Huawei เปิดตัว Huawei Mate 30 และ Huawei Mate 30 Pro มือถือระดับไอคอน สเปกจัดเต็ม Kirin 990 5G SoC พร้อมกล้องถ่ายภาพ 4 ตัว SuperSensing Cine Camera
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 Huawei ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนสุดล้ำ Huawei Mate 30 Series ที่กรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ในทุกด้าน ตั้งแต่สุนทรียภาพในการออกแบบไปจนถึงวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และนวัตกรรมซอฟต์แวร์ ในฐานะสมาร์ตโฟน 5G เจเนเรชันที่ 2 รุ่นแรกของโลก และด้วยความเป็นสุดยอดแห่งการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสมาร์ตโฟน
เริ่มต้นที่ Huawei Mate 30 Pro สวยเด่นด้วยการออกแบบรอยบากหน้าจอให้แคบเป็นพิเศษและทำให้ขอบตัวเครื่องเพรียวบางที่สุด พร้อมหน้าจอ Huawei Horizon Display ที่โค้งมนทำมุม 88 องศา เพื่อเปิดพื้นที่ในการแสดงผลได้สูงสุด และมอบประสบการณ์ในการรับชมในทุกรายละเอียด จากขอบจรดขอบ และยังนำคุณสมบัติ Innovative Side-touch Interaction มาใช้แทนปุ่มเพิ่มลดเสียงบริเวณด้านข้างตัวเครื่อง โดยเป็นปุ่มเสมือนที่ซ่อนตัวอยู่แทน คุณสมบัตินี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของปุ่ม ปรับระดับเสียงให้อยู่ข้างใดของตัวเครื่องก็ได้ตามความต้องการ และยังทำให้ Mate 30 Pro เป็นสมาร์ตโฟนในดีไซน์แบบออล-อิน-วันที่สมบูรณ์แบบเป็นหนึ่งเดียวมากที่สุดเท่าที่มีวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ (Huawei 3D Face Unlock) และระบบตรวจสอบลายนิ้วมือแบบฝังในหน้าจอ (In-Screen Fingerprint) ได้ผสานการทำงานเพื่อการรักษาความปลอดภัยด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric Security) ในระดับสูง พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อพลิกด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับดีไซน์รูปวงแหวนของระบบกล้องถ่ายภาพแบบ 4 กล้องที่โดดเด่นสะดุดตา โดยล้อมรอบไว้ด้วยวงรัศมีแบบเมทัลลิค สะท้อนการออกแบบของกล้องถ่ายภาพแบบ DSLR และเป็นการออกแบบให้จับได้อย่างถนัดมือ นอกจากนี้ Huawei Mate 30 Pro ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Huawei Acoustic Display เพื่อมอบเสียงคุณภาพสูงผ่านหน้าจอที่สามารถกระจายเสียงได้อีกด้วย
สมาร์ตโฟน 5G เจเนเรชันที่สองรุ่นแรกในโลก
Huawei Mate 30 Series ใช้ชิปเซตในซีรีส์ Huawei Kirin 990 ซึ่งเป็นชิปเซตสำหรับสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่ได้เคยเปิดตัวมาจนถึงปัจจุบัน โดย Huawei Kirin 990 5G ท้าทายขีดจำกัดของ หลักฟิสิกส์ที่มีซิลิคอนเป็นพื้นฐานด้วยการผสานสถาปัตยกรรมสำหรับซีพียูเพื่อประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน 3 ระดับ เข้ากับสถาปัตยกรรม Da Vinci NPU ที่หัวเว่ยเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง (NPU คู่ ขนาดใหญ่ พร้อมด้วยแกน NPU ขนาดเล็ก) ตลอดจน GPU แบบ 16 แกน ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อมอบสมรรถนะที่เร็วแรงและมีประสิทธิภาพสูงในด้านการใช้พลังงาน
สำหรับ Kirin 990 5G ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ 7nm + EUV รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G ตลอดจนเครือข่าย 5G ทั้งในโหมด Non-StandAlone (NSA) และ StandAlone (SA) พร้อมทั้งระบบ Dual SIM, Dual Standby และย่านความถี่ FDD/TDD นอกจากนี้ยังได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ระบบปฏิบัติการสามารถมอบประสิทธิภาพได้สูงสุด และในฐานะสมาร์ตโฟน 5G เจเนเรชันที่ 2 รุ่นแรกของโลก Huawei Mate 30 Pro 5G จึงมีเสาอากาศสำหรับเครือข่าย 5G ถึง 14 เสา ทำให้มีประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่ไม่มีใครเทียบได้ เพื่อความเร็วยิ่งขึ้นอีกระดับ
Huawei Mate 30 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 4,200mAh ในขณะที่ Mate 30 Pro มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วยความจุถึง 4,500mAh ระบบชาร์จไร้สาย Huawei SuperCharge 27W และระบบชาร์จ Huawei SuperCharge 40W ช่วยให้ผู้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Huawei SuperCharge ซึ่งได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งในการชาร์จแบบต่อสายและไร้สาย รวมถึงระบบ Reverse Wireless Charging ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
กล้อง SuperSensing Cine Camera ถ่ายภาพถ่ายและวีดีโอสวยงามน่าทึ่ง
Huawei Mate 30 มาพร้อมระบบกล้องถ่ายภาพ SuperSensing Triple Camera ซึ่งประกอบด้วย กล้อง SuperSensing ความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra Wide-angle ความละเอียด 16MP และกล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP ซึ่งเมื่อผสานการทำงานกับการประมวลผลของ ISP 5.0 Image Signal Processor จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วน Huawei Mate 30 Pro ปฏิวัติวงการด้วยระบบกล้องถ่ายภาพ 4 กล้องซึ่งประกอบด้วยกล้อง Cine Camera ความละเอียด 40MP, กล้อง SuperSensing ความละเอียด 40MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP และกล้อง 3D Depth Sensing
กล้อง SuperSensing Cine Camera เป็นระบบกล้องหลัก 2 ตัวซึ่งสามารถให้ภาพถ่ายเทียบเท่ากับกล้องถ่ายภาพระดับไฮ-เอนด์ โดยกล้อง Cine Camera ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.54 นิ้ว สามารถตั้งค่า ความไวแสงในการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ ISO 51200 บันทึกวิดีโอด้วยช่วงการรับแสง (Dynamic Range) ที่กว้างถึง 4K/60 เฟรมต่อวินาที ตลอดจนภาพ Ultra Slow-motion สูงสุดที่ระดับ 7680 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังรองรับ การถ่ายวิดีโอ Time-lapse ในสภาพแสงน้อยแบบอัลตร้าไวด์ด้วยความละเอียด 4K อีกด้วย
และยังมาพร้อมความสามารถในการสร้างโบเก้ในขณะบันทึกภาพเพื่อผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ ส่วนกล้องตัวที่สองของกล้องคู่เป็นกล้อง Huawei SuperSensing ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.7 นิ้วที่สามารถเก็บแสงได้มากกว่าเดิมถึง 40% เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจแม้ในสภาพแสงน้อย พร้อมค่าความไวแสงอันน่าประทับใจที่ระดับ ISO 409600 ซึ่งทำให้ เป็นอุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้ว่าจะเป็นการถ่ายมุมกว้างแบบอัลตร้าไวด์ ก็ตาม
ปิดท้ายด้วยกล้อง Huawei Telephoto ความละเอียด 8MP ให้พลังซูมแบบออปติคัล 3 เท่า, ไฮบริดซูม 5 เท่า และดิจิทัลซูม 30 เท่า และระบบลดการสั่นไหวแบบ Optical Image Stabilisation (OIS) + AI Stabilisation (AIS) และ 3D Depth Sensing เพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอส่วนกล้องหน้า 3D Depth Sensing มีเอฟเฟกต์ สร้างโบเก้ พร้อมความชัดลึกที่แม่นยำเพื่อการถ่ายเซลฟี่และภาพบุคคลที่สวยงาม
Huawei Mate 30
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ระบบปฏิบัติการ EMUI10 ที่นำเสนอรูปแบบการจัดวางอันทันสมัย ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนิตยสาร ตลอดจนการแสดงผลแบบ Always-On-Display (AOD) ซึ่งสีบนหน้าจอ Lock Screen จะเปลี่ยนแปลงไป ตลอดทั้งวัน
- Dark Mode ช่วยให้อ่านหน้าจอได้ง่ายขึ้น และทำให้หน้าจอดูสะอาดตา รวมถึงให้ความสบายตามากขึ้น ในช่วงเวลากลางคืน
- การสั่งงานด้วย Intuitive Side-touch Interaction ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนปุ่มเสมือนที่ซ่อนตัวอยู่ได้ ซึ่งใช้เพื่อปรับระดับเสียง ตั้งค่าการเล่นเกมและกล้องถ่ายภาพ และยังเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานที่ถนัดซ้ายหรือถนัดขวา
- การควบคุมด้วยท่าทางด้วย AI (AI gesture control) เพื่อการสั่งงานโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอ ในขณะที่ฟีเจอร์ AI Auto-Rotate และ AI Private View ล้วนได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ ในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
- ระบบ HiCar Smart Travel รองรับการเชื่อมต่อขั้นสูงที่ราบรื่นไร้รอยต่อระหว่างตัวอุปกรณ์ และระบบสื่อสารและความบันเทิงภายในรถยนต์
- ฟีเจอร์ Multi-screen Collaboration ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลและควบคุมหน้าจออื่น ๆ ระหว่างอุปกรณ์หัวเว่ยหลายชิ้นได้
- การปลดล็อคด้วย 3D Face Unlock และ In-screen Fingerprint ช่วยให้ข้อมูลมีความปลอดภัย และสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวในขั้นสูงได้ (เฉพาะ Mate 30 Pro เท่านั้น)
สเปกเบื้องต้นของ Huawei Mate 30 Pro / Mate 30 Pro 5G
- หน้าจอ 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ flex OLED Display, อัตราส่วน 18.4:9, DCI-P3
- ซีพียู Kirin 990 (2 x Cortex-A76 Based 2.86GHz + 2 x Cortex-A76 Based 2.09GHz + 4 x Cortex-A55 1.86GHz), จีพียู ARM Mali-G76MP16, Big Core + Tiny Core NPUs (Neural-network Processing Unit)
- ซีพียู Kirin 990 5G (2 x Cortex-A76 Based 2.86GHz + 2 x Cortex-A76 Based 2.36GHz + 4 x Cortex-A55 1.95GHz), จีพียู ARM Mali-G76MP16, Dual Big Core + Tiny Core NPUs (Neural-network Processing Unit)
- แรม 8GB LPDDR4x
- หน่วยความจำ 256GB (รองรับ NM card สูงสุด 256GB)
- รัน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.0
- รองรับ 2 ซิม แบบ Hybrid Dual SIM (nano + nano / NM card)
- กล้องหลัง 4 ตัว 40MP (Cine Camera, f/1.8 aperture) + 40MP (SuperSensing Camera, f/1.6, OIS) + 8MP (Telephoto Camera, f/2.4, OIS, 3x Optical Zoom, 5x Hybrid Zoom3 and up to 30x Digital Zoom)+3D Depth Sensing Camera supports Autofocus (phase focus, contrast focus), supports AIS (HUAWEI AI Image Stabilization), 7680fps ultra slow motion, 4k HDR+ time-lapse
- กล้องหน้า 32MP, f/2.0 aperture, 3D Depth Sensing Camera พร้อม 3D Face unlock
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- กันน้ำกันฝุ่น (IP68)
- รองรับ USB Type-C Audio
- ขนาดตัวเครื่อง 158.1 x 73.1 x 8.8 /9.5 (Leather) มม., น้ำหนัก 198 กรัม
- รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz and 5GHz) (wave2), Bluetooth 5.1 LE, GPS (L1 + L5 dual band), NFC, USB 3.1 Type-C (GEN1)
- แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ 40W SuperCharge และ 27W Wireless SuperCharge
สเปกเบื้องต้นของ Huawei Mate 30 / Mate 30 5G
- หน้าจอ 6.62 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ OLED FullView Display, อัตราส่วน 19.5:9, DCI-P3
- ซีพียู Kirin 990 (2 x Cortex-A76 Based 2.86 GHz + 2 x Cortex-A76 Based 2.09 GHz + 4 x Cortex-A55 1.86 GHz), จีพียู ARM Mali-G76MP16, Big Core + Tiny Core NPUs(Neural-network Processing Unit)
- ซีพียู Kirin 990 5G (2 x Cortex-A76 Based 2.86 GHz + 2 x Cortex-A76 Based 2.36 GHz + 4 x Cortex-A55 1.95 GHz), จีพียู ARM Mali-G76MP16, Dual Big Core + Tiny Core NPUs (Neural-network Processing Unit)
- แรม 8GB LPDDR4x
- หน่วยความจำ 256GB (รองรับ NM card 256GB)
- รัน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.0
- รองรับ 2 ซิม แบบ Hybrid Dual SIM (nano + nano / NM card)
- กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 40MP (Cine Camera, f/1.8 aperture) + 16MP (Ultra Wide Angle Camera, f/2.2) + 8MP (Telephoto Camera, f/2.4, OIS, 3x Optical Zoom1, 5x Hybrid Zoom2 and up to 30x Digital Zoom), PDAF, CAF, AIS
- กล้องหน้า 24MP, f/2.0
- สแกนนิ้วบนหน้าจอ
- กันน้ำ (IP53)
- ขนาดตัวเครื่อง 160.8 x 76.1 x 8.4 /9.2 (Leather) มม., น้ำหนัก 196 กรัม
- รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz and 5GHz) (wave2), Bluetooth 5.1 LE, GPS (L1 + L5 dual band), NFC, USB 3.1 Type-C (GEN1)
- แบตเตอรี่ 4,200mAh รองรับ 40W SuperCharge และ 27W Wireless SuperCharge
Huawei Mate 30 Pro
ราคาและการวางจำหน่าย
Huawei Mate 30 Pro หน้าจอ 6.35 นิ้ว และ Mate 30 หน้าจอ 6.62 นิ้ว มีสีสันและวัสดุให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่ Emerald Green, Space Silver, Cosmic Purple และ Black นอกจากนี้ยังมีสี Forest Green และ Orange ซึ่งจะเป็นวัสดุหนัง (Vegan Leather)
|
รุ่น |
เวอร์ชั่น |
ราคา (รวมภาษีแล้ว) |
|
Huawei Mate 30 Pro (5G) |
8GB RAM + 256GB ROM |
EUR 1199 (40,900 บาท) |
|
Huawei Mate 30 Pro |
8GB RAM + 256GB ROM |
EUR 1099 (37,000 บาท) |
|
Huawei Mate 30 |
8GB RAM + 128 GB ROM |
EUR 799 (26,900 บาท) |
ทั้งนี้ Huawei ยังไม่ประกาศกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมา และ Huawei Mate 30 กับ Mate 30 Pro ไม่มี Google Service ติดตั้งมาให้ ต้องรอดูว่า Huawei จะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร
ภาพจาก Huawei
