10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนตุลาคม 2560 มีรุ่นไหนบ้าง ?

 

          10 มือถือมาแรงน่าซื้อน่าใช้ ประจำเดือนตุลาคม 2560 รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน มีให้เลือกหลายราคา มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลย

          สวัสดีเดือนตุลาคม เริ่มนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปี 2560 เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เช่นเดียวกับตลาดมือถือที่ยังคงคึกคักมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่ายกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ เดือนนี้มีทั้งมือถือใหม่ และมือถือที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดออกวางจำหน่ายมากมายหลายรุ่น หลายราคา หากกำลังตัดสินใจถูก ไม่รู้ว่าเลือกซื้อรุ่นไหนดี รวมถึงงบประมาณในกระเป๋าที่มีค่อนข้างจำกัด

          วันนี้กระปุกดอทคอมมีมือถือ 10 รุ่นที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตลาดมือถือ น่าซื้อน่าใช้ในประจำเดือนตุลาคม 2560 มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

1. Samsung Galaxy J7+

          อยากได้มือถือกล้องคู่แบบ Galaxy Note 8 แต่มีงบจำกัด ลองมองรุ่นนี้ Galaxy J7+ มือถือซีรีส์ J รุ่นใหม่ มาพร้อมกล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล และเป็นมือถือกล้องคู่รุ่นที่สองของซัมซุงต่อจาก Galaxy Note 8 นอกจากนี้ยังมีโหมด Live Focus ในกล้องหลัง และ Selfie Focus ในกล้องหน้าที่สามารถปรับระยะความเบลอของภาพได้ทีหลัง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น Multi Window แบ่งหน้าจอใช้งานสองแอปฯ ได้พร้อมกัน, Pop up window ที่สามารถเปิดหน้าจอพร้อมกันได้สูงสุดถึง 5 จอ, Bixby Home สร้างหน้าจอเฉพาะของคุณ ตามแอปฯ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้เป็นประจำ, Dual messenger แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว, Alway on Display, เก็บข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยด้วย Secure Folder และปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือ

ราคา 12,990 บาท

2. Sony Xperia XZ1

         สำหรับแฟน Sony ที่กำลังรอมือถือรุ่นใหม่ ล่าสุดส่ง Sony Xperia XZ1 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดมือถือไทยเรียบร้อย มาพร้อมสเปคสุดแรง และรัน Android 8.0 Oreo ตั้งแต่อยู่ในกล่อง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ 3D Creation ที่สามารถใช้กล้องสแกนใบหน้าหรือวัตถุแบบ 3 มิติ เพื่อนำมาสร้างเป็นตัว Avatar ได้ และอาจมีลูกเล่นที่ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำอย่างอื่นได้อีกอนาคต ด้านสเปค 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ซีพียู Snapdragon 835, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, กล้องหลัง 19 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68 และแบตเตอรี่ 2,700mAh รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย Qnovo Adaptive Charging

ราคา 22,990 บาท

3. Huawei nova 2i

          มือถือกล้อง 4 ตัว รุ่นแรกของ Huawei ที่ทำให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้นด้วยกล้องคู่ด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขอบชิดขอบที่ให้มุมมองกว้างขึ้นกว่าเดิม มีขนาดหน้าจอ 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สัดส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 83% ในอัตราส่วน 18:9 ส่วนตัวเครื่องมีดีไซน์หรูหราสวยงามแบบ Unibody พร้อมสเปคสุดคุ้ม ราคาโดนใจ ด้านสเปคใช้ซีพียู Kirin 659 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 265GB, รัน Android 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1 พร้อมใช้เทคโนโลยี Machine Leaning ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น และมีแบตเตอรี่ 3,340mAh ที่เคลมว่าสามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้นาน 7 ชั่วโมง

ราคา 10,900 บาท

4. vivo V7+

          มือถือซีรีส์ V รุ่นใหม่จาก vivo มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแบบใหม่ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 มีพื้นที่หน้าจอ 84.4% ขอบจอบางเฉียบเพียง 2.15 มิลลิเมตร นอกจากหน้าจอแบบใหม่แล้ว ทาง vivo ยังได้อัปเกรดกล้องหน้า โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มี LED flash ขาดไม่ได้กับโหมด Face Beauty 7.0 และโหมด Portrait ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส PDAF และ LED flash สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล (Ultra HD) ด้านสเปคใช้ซีพียู Snapdragon 450 14nm Octa-Core, รัน Android 7.1 (Nougat) ครอบทับด้วย FuntouchOS 3.2 พร้อมฟีเจอร์แบ่งหน้าจอ Smart Split 3.0 และ App Clone, รองรับ 2 ซิม, microSD, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง

ราคา 11,990 บาท

5. OPPO R9s Pro

          มือถือกล้องคู่รุ่นใหม่จาก OPPO มาพร้อมกล้องหน้าคู่ เอาใจคนชอบถ่ายเซลฟี่แบบ Groupfie ถ่ายภาพเซลฟี่เป็นกลุ่มที่ไม่ต้องกลัวตกเฟรม มีกล้องหน้าคู่ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX 398 ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 ด้านสเปคอื่น ๆ มีหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD, กระจกโค้ง 2.5D, กระจก Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 653 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รองรับ 2 ซิม แบบ Hybrid Dual SIM, รัน Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับด้วย ColorOS 3.0 และ แบตเตอรี่ 4,000mAh พร้อม VOOC Flash Charge ชาร์จเพียง 5 นาที คุยได้นานถึง 2 ชั่วโมง

ราคา 13,990 บาท

6. Nokia 3310 (3G)

          สำหรับใครที่ไม่อยากได้สมาร์ทโฟน แต่อยากได้ฟีเจอร์โฟนเอาไว้เป็นเครื่องสำรอง Nokia 3310 3G ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก มาพร้อมตัวเครื่องให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเหลือง สีแดง สีฟ้า และสีเทาดำ ตัวเครื่องทำจากวัสดุผิวด้าน และมีแป้นพิมพ์สีเงิน มีช่องว่างระหว่างปุ่มทำให้สามารถโทรศัพท์ ส่งข้อความและทวีตได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม การเชื่อมต่อใช้ระบบ 3G รองรับการสนทนาได้สูงสุด 6.5 ชั่วโมง สแตนด์บายได้ยาวนานถึง 27 วัน เล่นเพลงต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง และเล่นวิทยุ FM ต่อเนื่องนาน 35 ชั่วโมง รวมถึงเกมงูเวอร์ชั่นใหม่ที่ติดตั้งมาให้เล่นกันแบบเพลิน ๆ อีกด้วย

ราคา 1,790 บาท

7. Moto G5s Plus

          มือถือระดับกลางรุ่นใหม่จาก Motorola พร้อมอัปเกรดสเปคใหม่บางส่วน โดยเฉพาะเรื่องกล้องถ่ายภาพถูกอัปเกรดใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตัวเครื่องยังคงใช้บอดี้โลหะเคลือบสารกันน้ำ (nano-coating) อัปเกรดกล้องหลังคู่ความละเอียด 13+13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าจากเดิม 5 ล้านพิกเซล เป็น 8 ล้านพิกเซล ด้านสเปคมีหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD, กระจก Gorilla glass 3, ซีพียู Snapdragon 625 Octa-Core 2.0GHz, Adreno 506 GPU, แรม 4GB, หน่ววความจำ 32GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, รัน Android 7.1 (Nougat) และแบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับ TurboPower Charging ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมง

ราคา 9,990 บาท

8. Wiko View XL

          มือถือซีรีส์ใหม่จาก Wiko ชูจุดเด่นหน้าจออัตราส่วนใหม่ 18:9 ให้สัมผัสมุมมองที่กว้างกว่า เต็มตามากกว่า และยังจับได้ถนัดมือด้วยตัวเครื่องที่กะทัดรัด สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ ซีพียู Snapdragon 425 Quad-Core 1.4GHz Cortex-A53, GPU Adreno 308, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีโหมด Super Pixel ที่สามารถขยายภาพให้ใหญ่ถึง 52 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Flash มีโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอผ่าน Live filters และ Face beauty, มีสแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ 3,000mAh

ราคา 5,990 บาท

9. Gionee A1 Plus

          แบรนด์มือถือน้องใหม่สัญชาติจีน ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทั้งสเปคและราคาถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว สำหรับรุ่นนี้ Gionee A1 Plus มือถือกล้องคู่ พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล สเปคจัดเต็มหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ซีพียู MediaTek Helio P25 2.5GHz Octa-core, Mali-T880 GPU, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, กล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, PDAF, f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.06″, เลนส์ 5 ชิ้น, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล, f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8″, เลนส์ 5 ชิ้น พร้อม Selfie Flash และแบตเตอรี่ 4,550mAh รองรับ Fast Charging

ราคา 11,990 บาท

10. Xiaomi Mi A1

          มือถือรุ่นแรกของ Xiaomi ที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของกูเกิล โดยสเปคต่าง ๆ เหมือนกับ Xiaomi Mi 5X แต่ความพิเศษของมือถือรุ่นนี้ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2 (Nougat) แบบ Pure Android ไม่มีอินเทอร์เฟซมาครอบทับ และรองรับการอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่จากกูเกิลโดยตรง นอกจากนี้ยังรองรับการอัปเดต Android 8.0 (Oreo) อีกด้วย

          ด้านสเปคของ Xiaomi Mi A1 มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ขอบกระจกโค้ง 2.5D, ซีพียู Snapdragon 625 Octa-Core, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซลทั้งสองเลนส์ แบ่งเป็นเลนส์ Wide-angle และเลนส์ Telephoto สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยโหมด Portrait ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องดีไซน์สวย ใช้บอดี้โลหะ มีคุณสมบัติป้องกันรอยนิ้วมือได้ ตัวเครื่องมีขนาดบางเพียง 7.3 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 165 กรัม ด้านหลังตัวเครื่องมีสแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้มี DHS Audio ที่เป็นอัลกอริทึมปรับเสียง DHS เพื่อให้เหมาะกับเอาต์พุตลำโพงหรือหูฟัง และ SOC (Standalone Audio Amplifier) แอมป์ที่ช่วยในการขยายเสียง

ราคา 7,990 บาท

10 มือถือน่าซื้อน่าใช้ เดือนกันยายน 2560 มีรุ่นไหนบ้าง ?