10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนพฤศจิกายน 2560 มีรุ่นไหนบ้าง ?

          10 มือถือมาแรงน่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน มีให้เลือกหลายราคา มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย

          สวัสดีเดือนพฤศจิกายน เริ่มนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปี 2560 เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่อีกแล้ว เช่นเดียวกับตลาดมือถือที่ยังคงคึกคักมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่ายกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีทั้งมือถือใหม่ และมือถือที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดออกวางจำหน่ายมากมายหลายรุ่น หลายราคา หากกำลังตัดสินใจถูก ไม่รู้ว่าเลือกซื้อรุ่นไหนดี รวมถึงงบประมาณในกระเป๋าที่มีค่อนข้างจำกัด

         วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อน่าใช้ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

1. iPhone X

          ยุคใหม่ของ iPhone ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone X (ไอโฟนเท็น) มาพร้อมจอ Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว OLED ใช้สเปคเดียวกับ iPhone 8 มาพร้อมซีพียูตัวใหม่ A11 Bionic แบบ 6 แกน ที่มาพร้อมคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซึ่งเร็วกว่าซีพียู A10 Fusion ถึง 70% และคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 25% ส่วนจีพียูเร็วขึ้น 30% กล้องของ iPhone X ตัวเดียวกับ iPhone 8 Plus แต่มีการปรับขนาดรูรับแสงให้มีขนาดกว้างขึ้นอยู่ที่ f/1.8 และ f/2.4 มาพร้อมฟิลเตอร์สีใหม่ พิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ที่มาพร้อมระบบ OIS ทั้งสองเลนส์ มีแฟลช LED True Tone 4 ตัว และมี Portrait Mode และ Portrait Lighting นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไร้สาย และลูกเล่นใหม่ Animoji อีโมจิขยับตามใบหน้าได้

ราคา 40,500 บาท (ความจุ 64GB), 46,500 บาท (ความจุ 256GB)

2. iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

          สำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่อัปเกรด และปรับปรุงมาจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่แอปเปิลไม่ได้ออก iPhone รุ่น S ออกมาวางจำหน่าย แต่แทนที่ด้วยเลขรุ่นใหม่แทน ยังคงใช้หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว แต่เปลี่ยนหน้าจอใหม่ Retina HD พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone เหมือนกับที่ใช้อยู่บน iPad Pro ส่วนบอดี้ยังคงเป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ ฝาหลังใช้วัสดุใหม่เป็นกระจกที่แอปเปิลเคลมว่าทนทานที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้ ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี คือ สีเทาสเปซเกรย์ สีเงิน และสีทอง, มาพร้อมซีพียูตัวใหม่ A11 Bionic แบบ 6 แกน ที่มาพร้อมคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซึ่งเร็วกว่าซีพียู A10 Fusion ถึง 70% และคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 25% ส่วนจีพียูเร็วขึ้น 30%, ลำโพงดังขึ้น 25%, กันน้ำกันฝุ่น, รองรับการชาร์จไร้สาย

ราคา iPhone 8 เริ่มต้นที่ 28,500 บาท, ราคา iPhone 8 Plus เริ่มต้นที่ 32,500 บาท (ราคา Apple Online Store) ราคาพร้อมแพ็กเกจ

3. Samsung Galaxy Note Fan Edition

          หลังจากเจอปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ จนทำให้ Galaxy Note 7 ไม่สามารถออกวางจำหน่ายได้ ล่าสุดซัมซุงได้นำ Galaxy Note 7 มาปรับปรุงแก้ไขปัญหา มาพร้อมกับชื่อใหม่ Samsung Galaxy Note Fan Edition (FE) มาพร้อมดีไซน์เดิมเหมือนกับ Galaxy Note 7 สเปคต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เรียกได้ว่าทางซัมซุงเอาใจแฟน ๆ ที่ยังชื่นชอบและอยากใช้งาน Galaxy Note 7 โดยทางซัมซุงได้ปรับขนาดแบตเตอรี่ใหม่เป็น 3,200mAh (ของเดิม 3,500mAh) และได้ใช้มาตรฐานการตรวจสอบเดียวกับ Galaxy S8 หมดปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เหมือนที่ผ่าน ๆ มาแน่นอน

ราคา 20,900 บาท

4. Huawei Mate 10 Pro

          มือถือเรือธงซีรีส์ Mate รุ่นใหม่ ประจำปี 2017 มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบแบบ FullView สัดส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม กล้องหลังคู่ที่ร่วมพัฒนากับ Leica เหมือนเดิม ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามด้วยวัสดุโลหะและกระจกแบบ 3D เพิ่มคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 และ IP53 รัน Android 8.0 (Oreo) ครอบทับด้วย Emotion UI 8.0 ตั้งแต่แกะกล่อง และชูจุดเด่นด้วยระบบ AI ที่ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ ฉลาดขึ้นผ่านชิปประมวลผล AI แบบแยกที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

          ด้านสเปคมาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว FullView OLED ความละเอียด Full HD+ สัดส่วน 18:9 ขอบกระจกโค้ง 2.5D, ซีพียู HiSilicon Kirin 970 10nm Octa-Core, i7 co-processor, ชิป NPU (Neural Network Processing Unit) สำหรับประมวลผล AI ในตัวเครื่อง, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 8.0 (Oreo) ครอบทับด้วย Emotion UI 8.0, กล้องหลังคู่ร่วมพัฒนากับ Leica ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (RGB) และ 20 ล้านพิกเซล (monochrome), รองรับการซูม 2 เท่าแบบ Hybrid Zoom, รูรับแสง f/1.6, dual-tone LED flash, Laser auto focus, กันสั่น OIS, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, รองรับ 4G VoLTE และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ SuperCharge

ราคา 27,900 บาท

5. OPPO F5

          มือถือเซลฟี่รุ่นใหม่ จาก OPPO มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18:9 ตามเทรนด์ ขอบจอโค้งบางเฉียบ และยังชูจุดเด่นที่กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่ช่วยจดจำ 200 จุดบนใบหน้า เพื่อช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ นอกจากนี้ยังมีปลดล็อกเครื่องด้วยระบบสแกนใบหน้า และมีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง ด้านสเปคใช้ซีพียู MediaTek Helio P23 16nm Octa-Core 2.5GHz, 800MHz ARM Mali G71 MP2 GPU, แรม 4GB, หน่วยความจำ 32GB, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, รัน Android 7.1 (Nougat) ครอบทับด้วย ColorOS 3.2 และแบตเตอรี่ 3,200mAh

ราคา 9,990 บาท

6. Xiaomi Redmi Note 5A

          มือถือซีรีส์ Redmi Note รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash เลนส์มุมกว้าง 76.4 องศา ใช้เซ็นเซอร์ของ OmniVision รูรับแสงกว้าง f/2.0 ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash รูรับแสงกว้าง f/2.2 และระบบโฟกัส PDAF ด้านสเปคมาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD, ซีพียูแบ่งตามรุ่นย่อย ได้แก่ ซีพียู Snapdragon 425, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 3,080 mAh ตัวเครื่องให้เลือก 3 สี คือ สีเทาเข้ม, สีทอง และสีโรสโกลด์

ราคา 4,290 บาท

7. Xiaomi Mi Max 2

          มือถือรุ่นที่ 2 สานต่อจากรุ่น Mi Max ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่ 6.44 นิ้ว และแบตเตอรี่อึดความจุ 5,300mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้นาน 2 วัน พร้อมกับ Quick Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-68% ในเวลา 1 ชั่วโมง ตัวเครื่องยังคงเลือกใช้วัสดุโลหะแบบ Unibody เพิ่มลำโพงคู่แบบสเตอริโอทั้งด้านบนและด้านล่างของหน้าจอ ด้านกล้องถ่ายภาพเลือกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX386 รุ่นเดียวกับ Xiaomi Mi 6 มีขนาดพิกเซล 1.25μm ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง ด้านสเปคอื่น ๆ ใช้ซีพียู Snapdragon 625, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB และรองรับ 2 ซิม

ราคา 9,490 บาท

8. Moto X4

          มือถือสเปคระดับกลางรุ่นใหม่ ดีไซน์ตัวเครื่องสวยหรูเงางาม ด้วยวัสดุอะลูมิเนียมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ซีพียู Snapdragon 630, แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รองรับ microSD สูงสุด 2TB, กล้องหลังคู่ 12+8 ล้านพิกเซล, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, รัน Android 7.1 (Nougat) และแบตเตอรี่ 3,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W TurboPower

ราคา 14,990 บาท

9. Gionee A1 Lite

          Gionee (จีโอนี่) แบรนด์มือถือชื่อดังจากจีนที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือที่มีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เอาใจคนชอบถ่ายเซลฟี่ มาพร้อมหน้าจอ 5.3 นิ้ว ความละเอียด HD, ซีพียู MediaTek MT6753 Octa-Core 1.3GHz, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 7.0 (Nougat) ครอบทับด้วย Amigo 4.0 UI, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะ, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh

ราคา 7,990 บาท

10. Wiko Robby 2

          ปิดท้ายด้วย Wiko Robby 2 มือถือหน้าจอใหญ่ โดดเด่นด้วยลำโพงคู่ด้านหน้าสเตอริโอ เสียงดังกระหึ่ม แถมมีโหมดเสียง 3 มิติ ช่วยให้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 210 Quad-Core 1.1GHz, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 64GB, รัน Android 7.1 Nougat, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie flash และโหมดถ่ายภาพมากมาย เช่น Auto-HDR, Live Filters, Time Lapse ช่วยครีเอทวิดีโอในสไตล์ตัวเอง ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 2,800mAh

ราคา 3,890 บาท

10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนตุลาคม 2560 มีรุ่นไหนบ้าง ?