huawei Enjoy 10 Plus มือถือกล้องหน้าป๊อปอัพ กล้องหลัง 3 ตัว ที่มีสเปกคล้ายกับ Huawei Y9 Prime 2019 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว Punch-hole ความละเอียด HD+, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ซีพียู Octa-Core Kirin 710F 12nm, แรมสูงสุด 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, รองรับ GPU Turbo 3.0, กล้องหลังคู่ 48 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม AI, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคาประมาณ 5,190 บาท

มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนตุลาคม 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย

          หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง และมือถือบางรุ่นยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย