13 ฟีเจอร์เด็ดของ iPhone X มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้างมาดูกัน
รอกันมานาน ในที่สุดก็ได้เปิดตัวเสียทีสำหรับ iPhone รุ่นครบรอบ 10 ปี ซึ่งทางแอปเปิลได้ตั้งชื่อรุ่นนี้ว่า iPhone X (ไอโฟนเท็น) โดยในรุ่นนี้ได้มีการปรับปรุงและเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้าไปพอสมควรเลยทีเดียว และแน่นอนว่าทางเว็บไซต์ Phone Arena ก็ไม่พลาดที่จะนำฟีเจอร์เด่น ๆ ของ iPhone X มาสรุปให้ได้อ่านกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
1. บอดี้ตัวเครื่องที่เป็นกระจกเหมือนสมัย iPhone 4 โดยทั้งเครื่องจะเป็นกระจกทั้งหมด ยกเว้นขอบเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม
2. หน้าจอไร้ขอบแบบ Edge-to-Edge เช่นเดียวกับมือถือระดับเรือธงหลายรุ่นในยุคนี้
3. กล้องคู่แนวตั้ง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และ f/2.4 พร้อมฟิลเตอร์สีใหม่ พิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ที่มาพร้อมระบบ OIS ทั้งสองเลนส์ มีแฟลช LED True Tone 4 ตัว ส่วนวิดีโอรองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K 60fps
4. Portrait Mode และ Portrait Lighting ที่สามารถปรับโทนแสงของใบหน้าได้ในขณะถ่ายภาพและหลังถ่ายภาพได้ ช่วยทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นกว่าเดิม
5. Portrait Mode สามารถใช้งานกับกล้อง Facetime (กล้องหน้า) ได้แล้ว ถ่ายเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอได้สวยดั่งใจ
6. ซีพียูตัวใหม่ A11 Bionic แบบ 6 แกน ที่มาพร้อมคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซึ่งเร็วกว่าซีพียู A10 Fusion ถึง 70% และคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 25% พร้อมโปรเซสเซอร์ร่วม M11 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว
7. Face ID ฟีเจอร์สแกนใบหน้าที่มาแทน Touch ID ทำงานร่วมกับกล้องหน้า TrueDepth เพื่อการจดจำใบหน้า สามารถใช้ปลดล็อกเครื่อง, ซื้อสินค้าผ่าน Apple Pay และซื้อแอปฯ ด้วยการฉายจุดแสงที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นกว่า 30,000 จุดบนใบหน้า จากนั้นกล้องอินฟราเรดจะอ่านรูปแบบจุดบนใบหน้า แล้วส่งข้อมูลไปยัง Secure Enclave ในชิป A11 Bionic เพื่อยืนยันใบหน้าที่ตรงกัน
8. หน้าจอ Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว OLED เกือบไร้ขอบ ความละเอียด 2,436 x 1,125 พิกเซล (458ppi), การแสดงผลแบบ True Tone, มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 1,000,000 ต่อ 1, รองรับการแสดงผล HDR ทั้งมาตรฐาน Dolby Vision, HDR10 และมี 3D Touch ในตัว
9. ลำโพงระบบเสียงสเตอริโอที่ถูกปรับปรุงให้เสียงดังกว่าเดิมถึง 25%
10. ลูกเล่นใหม่ Animoji อีโมจิขยับตามใบหน้าได้ ด้วยการใช้กล้องหน้าสร้างอีโมจิที่ขยับใบหน้าตามใบหน้าของผู้ใช้พร้อมกับเสียงได้ และอัดเป็นวิดีโอเพื่อส่งผ่าน iMessage
11. รองรับ Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่า Bluetooth 4.2 เป็นสองเท่า รวมทั้งมีระยะการเชื่อมต่อที่ไกลกว่าเดิม
12. รองรับชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย Qi สามารถชาร์จกับแท่นชาร์จและแผ่นรองชาร์จ โดยแอปเปิลเรียกว่า AirPower สามารถชาร์จ iPhone, Apple Watch และ AirPods ได้
13. รองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 30 นาที
ภาพจาก phonearena