5 ความเจ๋งที่น่าจับตามองของ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro มีอะไรบ้างมาดูกัน
เป็นที่สนใจไม่ใช่น้อยเลยสำหรับมือถือ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ที่เพิ่งเปิตตัวไปหมาด ๆ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่กล้อง 3 เลนส์ พร้อมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปชม 5 จุดเด่นเจ๋ง ๆ ของ Mate 20 ทั้ง 2 รุ่นนี้กันว่ามีอะไรบ้าง
1. ติ่งเล็กติ่งใหญ่เลือกได้
.jpg)
เนื่องจาก Mate 20 ไม่มีเซ็นเซอร์สแกน 3D อย่างรุ่น Mate 20 Pro ทำให้มีติ่งหรือรอยบากเล็กกว่า เป็นแค่ติ่งรูปหยดน้ำเล็ก ๆ กลางจอเท่านั้น ทำให้สามารถเลือกได้ตามความชอบและความต้องการ ว่าอยากได้แบบไหนมากกว่าระหว่างติ่งเล็กกับเซ็นเซอร์สแกน 3D
2. กล้อง LEICA 3 เลนส์
ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกล้อง LEICA แบบ 3 เลนส์ ซึ่งถือว่าเป็นเพียงไม่กี่รุ่นในตลาดตอนนี้เท่านั้นที่มีกล้อง 3 เลนส์ โดยกล้องของ Mate 20 นั้นจะประกอบไปด้วย เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, เลนส์ 3x Telephoto 8 ล้านพิกเซล มี OIS รูรับแสง f/2.4 และเลนส์ Ultra-wide 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ส่วน Mate 20 Pro นั้นจะเป็น เลนส์หลัก 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, เลนส์ 3x Telephoto 8 ล้านพิกเซล มี OIS รูรับแสง f/2.4 และเลนส์ Ultra-wide 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
3. ชิป Kirin 980 และ Dual NPU
Mate 20 และ Mate 20 Pro เป็นมือถือรุ่นแรกที่ใช้ชิป Kirin 980 ซึ่งเป็นซีพียูที่แรงที่สุดของ Huawei ในขณะนี้ พร้อมทั้งแรมสูงสุดถึง 6GB ที่ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Mate 10 ถึง 75% แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่าถึง 58% อีกทั้งยังมี Dual NPU ที่ช่วยในการประมวลผลขณะถ่ายภาพได้เร็วขึ้นอีกด้วย
4. สแกนใบหน้าและสแกนนิ้วในจอ
ถึงแม้ว่า Mate 20 Pro จะมีรอยบากที่ใหญ่กว่า แต่นั่นก็เป็นเพราะมันมีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนใบหน้า 3D ซึ่งสามารถปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนใบหน้าได้เร็วกว่า Mate 10 Pro ถึง 30% รวมทั้งลูกเล่นอื่น ๆ อย่างการสแกนวัตถุ 3D หรือสร้าง Live Emoji นอกจากนี้ก็ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังในหน้าจอที่ไม่ค่อยมีในมือถือรุ่นอื่น ๆ อีกด้วย
5. ชาร์จเร็ว ชาร์จไร้สาย ชาร์จให้เครื่องอื่นได้
นอกจากแบตเตอรี่ของ Mate 20 และ Mate 20 Pro จะมีขนาดใหญ่ถึง 4,000mAh และ 4,200mAh แล้ว ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 40W สามารถชาร์จได้ถึง 70% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น รวมทั้งรองรับชาร์จไร้สายที่กำลังไฟ 15W และสำหรับ Mate 20 Pro ยังสามารถทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จแบบไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ Qi ได้อีกด้วย
ภาพจาก androidauthority
