เปรียบเทียบสเปค iPhone 7 กับ iPhone 6s สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่และรุ่นเก่า แตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกัน
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ iPhone 7 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ประจำปี 2016 (อ่านข่าวแอปเปิลเปิดตัว iPhone 7) ทำให้ iPhone 6s ที่เคยเป็นเรือธงรุ่นล่าสุดกลายเป็นอดีตไปทันที พร้อมกับถูกปรับลดราคาในงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ (อ่านข่าวแอปเปิลลดราคา iPhone 6s/SE) และสิ่งที่น่าสนใจหลัง iPhone 7 เปิดตัวก็คือเรื่องของการเปรียบเทียบสเปคระหว่าง iPhone 7 กับ iPhone 6s ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร
วันนี้กระปุกดอทคอมมีสเปค iPhone 7 กับ iPhone 6s มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่ามีจุดไหนแตกต่างกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
เทียบสเปค iPhone 7 กับ iPhone 6s
ตัวเครื่อง
สำหรับความแตกต่างดีไซน์ตัวเครื่องระหว่าง iPhone 7 กับ iPhone 6s ที่เห็นได้ชัดสุด ด้านหลังตัวเครื่องที่ซ่อนแถบเสาอากาศออกไป จะเหลือแค่เฉพาะบริเวณขอบด้านบนและด้านล่าง ทำให้ตัวเครื่องของ iPhone 7 ดูสวยงามกว่า iPhone 6s รวมถึงตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ออก ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าถึง 5 กรัม (iPhone 7 น้ำหนัก 138 กรัม, iPhone 6s น้ำหนัก 143 กรัม) รวมถึง iPhone 7 ยังเพิ่มสีตัวเครื่องใหม่อีก 2 สี ได้แก่ สีดำเงา (Jet Black) และสีดำด้าน (Black) รวมทั้งหมด 5 สี (สีเทา สีทอง และสีทองชมพู) ส่วน iPhone 6s มีทั้งหมด 4 สี และที่สำคัญ iPhone 7 สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67 แต่ iPhone 6s กันน้ำกันฝุ่นไม่ได้
หน้าจอแสดงผล
ด้านหน้าจอของ iPhone 7 และ iPhone 6s นั้น ยังคงใช้ขนาดเท่าเดิมที่ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1,334 x 750 พิกเซล (326PPI) เป็นแบบ Retina HD แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาให้หน้าจอ iPhone 7 ก็คือการเพิ่มความสว่างที่มากกว่า iPhone 6s ถึง 25% ของการแสดงผลสีแม่นยำขึ้นและให้สีที่กว้างขึ้น
ปุ่มโฮมแบบใหม่
iPhone 7 มาพร้อมปุ่มโฮมแบบใหม่แบบ มีความทนทาน ตอบสนองฉับไว และมีความไวต่อแรงกด โดยทำงานร่วมกับ Taptic Engine ทำให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้แม่นยำมากขึ้น และยังสามารถปรับแต่งการทำงานได้ตามใจชอบอีกด้วย ส่วนปุ่มโฮมของ iPhone 6s เป็นแบบธรรมดา รองรับ Touch ID รุ่นที่ 2 ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Force Touch ได้
กล้องถ่ายภาพ
อีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ iPhone 7 เหนือกว่า iPhone 6s ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่ถูกอัพเกรดใหม่ แม้จะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน แต่ iPhone 7 มีรูรับแสงมีขนาด ƒ/1.8 ส่วน iPhone 6s มีรูรับแสงมีขนาด ƒ/2.2 ทำให้ iPhone 7 สามารถรับแสงได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 50% และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลสำหรับวิดีโอ, รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K และใช้แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง ช่วยให้ยิงแฟลชได้สว่างกว่า iPhone 6s ถึง 50%
ด้านกล้องหน้า iPhone 7 มีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจาก iPhone 6s ที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสงมีขนาด ƒ/2.2 เท่ากัน แต่สามารถบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้างขึ้น และสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้คมชัดขึ้นกว่าเดิมแม้จะอยู่ในที่มืด ด้านการบันทึกวิดีโอกล้องหน้า iPhone 7 สามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ 1080p ส่วน iPhone 6s สามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ 720p
แบตเตอรี่
ในส่วนของแบตเตอรี่ทางแอปเปิลเคลมว่า iPhone 7 สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่า iPhone 6s ที่มีขนาดแบตเตอรี่ความจุ 1,715mAh ประมาณ 2 ชั่วโมง เช่น ใช้งานอินเทอร์เน็ตบน iPhone 7 ได้สูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 14 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ส่วน iPhone 6s ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 11 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi จะเห็นได้ว่าการใช้งานแต่ละส่วนนั้นเพิ่มจากเดิมเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
ระบบเสียง
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดตัว iPhone 7 นอกจากตัวเครื่องที่มีดีไซน์ใหม่ และสีสันใหม่แล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของระบบเสียง ซึ่ง iPhone 7 มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่ให้กำลังเสียงมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า โดยลำโพงมี 2 ตำแหน่งคือด้านบนและด้านล่าง ส่งผลให้การฟังเพลง, ดูวิดีโอ หรือคุยโทรศัพท์นั้นได้ยินชัดเจนและดังขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังใช้หูฟัง EarPods แบบใหม่ที่ใช้พอร์ต Lightning (หรือตำแหน่งเดียวที่ใช้เสียบชาร์จแบตเตอรี่ iPhone 6s) แทนช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ฮาร์ดแวร์
สำหรับ iPhone 7 นั้น มาพร้อมซีพียูตัวใหม่ A10 Fusion แบบควอดคอร์ ซึ่งจะแบ่งหน้าที่กันประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ และประมวลผลแบบประหยัดพลังงานอีก 2 คอร์ ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานกว่าเดิม แถมแรงกว่าซีพียู A9 ที่ iPhone 6s ใช้ถึง 40% รวมถึงยังประมวลผลกราฟิกเร็วกว่า iPhone 6s ถึง 50% อีกด้วย ทำให้เล่นเกมหนัก ๆ หรือเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ ได้สบาย ๆ
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 4G LTE
ในส่วนของความเร็วการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G LTE บน iPhone 7 นั้น สามารถรับสัญญาณความเร็ว 4G LTE ได้ดีกว่า iPhone 6s ที่สามารถรองรับความเร็วด้วยความถี่สูงสุดที่ 300Mbps เนื่องจาก iPhone 7 นั้นรองรับสัญญาณความเร็วด้วยความถี่สูงสุดที่ 450Mbps ทำให้รับสัญญาณแบนด์วิธได้กว้างขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้การท่องโลกอินเทอร์เน็ตบนมือถือด้วยความเร็วที่สเถียรขึ้น และเร็วกว่าเดิมแน่นอน
สรุปสเปคของ iPhone 7 กับ iPhone 6s มีจุดที่แตกต่างกันดังนี้
- ตัวเครื่องเป็นดีไซน์ใหม่
- หน้าจอให้ความคมชัดและสว่างมากขึ้นแม้มีขนาดเท่าเดิม
- ซีพียูใหม่
- กล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียดสูงขึ้น พร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ
- แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานขึ้น 2 ชั่วโมง
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 4G LTE ทำได้ดีกว่าเดิม