แนะนำ 8 วิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ชาร์จมือถือแล้วแบตเตอรี่ขึ้นช้า ทำยังไงให้ชาร์จเร็วขึ้นมาดูกัน
หลายคนที่ใช้มือถือโดยเฉพาะคนที่ใจร้อนอาจจะเคยรู้สึกหงุดหงิดบ้างไม่มากก็น้อย ว่าทำไมเวลาชาร์จแบตเตอรี่แล้วมันขึ้นช้าจัง รอตั้งนานกว่าจะชาร์จเต็ม หรือบางคนใช้มือถือที่รองรับชาร์จเร็วแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าชาร์จช้าอยู่ดี ไม่รู้จะแก้ยังไงดี วันนี้เราก็เลยมีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นมาฝากกัน ลองอ่านแล้วเอาไปทำตามกันได้เลย
1. เปลี่ยนที่ชาร์จใหม่
มือถือรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่จะรองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว แต่ที่ชาร์จซึ่งแถมมาให้พร้อมเครื่องนั้นอาจเป็นแค่ที่ชาร์จธรรมดาซึ่งไม่รองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ช้าเหมือนเดิม และถ้าหากเราไปหาซื้อที่ชาร์จมาใหม่ เลือกแบบที่รองรับชาร์จเร็วเหมือนกับมือถือที่เราใช้ เช่น ที่ชาร์จแบบ 15W หรือ 25W ก็จะทำให้สามารถชาร์จได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องเลือกกำลังไฟให้เท่ากับที่มือถือของเรารองรับได้ด้วย
2. ลองเปลี่ยนสายชาร์จดู
บางทีการที่ชาร์จแล้วแบตเตอรี่ขึ้นช้านั้น ก็อาจมาจากสายชาร์จเสื่อมสภาพได้เช่นกัน ทำให้ไม่สามารถจ่ายไฟได้เต็มที่ ซึ่งอาจหาสายอื่นที่มีอยู่และเป็นสายประเภทเดียวกันมาใช้แทนได้ ไม่ว่าจะเป็น microUSB หรือ Lightning แต่ถ้าหากไม่มีก็อาจต้องซื้อสายเส้นใหม่
3. ปิดเครื่อง
การปิดมือถือขณะชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น เนื่องจากการปิดเครื่องจะทำให้เครื่องไม่ทำงานและไม่กินแบตเตอรี่ขณะชาร์จ ทำให้สามารถชาร์จได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 30% เลยทีเดียว หรือถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานไปด้วยก็อาจเข้าไปตั้งค่าเปิด Power Saving Mode เพื่อใช้งานในโหมดประหยัดพลังงานแทนก็ได้เช่นกัน
4. เปิด Airplane Mode
นอกจากการปิดเครื่องหรือเปิด Power Saving Mode แล้ว การเปิด Airplane Mode ซึ่งเป็นการปิดการเชื่อมต่อทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, เน็ตและเครือข่ายมือถือ ก็สามารถช่วยลดการใช้พลังงานและทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
5.อย่าชาร์จจากคอมพิวเตอร์
การชาร์จแบตเตอรี่จากเครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือโน้ตบุ๊ก เนื่องจากพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์นั้นถูกออกแบบมาสำหรับถ่ายโอนข้อมูลเป็นหลัก จึงมีกำลังในการจ่ายไฟไม่มากเท่ากับการชาร์จจากปลั๊กไฟโดยตรง แต่ถ้าหากจำเป็นต้องชาร์จจากคอมพิวเตอร์จริง ๆ การชาร์จจากพอร์ต USB 3.0 ก็อาจเร็วกว่าพอร์ต USB 2.0 เนื่องจาก USB 3.0 รองรับการจ่ายไฟได้สูงสุด 500mA/2.5W แต่ USB 2.0 รองรับได้เพียง 900mA/4.5W
6. อย่าใช้มือถือชณะชาร์จ
การใช้มือถือขณะชาร์จไปด้วยจะยิ่งทำให้แบตเตอรี่ขึ้นช้า เพราะการใช้งานเครื่องจะกินแบตเตอรี่เรื่อย ๆ ถ้าอยากให้ชาร์จเต็มเร็ว ๆ ก็ควรวางเครื่องทิ้งไว้เฉย ๆ หยิบมาใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น รวมทั้งตั้งเวลาให้ล็อกหน้าจออัตโนมัติเร็วขึ้นก็ช่วยได้เหมือนกัน
7. ปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น
การปิดฟีเจอร์ต่าง ๆ ในเครื่องที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้งานขณะนั้นก็สามารถช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะป็นการปิด Wi-Fi, Bluetooth, เน็ตมือถือ, NFC, GPS และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ รวมทั้งปิดแอปฯ ที่กำลังทำงานแบบ Background ด้วย
8. อย่าเล่นเกมขณะชาร์จ
อย่างที่รู้กันดีคือการเล่นเกมบนมือถือนั้นจะกินแบตเตอรี่มากกว่าการใช้งานทั่วไปมาก ๆ และแน่นอนว่าถ้าเล่นไปชาร์จไปก็จะทำให้แบตเตอรี่ขึ้นช้าสุด นอกจากนี้ยังทำให้ความร้อนของตัวเครื่องและแบตเตอรี่สูงขึ้นด้วย ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่และอาจเกิดปัญหาอื่น ๆ กับตัวเครื่องได้
ข้อมูลจาก androidleo
