ส่งท้ายเดือนแห่งความรักกับ 24 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2019 มีมือถือใหม่เปิดตัวรุ่นไหนบ้าง มือถือใหม่ ปี 2019 มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน เช็กเลย
กลับมาอัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2019 สำหรับเดือนนี้หลาย ๆ แบรนด์ยังคงทยอยเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมือถือที่เปิดตัวในช่วงปลายเดือนมกราคมเราก็มาอัปเดตให้ทราบกันอีกครั้ง และเดือนนี้ก็มีมือถือที่น่าสนใจหลายรุ่น โดยเฉพาะใครที่แฟนมือถือซัมซุง เพราะล่าสุด ได้เปิดตัว Samsug Galaxy S10 มือถือเรือธงซีรีส์ Galaxy S รุ่นใหม่ ที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงแบรนด์มือถือสุดคุ้มอย่าง Xiaomi ก็เปิดตัว Mi 9 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ ประจำปี 2019 แล้วเช่นกัน ส่วนรุ่นอื่น ๆ มีรุ่นไหนน่าสนใจอีกบ้าง มาติดตามกันเลย
1. Samsug Galaxy S10, Galaxy S10+ และ Galaxy S10e
มือถือเรือธงซีรีส์ Galaxy S รุ่นใหม่ ปี 2019 พร้อมกันรวดเดียว 3 รุ่น และแน่นอนแทบจะไม่เหลืออะไรให้ลุ้น เพราะข้อมูลต่าง ๆ ตรงตามภาพหลุดและข่าวลือแบบ 100% โดยการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของ Galaxy S10 มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ Infinity-O เจาะรูฝังกล้อง ดีไซน์เหมือนกันทั้ง 3 รุ่น, กล้องหลัง 3 เลนส์ ตามสมัยนิยม (เฉพาะ Galaxy S10/S10+) แรมสูงสุด 12GB พร้อมหน่วยความจำมากที่สุด 1TB และฟีเจอร์ใหม่ PowerShare ที่สามารถใช้ Galaxy S10 ชาร์จมือถือเครื่องอื่นหรือหูฟังไร้สายได้ รวมถึงอีกหลายฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นครั้งแรกของโลก (อ่านข้อมูลทั้งหมดของ Galaxy S10)
ราคา
- Galaxy S10e แรม 6GB + 128GB ราคา 26,900 บาท
- Galaxy S10 แรม 8GB + 128GB ราคา 31,900 บาท
- Galaxy S10+ แรม 8GB + 128GB ราคา 35,900 บาท
- Galaxy S10+ แรม 8GB + 512GB ราคา 44,900 บาท
- Galaxy S10+ แรม 12GB + 1TB ราคา 55,900 บาท
มือถือเรือธงรุ่นแรกของ Samsung ที่รองรับ 5G และจะวางขายผ่าน Verizon เครือข่ายมือถือในอเมริกาเป็นที่แรก ด้านดีไซน์และฟีเจอร์ต่าง ๆ เหมือนกับ Galaxy S10 แต่แตกต่างกันที่ขนาดของหน้าจอและกล้องถ่ายภาพ โดย Galaxy S10 5G มีกล้องหลัง 4 ตัว และกล้องหน้าคู่ ทำให้กลายเป็นมือถือที่มีกล้องรวมกันทั้งหมด 6 ตัว ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ Curved Dynamic AMOLED, อัตราส่วน 19:9, (505ppi), ซีพียู Snapdragon 855/Exynos 9820, แรม 8GB, หน่วยความจำ 256GB, ไม่รองรับ microSD, รองรับซิมเดียว และแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Super Fast Charging, Fast Wireless Charging 2.0 และ Wireless PowerShare กล้องหน้าคู่ 10 ล้านพิกเซล, Dual Pixel AF, F1.9, เลนส์มุมกว้าง 80 องศา + เลนส์ 3D Depth
ราคายังไม่เปิดเผย
มือถือรุ่นแรกของโลกที่มีหน้าจอ Dynamic AMOLED Infinity Flex Display ขนาด 7.3 นิ้ว แบบพับได้ โดยเหล่าวิศวกรซัมซุงได้สรรค์สร้างการพับด้วยกลไกบานพับที่ซับซ้อน ที่ทำให้เกิดการพับที่เป็นธรรมชาติ แนบชิด มีรูปลักษณ์ที่เรียบหรู โดดเด่นด้วยการทำงานแบบ Multi-Active Window สามารถเปิดแอปพลิเคชันได้ถึง 3 แอปพลิเคชันในเวลาเดียวกันบนหน้าจอเดียว และใช้งานได้อย่างต่อเนื่องระหว่างหน้าจอหลักกับหน้าจอบนฝาพับ
และทางซัมซุงยังร่วมมือกับกูเกิล พัฒนาเทคโนโลยี App Continuity เพื่อใช้สลับโหมดระหว่างโหมดพับหน้าจออยู่กับโหมดกางหน้าจอ ทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใช้แอปพลิเคชันอยู่บนหน้าจอเล็ก ก็สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องเมื่อใช้หน้าจอใหญ่
ราคาประมาณ 61,590 บาท
4. Xiaomi Mi 9
มือถือเรือธงรุ่นใหม่ ประจำปี 2019 ยังคงคอนเซ็ปต์มือถือสเปกจัดเต็ม ฟีเจอร์อัดแน่น ในราคาที่คุ้มค่าเหมือนเดิม ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Super AMOLED กระจก Corning Gorilla Glass 6 ติ่งทรงหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.7% ขอบด้านล่างเล็ก 3.6 มม. แคบลงกว่า Mi 8 ถึง 40% ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ Snapdragon 855 ผลิตที่ 7 นาโนเมตร พร้อม Game Turbo และ real-time CPU/GPU/FPS monitoring, แรมสูงสุด 8GB รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย MIUI 10 และแบตเตอรี่ความจุ 3,300mAh รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge 4+ ถึง 27 วัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-70% ด้วยเวลา 30 นาที และชาร์จเต็มใน 1 ชั่วโมง
ราคาประมาณ 13,900 บาท
มือถือที่สานต่อจาก Xiaomi Mi 8 SE โดยรุ่นนี้มีหน้าตาคล้ายกับรุ่นเรือธงใช้ดีไซน์ Holographic เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่สเปกที่ถูกปรับให้เหมาะสม มาพร้อมหน้าจอติ่งหยดน้ำขนาด 5.97 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.4%, มือถือรุ่นแรกที่ใช้ซีพียู Snapdragon 712, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลัง 3 ตัว เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ตัวที่สอง 8 ล้านพิกเซล และตัวที่สาม 13 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์มุมกว้าง (Ultra-wide)
ราคาประมาณ 9,290 บาท
6. Vivo V15 Pro
มือถือซีรีส์ V รุ่นใหม่ มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (Pop-up Selfie) เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่มีกล้องหน้าความละเอียดสูงสุดเป็นรุ่นแรกของโลก ทาง Vivo เคลมว่าสามารถเปิดใช้งานได้เร็วแค่ 0.46 วินาที และมีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงและแรงบิดสูงสุดถึง 120 กิโลกรัม และผ่านการทดสอบกว่า 300,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ตามสมัยนิยม โดยแบ่งออกเป็น 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล พร้อม dual-tone LED flash และยังมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แน่นอนรุ่นนี้หน้าจอไม่มีติ่ง รอยบาก มากวนใจ เพราะกล้องหน้าถูกซ่อนอยู่ในรูปแบบป๊อปอัพ
ราคาประมาณ 12,690 บาท
LG เปิดตัว LG Q60 มือถือซีรีส์ Q มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.29 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 FullVision กล้องหลัง 3 เลนส์ และ LG K50 กับ LG K40 มือถือซีรีส์ K อีก 2 รุ่นด้วย โดยทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอใหญ่ FullVision ด้วยกันเช่นกัน และทุกรุ่นเสริมความแข็งแรงด้วยมาตรฐานกันกระแทก MIL-STD-810G รวมถึงทนทานต่อความร้อนและความชื้น มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง และปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant พร้อมระบบเสียง DTS:X 3D Surround Sound แบบ 7.1 Channel Surround Sound
ราคายังไม่เปิดเผย
8. Vivo Y91C
มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Y รุ่นใหม่ โดยรุ่นนี้มีสเปกบางส่วนคล้าย Vivo Y91/91i แต่ปรับลดสเปกบางส่วน เช่น กล้อง หน่วยความจำ และตัดสแกนลายนิ้วมือออก เหลือแค่การสแกนปลดล็อกด้วยใบหน้า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762r (Helio P22), แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์สวยไล่เฉดสี พร้อมสีใหม่ Ocean Blue และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคาประมาณ 4,290 บาท
9. Vivo U1
มือถือระดับกลาง U ซีรีส์ใหม่ของ Vivo มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ติ่งทรงหยดน้ำ (Waterdrop notch) ใช้ซีพียู Snapdragon 439 12nm, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคาประมาณ 3,690 บาท
มือถือซีรีส์ Y สเปกสุดคุ้มอีกรุ่น จัดอยู่ในกลุ่มมือถือระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่อยากได้มือถือที่มีสเปกคุ้มค่า ดีไซน์สวยงาม ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.09 นิ้ว ความละเอียด HD+ Dewdrop display (ติ่งทรงหยดน้ำ) ใช้ซีพียู MediaTek Helio A22 MT6761 2.0GHz Quad-Core, จีพียู PowerVR Rogue GE8300, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD สูงสุด 512GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ แต่แทนที่ด้วยการปลดล็อกด้วยใบหน้า และมีแบตเตอรี่ 3,020mAh
ราคาประมาณ 4,190 บาท
11. LG Q9 One
มือถือ Android One สำหรับสายเพียวในเกาหลีใต้ มาพร้อมหน้าจอ 6.1 นิ้ว QHD+ อัตราส่วน 19.5:9 FullVision display, ซีพียู Snapdragon 835, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 2TB, กันน้ำกันฝุ่น IP68, กันกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD 810G, ระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC พร้อมลำโพง Boombox, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.6 ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, แบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับ Quick Charge 3.0
ราคาประมาณ 16,690 บาท
12. Moto G7 G7, G7 Plus, G7 Power และ G7 Play
มือถือซีรีส์ Moto G รุ่นใหม่ เริ่มต้นที่ Moto G7 และ G7 Plus มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว Max Vision ความละเอียด Full HD+ และ 3D glass รุ่น G7 Plus ใช้ซีพียู Snapdragon 636, ส่วนรุ่นที่เหลือจะใช้ซีพียู Snapdragon 632 ทั้งหมด, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังทุกรุ่น, ใช้พอร์ต USB Type-C Port และตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้กันน้ำหก, เหงื่อ และละอองฝน Moto G7 Plus มีกล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75, กันสั่น OIS, รองรับ AI Smart Composition และ Auto-Smile แบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 27 วัตต์ TurboPower เคลมว่าชาร์จแค่ 15 นาที ใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมง ส่วนรุ่น Moto G7 Power มาพร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับชาร์จเร็ว TurboPower
ราคาประมาณ 10,900 บาท
มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Y มีสเปกและดีไซน์เหมือนกับ Huawei Y7 Pro 2019 มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด HD+ หน้าจอทรงหยดน้ำ (HUAWEI Dewdrop display), อัตราส่วน 19:9, ใช้ซีพียู Snapdragon 450 Octa-Core, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ AI Scene Detection และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้ 2 วัน วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก แต่ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้าแทน
ราคายังไม่เปิดเผย
14. Huawei nova lite 3
มือถือระดับกลางที่มีสเปกและดีไซน์เหมือนกับ Huawei P Smart 2019 ทำตลาดในประเทศแถบยุโรป เปิดตัวเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2561 ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ทรงหยดน้ำ (Waterdrop notch) อัตราส่วน 19:5:9, สัดส่วนของขนาดจอและขนาดเครื่อง 90%, ซีพียู Kirin 710, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ GPU Turbo 2.0, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, f/1.8 รองรับ AI portraits และ AI scene detection, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, รองรับ AI selfies, ตัวเครื่องไล่เฉดสี, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,400mAh
ราคาประมาณ 7,790 บาท
15. Redmi Go
Redmi ประกาศเปิดตัว Redmi Go มือถือรัน Android Go รุ่นแรก เป็นมือถือระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่อยากได้มือถือใช้งานแบบทั่ว ๆ ไป ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด HD, ซีพียู Snapdragon 425, แรม 1GB, หน่วยความจำ 8GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, รัน Android 8.1 Oreo (Go edition) และแบตเตอรี่ 3,000mAh
ราคาประมาณ 2,890 บาท
16. Nokia 2V
มือถือ Android Oreo (Go edition) ระดับล่าง ราคาถูก มีสเปกเหมือนกับ Nokia 2.1 มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD, อัตราส่วน 16:9, ซีพียู Snapdragon 425, แรม 1GB, หน่วยความจำ 8GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเหมือนเดิมวัสดุโพลีคาร์บอเนต เปลี่ยนแค่สีสันเล็กน้อย และจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ แบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้นาน 2 วัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่
ราคายังไม่เปิดเผย
17. Samsung Galaxy M10 และ Galaxy M20
มือถือซีรีส์ Galaxy M ใหม่ของแบรนด์ Samsung จัดอยู่ในกลุ่มมือถือราคาประหยัด ระดับเริ่มต้น มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอใหญ่แบบ Infinity-V เป็นติ่งรูปตัว V และกล้องหลังคู่เลนส์มุมกว้าง (Wide) 120 องศา โดย Galaxy M20 มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และใช้ซีพียู Exynos 7904 Octa-Core 14nm
ส่วนทางด้าน Galaxy M10 มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีพื้นที่การใช้งานถึง 90% ใช้ซีพียู Exynos 7870 14nm Octa-Core รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Samsung Experience 9.5 UX ด้านความปลอดภัย Galaxy M20 มีทั้งสแกนใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ ส่วน Galaxy M10 มีปลดล็อกด้วยใบหน้าเพียงอย่างเดียว และแบตเตอรี่ของ Galaxy M20 มีความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว ส่วน Galaxy M10 มีแบตเตอรี่ความจุ 3,400mAh
ราคาประมาณ 3,590 บาท (Galaxy M10) และ 4,890 บาท (Galaxy M20)
18. Realme C1 (2019)
Realme C1 (2019) มือถือราคาประหยัดอัปเกรดสเปกเพิ่มแรม 3GB หน่วยความจำ 32GB สานต่อจาก Realme C1 (2018) โดยรุ่นนี้จะเริ่มลุยตลาดมือถืออินเดียก่อนเป็นที่แรก มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยบาก คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.8% ใช้ซีพียู Snapdragon 450, แรม 2GB/3GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย ColorOS 5.1, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า และแบตเตอรี่ความจุ 4,230mAh
ราคาประมาณ 3,790 บาท
19. Samsung Galaxy A9 Pro (2019)
Galaxy A9 Pro (SM-G887N) หรือ Galaxy A8s (SM-G8870) ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ในประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม 2561 มาพร้อมหน้าจอแบบ Infinity-O ซึ่งเป็นการเจาะรูไว้ที่มุมหน้าจอเพื่อฝังกล้องหน้าลงไป ทำให้ไม่ต้องมีติ่งหรือขอบจอด้านบน ได้หน้าจอแบบไร้ขอบเต็ม ๆ โดยหน้าจอจะมีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2,340 x 1,080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9 ขนาดรูกล้องมุมจอ 6.7 มม. ใช้ซีพียู Snapdragon 710, แรม 6GB, กล้องหลัง 3 เลนส์ ได้แก่ กล้องตัวหลัก 24 ล้านพิกเซล, f/1.7, ตัวที่สอง 10 ล้านพิกเซล (Telephoto), f/2.4, ซูม 2x optical zoom, กล้องตัวที่สาม 5 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บระยะชัดลึกของภาพ ส่วนกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล, f/2.0 ด้านหลังวัสดุเป็นกระจก มีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 3,400mAh รองรับชาร์จเร็ว
ราคาประมาณ 16,900 บาท
20. Vivo APEX 2019
คอนเซ็ปต์มือถือแห่งโลกอนาคต ที่ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ บนตัวเครื่องเลย เหมือนกับ Meizu Zero ทุกอย่างใช้การสัมผัสและการชาร์จไร้สาย ส่วนด้านสเปกก็เว่อร์วังอลังการตามสไตล์คอนเซ็ปต์มือถือ ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ ซีพียูตัวแรง Snapdragon 855, แรม 12GB, รองรับ 5G พร้อม eSIM, หน่วยความจำ 256GB และ 512GB, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody 3D ใช้วัสดุเป็นกระจกที่ไร้รอยต่อ ทำให้ดูสวยงามพรีเมียม มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถสแกนตรงบริเวณไหนก็ได้ และยังสามารถสแกนได้ 2 นิ้วพร้อมกันอีกด้วย รอบ ๆ ตัวเครื่องไม่มีปุ่มใด ๆ เลย ทุกอย่างใช้การสัมผัส ส่วนระบบเสียงใช้การสั่นด้วยเทคโนโลยี Body SoundCasting ทำให้เกิดเสียงออกมาจากด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง กล้องหลังคู่ 12 + 13 ล้านพิกเซล และระบบชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก
ราคายังไม่เปิดเผย
21. Meizu Zero
มือถือแนวใหม่ที่มาแบบดีไซน์ไร้ปุ่มไร้พอร์ต โดยทั้งตัวเครื่องจะไม่มีช่องใด ๆ ทั้งสิ้น ปุ่ม Power และปุ่ม Volume ด้านข้างก็จะใช้แบบสัมผัสแทน แม้แต่ช่องใส่ซิมก็ไม่มีเพราะใช้ eSIM แทน ส่วนลำโพงนั้นก็จะเป็นแบบฝังในหน้าจอแทน เรียกได้ว่าทั้งตัวเครื่องจะไม่มีช่องหรือรูใด ๆ เลยแม้แต่รูเดียว สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะเป็นการชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น โดยมีกำลังไฟในการชาร์จ 18W ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่ชาร์จไร้สายได้เร็วที่สุดในขณะนี้ ส่วนการถ่ายโอนข้อมูลจะเป็นแบบไร้สายหรือผ่านเน็ตเท่านั้น
ราคายังไม่เปิดเผย
22. Vivo Y89
มือถือซีรีส์ Y รุ่นใหม่ สเปกสุดคุ้มอีกรุ่น โดยรุ่นนี้ยังคงเจาะกลุ่มผู้ใช้มือถือระดับกลางที่ต้องการมือถือสุดคุ้ม ราคาประหยัด ด้านสเปกบางส่วนคล้ายกับ Vivo Z1 Youth Edition ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบาก (notch) มีพื้นที่การใช้งาน 90% ของพื้นที่ตัวเครื่องทั้งหมด ใช้ซีพียู Snapdragon 626, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.0, กล้องหลัง 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 3,260mAh
ราคาประมาณ 7,490 บาท
23. Vivo Y91
มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Y ต่อจาก Vivo Y91i โดยมีสเปกคล้ายกันบางส่วน พร้อมกับขยับราคาขึ้นเล็กน้อย มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.22 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 88.6% ใช้ซีพียู MediaTek MT6762R (Helio P22), แรม 3GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD, รัน Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ราวกับมืออาชีพ พื้นหลังเบลออย่างเป็นธรรมชาติ, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด, รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake), สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 4,030mAh
ราคา 5,999 บาท
หลังจากเปิดตัว Vivo Z3 ไปแล้ว Vivo ก็ส่ง Vivo Z3i Standard Edition ลงสู่ตลาดอีกรุ่น โดยรุ่นนี้มีสเปกคล้ายกับ Vivo V11i มาหน้าจอแบบ Halo FullView Display มีรอยเว้าขนาดเล็กคล้ายกับหยดน้ำ ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 ใช้ซีพียู MediaTek Helio P60, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย FunTouch OS 4.5, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,315mAh
ราคาประมาณ 9,390 บาท