OPPO R5 ที่สุดของสมาร์ทโฟนแห่งความหรูหรา และแข็งแกร่งในหนึ่งเดียว

 

OPPO R5

 

          สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล R จาก OPPO ที่มีจุดขายอยู่ตรงที่ความหรูหราด้วยบอดี้ตัวเครื่องโลหะ และ R5 เปิดตัวมาพร้อมขนาดความบางเพียง 4.85 มม. ถ้ายังนึกไม่ออกว่า R5 บางขนาดไหน ลองหยิบเหรียญบาทมาซ้อนกัน 4 เหรียญ นั่นหล่ะครับความบางของเจ้า R5 เป็นสมาร์ทโฟนที่หรูหราเพรียวบางสะดุดตามมากๆ ช่วงที่ได้รับตัวเครื่องมารีวิว ใครได้เห็นก็มักจะขอดู หลายคนก็บอกว่าสวยจริง บางจริงๆ อะไรประมาณนี้

 

OPPO R5


          นอกจากความบางที่สะดุดตาแล้ว ดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องก็ต้องบอกว่าสะดุดใจมาก คือตอนแรกที่ได้เห็นตัวเครื่องที่บางเฉียบ บวกกับขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วซึ่งค่อนข้างใหญ่ แบบนี้จะหยิบจับใช้งานถนัดมือหรือเปล่า แต่พอลองใช้งานจริงรู้สึกได้เลยว่าหยิบจับได้ถนัดมือด้วยการออกแบบให้ขอบข้างตัวเครื่องมีมุมลาดเอียงนิดๆ รับกับฝ่ามือได้ดี จับถือได้กระชับและมั่นใจว่าไม่หลุดมือ ที่ชอบที่อย่างคือขอบข้างตัวเครื่องที่โชว์ผิวโลหะ Stainless Steel ให้ผิวสัมผัสที่ราบลื่นนุ่มนวล รู้สึกได้ถึงความหรูหราเมื่อถือ R5 อยู่ในมือ

 

OPPO R5


          สเปคเบื้องต้นของ OPPO R5

 ขนาดหน้าจอ    5.2” AMOLED
 ความละเอียดหน้าจอ    1,920x1,080 (424 ppi)
 ระบบปฏิบัติการ    ColorOS 2.0.0i (บนพื้นฐานของ Android 4.4 KitKat)
 CPU    Qualcomm Snapdragon 615 – Octa Core 1.5GHz
 RAM / หน่วยความจำภายใน    2GB / 16GB (ไม่สามารถขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD)
 กล้อง    กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช (ถ่ายภาพ 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD) กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
 เครือข่าย 3G    850 / 900 / 1900 / 2100MHz (รองรับ 3G ของ DTAC, Truemove H, AIS)
 เครื่องข่าย 4G    รองรับ
 Battery    2,000mAh
 สีให้เลือกซื้อ    ตัวเครื่องขาว ขอบข้างสีทอง , ตัวเครื่องขาว ขอบข้างสีเงิน


จุดเด่นของ OPPO R5

* โครงสร้างตัวเครื่อง Stainless Steel หรูหรา  แข็งแกร่งทนทาน
* เพรียวบางเพียง 4.85 มม. แต่หยิบจับได้กระชับมือ
* ประสิทธิภาพแรงเพียงพอที่จะรองรับทุกแอพทุกเกมได้อย่างลื่นไหล
* กล้องหน้า 5 ล้าน กล้องหลัง 13 ล้านถ่ายภาพสวย
* คุณภาพเสียงดีสำหรับการฟังเพลง

* ระบบชาร์จแบตฯ ไว VOOC mini
 

เพรียวบางแต่แข็งแกร่งสุดๆ

          ถึงแม้รูปทรงตัวเครื่องจะเพรียวบาง แต่ก็แข็งแกร่งและไม่บิดงอกันง่ายๆ อย่างแน่นอน ด้วยบอดี้ตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุโลหะ Stainless Steel ที่ผ่านกระบวนการชุบแข็งแบบ Micro-arc และเชื่อมประสานชิ้นส่วนบอดี้ด้วยลำแสงเลเซอร์ ทำให้ตัวเครื่องของ OPPO R5 มีความแข็งแรงสูงกว่าสมาร์ทโฟนบอดี้โลหะเครื่องอื่นๆ ถึง 60% เลยทีเดียว โดยในระหว่างช่วงเวลาการรีวิว ได้ลองพกตัวเครื่องยัดใส่กระเป๋าด้านหน้าของกางเกงยีนส์ แล้วทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ลุก เดิน นั่ง ก็ไม่พบว่าตัวเครื่องเกิดอาการงอแต่อย่างใด

คลิป OPPO R5 ทดสอบความแกร่ง!! มาดูกัน โพสต์โดย OPPO TH

 
          ถ้ายังนึกไม่ออกว่า OPPO R5 แข็งแกร่งขนาดไหน ลองดูคลิปวิดีโอนี้ที่เอาตัวเครื่อง R5 มาทดสอบแบบโหดๆ ใช้ขอบข้างตัวเครื่องที่บางๆ หั่นลูกแอปเปิ้ล หั่นลูกแตงโมแบบสุดแรง ใช้ขอบข้างตอกตะปูตัวโตๆ เข้าเนื้อไม้ โดยที่ขอบข้างยังคงเรียบเนียนไร้ริ้วรอย และที่โหดสุดๆ กับการวางให้ล้อรถเก๋งแล่นทับ แล้วยังหยิบขึ้นมาใช้งานได้ต่อเนื่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า OPPO R5 ที่บางเพียง 4.85 มม. แต่แข็งแกร่งทนทานได้ถึงขนาดนี้

 

OPPO R5


แกะกล่อง OPPO R5

          R5 บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสีดำทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสลบมุมโค้งมน ประดับด้านบนกล่องด้วยโลโก้ OPPO สีเงินเงางามที่ดูหรูดี เปิดฝาออกสิ่งแรกที่เจอคือเครื่อง OPPO R5 ที่นอนสงบนิ่งอยู่ภายใน ส่วนอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ นั้นซ่อนอยู่ชั้นในของกล่องอีกที อาทิ ชุดหูฟัง Handsfree , หนังสือคู่มือการใช้งานเล่มเล็กๆ , เข็มจิ้มถอดถาดใส่ซิม (Sim eject tool) , สาย USB , สายอะแดปเตอร์เสียบหูฟัง (หูฟังต้องเสียบผ่านสายนี้ จะพูดถึงรายละเอียดอีกครั้งในภายหลัง) และ อะแดปเตอร์แบบชาร์จไฟเร็ว (VOOC mini rapid charger)

 

OPPO R5

เรียบหรู ดูดี

          เป็นสมาร์ทโฟนที่มีเสน่ห์ชวนให้มอง ชวนให้ลองหยิบมาเล่น ด้วยมิติตัวเครื่องที่เพรียวบาง และการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ บนตัวเครื่องที่เรียบง่ายแต่ก็ลงตัวดี  มีตัวเครื่องให้เลือกซื้อ 2 สี คือตัวเครื่องสีขาว คาดขอบข้างสีทอง และตัวเครื่องสีขาว คาดขอบข้างสีเงิน ด้านหน้าตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของจอ LCD แบบ AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1,920x1,080 ความแน่นของเม็ดสี 424 ppi) หน้าจอให้การแสดงผลที่ละเอียดเนียนตา แสดงสีสันได้อิ่มเข้ม เปิดดูภาพในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ภาพในอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ต่างๆ ได้สวยงามดีเหนือหน้าจอเป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสำหรับการสนทนาโทรศัพท์ โดย OPPO R5 ให้เสียงสนทนาที่ชัดเจนดีทั้ง 2 ฝั่ง ถัดมาทางขวาเป็นเลนส์ของกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมโหมดการถ่ายแบบฟรุ้งฟริ๊ง (Beauty Mode) ปรับแต่งโทนภาพให้หล่อให้สวยกันได้หลายแบบ อาทิ โทนญี่ปุ่น , ความทรงจำ , สายรุ้ง และโทนภาพขาวดำ เป็นต้น ถ่ายเซลฟี่ได้สนุกกว่าที่เคย และใต้หน้าจอเป็นตำแหน่งของ 3 ปุ่มมาตรฐานสำหรับแอนดรอยด์โฟน ไล่เรียงจากซ้ายไปขวาเริ่มด้วยปุ่ม Menu , Home และ Back

 

OPPO R5

          ด้านหลังตัวเครื่องก็สวยงามดูดีมากๆ สำหรับตัวเครื่องรุ่นขอบข้างสีทอง แผ่นหลังตัวเครื่องตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ตัดกับโลโก้ OPPO สีทอง และสำหรับรุ่นตัวเครื่องขอบข้างสีเงิน แผ่นหลังตัวเครื่องจะโชว์ผิวสีเงินเนื้อทราย ตัดกับโลโก้ OPPO สีเงินเงางาม บริเวณขอบบนซ้ายของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช

 

OPPO R5

          ขอบข้างขวาตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่ม Volume เพิ่ม/ลด เสียง และปุ่ม Power เปิด/ปิดหน้าจอ

 

OPPO R5
 
          ขอบข้างซ้ายตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของถาดใส่ซิมขนาด Micro ที่ต้องใช้เข็มที่แถมมาให้เพื่อจิ้มถอดถาดใส่ซิม

 

OPPO R5


          ขอบล่างตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องเสียบสาย USB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือเสียบเพื่อโอนไฟล์กับเครื่องคอมฯ ถัดมาทางด้านขวาจะเห็นรูเล็กๆ ซึ่งเป็นช่องไมค์สำหรับการสนทนาโทรศัพท์
 

 

OPPO R5

 

OPPO R5 


แรงลื่น เล่นได้ทุกแอพทุกเกม

          พลังการประมวลผลจากชิป Snapdragon 615 แปดแกนประมวลผลความเร็ว 1.5GHz พร้อมด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ 64 บิต แอบซ่อนอยู่ในเรือนร่างที่แบนบางของ OPPO R5 และติดตั้งหน่วยความจำ RAM ขนาดใหญ่ 2GB ในส่วนของหน่วยความจำภายในตัวเครื่องสำหรับการติดตั้งแอพฯ เก็บภาพถ่าย และเก็บไฟล์เพื่อความบันเทิง มีขนาด 16GB และไม่สามารถขยายหน่วยความจำเพิ่มเติมได้ด้วยการ์ด microSD แต่ขนาดหน่วยความจำภายใน 16GB ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานขุมพลังการประมวลผลจากซีพียู 8 แกน Snapdragon 615 บวกกับแรมขนาดใหญ่ 2GB ทำให้ OPPO R5 รองรับการใช้งานกับแอพทุกระดับได้อย่างลื่นไหล การท่องเว็บด้วยแอพ Chrome ให้การเปิดแสดงหน้าเว็บได้รวดเร็วทันใจดี การเรียกดูสลับไปมาระหว่างหน้าเพจต่างๆ ที่เปิดค้างไว้ก็ทำได้อย่างลื่นไหล การเปิดสลับไปมาระหว่างแอพ Facebook กับแอพ Line ก็ทำได้อย่างลื่นไหล ไม่ต้องเสียเวลารอเปิดแอพกันนานๆ ให้เกิดอาการหงุดหงิด 
รองรับการเชื่อมต่อไร้สายครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บลูทูธ 4.0LE , Wi-Fi 802.11 b/g/n , 3G ในคลื่นความถี่ 850 / 900 / 1900 / 2100MHz และรองรับ 4G LTE ด้วย

 

OPPO R5 


          ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark [ภาพซ้าย] ทำไปได้ 27,835 คะแนน นับว่าชิป Snapdragon 615 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป Snapdragon 400 แต่ประสิทธิภาพก็ยังไม่สูงเท่าชิป Snapdragon 801 ส่วนในภาพกลางเป็นผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ Quadrant Standard ทำไปได้ 15,914 คะแนน และภาพขวาเป็นผลการทดสอบด้วยแอพ AnTuTu Tester พบว่าหน้าจอรองรับการแตะสัมผัสได้ถึง 10 จุด โดยที่ไม่มีปัญหาการแตะไขว้

 

OPPO R5 

          OPPO R5 ไม่ทำให้ Gamer หรือคนที่ชอบเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนต้องผิดหวัง  เพราะประสิทธิภาพดีพอที่จะรองรับการเล่นเกมได้ทุกรูปแบบ แสดงกราฟิกและสีสันในเกมได้สดใสสวยงามดี ลองทดสอบด้วยเกมเบาๆ น่ารักๆ อย่าง Line Trio ให้การเล่นเกมที่ลื่นไหล และกับเกม 3D ที่ต้องการเครื่องสเปกแรงๆ อย่างเกมขับรถซิ่ง Asphalt 8: Airborne และเกมแอคชั่นต่อสู้สุดมันส์กราฟิกสวยๆ อย่างเกม Batman : Arkham Origins ด้วยประสิทธิภาพของชิปกราฟิก Adreno 405 ให้การแสดงกราฟิกในเกม 3D ได้สวยงามลื่นไหล และสามารถโหลดเกมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเปิดเล่นได้รวดเร็วดีมากๆ


เสียงแน่น ฟังเพลงสนุก

OPPO R5

OPPO R5

OPPO R5

OPPO R5

          การเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับ OPPO R5 ต้องทำผ่านสายแปลงหูฟังที่เสียบผ่านพอร์ต USB ของตัวเครื่อง (สายแปลงหูฟังมีแถมมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม) แต่ก็ยังมีข้อกำกัดอยู่เล็กน้อย ตรงที่เวลาเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จแบต หรือเวลาที่เสียบสาย USB ถ่ายโอนข้อมูลกับเครื่องคอมฯ จะไม่สามารถเสียบสายหูฟังได้ (เนื่องจากพอร์ต  USB ของตัวเครื่องถูกเสียบใช้งานอยู่แล้ว) แต่ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้งานกับอุปกรณ์เสริม O-Music (ต้องซื้อเพิ่ม) ที่ออกแบบมาสำหรับ R5 ให้ทำหน้าที่เป็นบลูทูธเฮดเซ็ต และตัวกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแบบไร้สายอุปกรณ์ในเดียว ซึ่งจากการลองใช้งาน OPPO R5 เข้าคู่กับ O-Music ก็พบว่าเป็นส่วนประกอบที่ลงตัว และทำให้การใช้งาน R5 สะดวกขึ้นอีกเยอะเลย ให้คุณภาพเสียงในการฟังเพลงที่ดี และยังสามารถกดรับสายโทรศัพท์ กดเพิ่ม/ลดเสียง กดให้เล่นข้ามเพลงได้โดยตรงจาก O-Music

 

OPPO R5

          O-Music ขนาดกะทัดรัด หนีบติดกับเสื้อผ้าได้ ฟังเพลงจาก OPPO R5 ผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธ
OPPO R5 ตอบสนองความต้องการของคนที่ชอบฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มอารมณ์ และมีเอฟเฟกต์เสียง Dirac HD ที่ให้โทนเสียง Surround เพิ่มความโอบล้อมของมิติเสียง และยังช่วยเพิ่มความหนักแน่นของเสียงเบสอีกด้วย สำหรับนักฟังเพลงที่อยากสัมผัสกับคุณภาพเสียงที่แท้จริงของ R5 ให้ลองปิดเอฟเฟกต์เสียง Dirac HD ก็จะพบว่าเนื้อเสียงของ R5 ออกไปในโทนอบอุ่นด้วยเสียงเบสที่หนักแน่น ฟังเพลงแนวแด๊นซ์ หรือเพลงแนวร็อคที่ต้องการเบสหนักๆ ได้อย่างสนุกสนาน โดยที่ยังคงเป็นเสียงเบสที่มีคุณภาพ ไม่ออกอาการเบสบวมไปดังกลบเสียงในย่านอื่นๆ
ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงร้องออกมาได้ชัดเจนมีน้ำมีนวลน่าฟัง รายละเอียดเสียงสูงถ่ายทอดออกมาได้สดใสกรุ๊งกริ๊งน่าพอใจ ช่วยปรุงแต่งอรรถรสในการฟังเพลงได้ดี บทสรุปสำหรับการฟังเพลงด้วย R5 ผ่านชุดหูฟัง คือรองรับการฟังเพลงได้หลากหลายแนว และเด่นเป็นพิเศษสำหรับการฟังเพลงแนวแด๊นซ์ และเพลงร็อค 
มาพูดถึงเรื่องการฟังเพลงผ่านลำโพงที่ตัวเครื่องกันบ้าง ด้วยความที่ลำโพงสำหรับการเปิดฟังเพลงนั้นอยู่ในตำแหน่งเดียวกับลำโพงที่ใช้สนทนาโทรศัพท์ทางด้านหน้าตัวเครื่อง นับเป็นข้อดีเพราะเสียงจะไม่โดนปิดทับเหมือนอย่างสมาร์ทโฟนที่วางลำโพงไว้ทางด้านหลังตัวเครื่อง โทนเสียงของลำโพงออกไปในแนวนุ่มนวล เด่นด้วยเสียงร้อง ส่วนเสียงในโทนเบสทุ้มต่ำและโทนเสียงสูงค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว ลองเร่งเสียงไปที่ระดับสูงสุดก็ไม่เกิดอาการเสียงแตกพร่าแต่อย่างใด รองรับการเปิดฟังเพลงได้พอเพลินๆ

 

OPPO R5

ระบบชาร์จไว ในไซส์เล็กกว่าเดิม

          ใครที่ไม่ชอบรออะไรนานๆ จะต้องชอบระบบชาร์จไว VOOC rapid charge ซึ่งเป็นหนึ่งจุดขายหลักที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับท็อปของ OPPO และมีอยู่ใน R5 ด้วย แต่มาคราวนี้ดีกว่าเดิม เพราะมีการพัฒนามาเป็นระบบ VOOC mini charger กับอะแดปเตอร์เสียบชาร์จที่มีขนาดเล็ก ทำให้พกพาสะดวกกว่าอะแดปเตอร์ VOOC (วู๊ค) แบบเดิมมากๆ แต่ยังคงชาร์จเร็วเหมือนเดิม
ลองทดสอบดูสิว่า VOOC จะชาร์จแบตฯ เร็วจริงเหมือนอย่างที่สเปกระบุเอาไว้ว่าใช้เวลาแค่ 30 นาที ก็ชาร์จแบตได้เต็ม 75% หรือไม่ ทดสอบโดยการปล่อยให้แบตเตอรี่ลดเหลือ 5% แล้วเริ่มต้นการเสียบชาร์จด้วย VOOC mini charger เวลาผ่านไป 30 นาที ปรากฏว่าระดับแบตฯ ขึ้นมาที่ 75% พอดี และใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง กับอีก 6 นาที ก็ชาร์จแบตฯ จนเต็ม 100% ชาร์จเร็วกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ จริง สะดวกมากสำหรับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เร่งรีบ แต่ถ้าไปใช้อะแดปเตอร์ชาร์จอื่นที่ไม่ใช่ VOOC mini charger ก็จะใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนานเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป
และด้วยแบตเตอรี่ Li-ion ในตัวเครื่องขนาด 2,000mAh จากการทดลองใช้งานก็พบว่าความจุน้อยไปนิด อยู่ไม่ค่อยจะครบวัน สำหรับคนทำงานอาจเสียบชาร์จสักรอบก่อนนอน หรือเสียบชาร์จตอนก่อนออกไปทำงานในตอนเช้า และเสียบชาร์จอีกสักรอบก่อนออกจากออฟฟิศกลับบ้านในตอนเย็น หรือจะซื้อ Power Bank ติดตัวไว้ใช้งานสักก้อนก็ช่วยใช้อุ่นใจได้มากขึ้นว่าแบตฯ จะไม่หมดนอกสถานที่ (ถ้าจะให้ดีลองเลือกใช้ VOOC Power Bank ก็จะชาร์จแบตได้เร็วเหมือนกับการเสียบชาร์จผ่านอะแดปเตอร์ VOOC)

 

OPPO R5


 
สะดวกและสนุกกว่าที่เคยด้วย ColorOS 2.0

          OPPO R5 มาพร้อม ColorOS 2.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด (บนพื้นฐานของแอนดรอยด์ 4.4 KitKat) ที่มีการอัพเกรดความสามารถขึ้นในหลายๆ จุด โดดเด่นด้วยระบบ Gesture สั่งงานเครื่องได้อย่างรวดเร็วด้วยการเขียนเส้นบนหน้าจอ อย่างเช่นการลากเส้นตรงลงบนหน้าจอในขณะที่จอปิดอยู่ก็จะเป็นการเรียกเปิดแอพ Facebook หรือ Line ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหน้าจอแล้วไล่หาไอคอนแอพ หรือการเปิดล้องถ่ายภาพอย่างรวดเร็วแค่เพียงขยุ้มนิ้วบนหน้าจอ เป็นต้น

 

OPPO R5

          อีกหนึ่งสิ่งที่มีการปรับปรุงใน ColorOS 2.0 คือเอฟเฟกต์พื้นหลังหน้าจอแบบ Live Weather 2.0 [ภาพซ้าย] ที่แสดงเอฟเฟกต์สัมพันธ์กับสภาพอากาศในขณะนั้นได้ดูสวยและเพลินตากว่าเดิม อย่างเช่นในวันที่ท้องฟ้าสดใส บนพื้นหลังหน้าจอจะแสดงภาพประกายแดดระยิบระยับ และมีเครื่องบินกระดาษร่อนผ่านหน้าจอในบางจังหวะ หรือในวันที่ฝนฟ้าคะนอง บนพื้นหลังหน้าจอก็จะแสดงภาพฝนตก เมฆดำครึ้ม มีสายฟ้าแลบพร้อมเสียงฟ้าร้องดังมาเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ ColorOS 2.0 ยังมีลูกเล่นอื่นๆ ในหน้า Home Screen อีก ได้แก่ Widget เครื่องเล่นเพลงในรูปแบบของเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ดูแล้วก็สวยดี และ Widget ของกล้องถ่ายบันทึกภาพความประทับใจในรูปแบบของโปสการ์ด และสามารถแชร์โปสการ์ดให้เพื่อนๆ ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้


ใช้งานสะดวกด้วยมือข้างเดียว 

          หน้าจอขนาด 5.2 นิ้วของ OPPO R5 อาจใหญ่เกินไปสำหรับการใช้งานด้วยมือข้างเดียว การใช้งานในลักษณะจับถือตัวเครื่องด้วยสองมือจะถนัดกว่า แต่ในบางสถานการณ์ มืออีกหนึ่งข้างอาจไม่ว่างพอที่จะมาจับตัวเครื่อง เช่นขณะที่ยืนอยู่ในรถไฟฟ้า มือข้างหนึ่งต้องจับห่วงไว้เพื่อไม่ให้ล้ม หรือตอนที่กินขนมไปด้วยเล่นสมาร์ทโฟนไปด้วย เป็นต้น

 

OPPO R5

          เพื่อให้ชีวิตสะดวกขึ้น ระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0 ที่อยู่ใน R5 มาพร้อมโหมด “การใช้งานด้วยมือเดียว” ด้วยการย่อหน้าจอลงมาแสดงบริเวณมุมล่างขวา หรือมุมล่างซ้ายของหน้าจอ (ดังภาพประกอบด้านบน) ทำให้จับถือตัวเครื่องใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้สะดวกมากๆ นิ้วโป้งสามารถแตะพิมพ์ลงบนแป้นคีย์บอร์ด หรือแตะสั่งงานทั่วทุกบริเวณของหน้าจอได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ด้วยมือข้างเดียวกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย เป็นฟีเจอร์ของ ColorOS 2.0 ที่โดนใจมาก

 

OPPO R5

กล้องใหญ่ ถ่ายภาพสวย

          OPPO R5 อัพเกรดความละเอียดของกล้องหลังจากเดิม 8 ล้านพิกเซลในรุ่น R1 มาเป็นกล้อง 13 ล้านพิกเซลเทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของ OPPO บวกกับซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ Pure Image Engine 2.0+ ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ในการถ่ายภาพเข้าไปอีกเพียบ และผลจากการทดสอบถ่ายภาพที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ก็ได้ผลงานภาพถ่ายที่เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า OPPO R5 ถ่ายภาพได้สวย และไม่ทำให้คนที่ชอบถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนต้องผิดหวังอย่างแน่นอน และต่อไปก็เป็นภาพถ่ายสวยๆ จาก OPPO R5 ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 
          การถ่ายภาพดอกไม้ในระยะใกล้หรือที่เรียกกันว่าการถ่ายภาพแบบ Macro ก็สามารถถ่ายทอดสีสันของดอกไม้ออกมาได้สดใสสวยงามเป็นธรรมชาติ และเก็บรายละเอียดของภาพได้คมชัดดี

 

 

          สำหรับช่างภาพมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นที่ต้องการปรับแต่งค่าการถ่าย OPPO R5 ก็มีโหมดการถ่ายที่เรียกว่า “โหมดผู้เชี่ยวชาญ” ที่สามารถปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ (ปรับได้อยู่ในช่วง 0.5 – 32 วินาที หรือเลือกแบบ Auto) สามารถปรับค่าความไวแสง ISO (ปรับได้อยู่ในช่วง 100 – 1,600 หรือเลือกแบบอัตโนมัติ) และสามารถปรับค่าการชดเชยแสง (ปรับได้อยู่ในช่วง -2 ถึง +2) ซึ่งการปรับค่าชดเชยแสงนี้มีประโยชน์มาก ในกรณีที่ถ่ายภาพออกมาแล้วมืดเกินไป ก็ให้ถ่ายใหม่โดยปรับค่าการชดเชยแสงมาทางบวก ภาพก็จะสว่างขึ้น หรือในกรณีที่ถ่ายภาพออกมาแล้วสว่างเกินไป ก็ให้ถ่ายใหม่โดยปรับค่าการชดเชยแสงมาทางลบ ความสว่างของภาพก็จะลดลง ทำให้ได้ความสว่างของภาพที่กำลังดี

 


 
          OPPO R5 มีโหมดการถ่ายภาพแบบ Ultra HD ที่ให้ภาพความละเอียดเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซล สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยในภาพได้ดีมาก (Ultra HD เป็นการถ่ายหลายภาพๆ แล้วนำมารวมกันเข้าเป็นภาพความละเอียดสูงภาพเดียวโดยอัตโนมัติ) ในตัวอย่างภาพถ่ายแบบ Ultra HD ด้านบน สามารถขยายดูเพื่ออ่านชื่อภาพยนตร์ที่แปะอยู่บนป้ายบิลบอร์ดที่เห็นอยู่ไกลๆ ในภาพได้อย่างสบายๆ

 

 

OPPO R5 

 
เพิ่มความสวยงามแปลกตาให้กับภาพถ่ายยามค่ำคืนด้วยโหมดการถ่ายภาพแบบ “ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ” ที่สามารถตั้งความเร็วชัตเตอร์ได้ในช่วง 0.5 – 32 วินาที ดังตัวอย่างใน 2 ภาพถ่ายด้านบน โดยภาพบนถ่ายด้วยโหมดการถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพล่างนั้นถ่ายในโหมดความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ตั้งความเร็วไว้ที่ 2 วินาที สามารถเก็บแสงไฟจากรถที่วิ่งบนถนนเป็นเส้นสวยงามสะดุดตา

 

OPPO R5

บทสรุป OPPO R5

          สมาร์ทโฟนที่หรูหราดูดี เพรียวบางเพียง 4.85 มม. โครงสร้างตัวเครื่องผลิตจาก Stainless Steel ที่แข็งแกร่งไม่บิดงอเสียรูปทรงกันได้ง่ายๆ และแม้ตัวเครื่องจะบาง แต่ก็จับถือใช้งานได้ถนัดมือด้วยดีไซน์ที่ลงตัว และมีโหมดอำนวยความสะดวกที่ทำให้ใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ๆ ได้สะดวกด้วยมือข้างเดียว กล้องถ่ายภาพสวย ฟังเพลงเสียงดี แต่ต้องเสียบสายหูฟังผ่านอะแดปเตอร์ มีอุปกรณ์เสริม O-Music ที่ช่วยให้การฟังเพลงและถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องแรงเพียงพอที่รองรับทุกแอพทุกเกมได้อย่างสบายๆ รองรับ 4G และ 3G ทุกเครือข่าย ชาร์จแบตฯ เต็มในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงด้วยระบบ VOOC  มีเพียงเรื่องเดียวที่ต้องรอลุ้นกันว่า OPPO R5 จะเปิดตัวด้วยราคาค่าตัวเท่าไหร่?

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
OPPO R5 ที่สุดของสมาร์ทโฟนแห่งความหรูหรา และแข็งแกร่งในหนึ่งเดียว อัปเดตล่าสุด 19 ธันวาคม 2557 เวลา 09:31:44 5,529 อ่าน
TOP