11 สิ่งที่ไม่ควรทำ หากอยากให้ iPhone อยู่กับเราไปนาน ๆ

11 สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone ไม่ควรทำ

          11 สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone ไม่ควรทำ หากอยากให้ iPhone สุดที่รักอยู่กับเราไปนาน ๆ

          คุณรักษา iPhone ดีพอหรือยัง ? ถ้าหากอยากให้ iPhone สุดรักสุดหวงอยู่กับคุณไปนาน ๆ ควรจะทำอย่างไร วันนี้ทางเว็บไซต์ huffingtonpost.com มี 11 สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ iPhone ของคุณอายุสั้นลง ถ้าหากใครต้องการทะนุถนอม iPhone ก็ลองเอาไปทำตามกันดูนะ

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 1. ไม่เคยปิดเครื่องเลย

          การเปิดเครื่องไว้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทุกวัน จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก อย่างน้อยควรปิดเครื่องพักสัปดาห์ละครั้ง อาจปิดตอนช่วงนอนหลับ แล้วใช้นาฬิกาปลุกอื่นแทนก็ได้

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 2. เปิด Wi-Fi และ Bluetooth ตลอดเวลา

          การเปิด Wi-Fi และ Bluetooth เอาไว้ตลอดเวลาแม้ในขณะที่ไม่ได้ใช้งานนั้น ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ทางที่ดีควรเปิดเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งานเท่านั้น

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 3. ใช้งานในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด

          iPhone ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในสถานที่มีอากาศร้อนจัดหรือเย็นจัด (อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส) อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นหรือเครื่องทำงานหนักขึ้นจนดับไปกระทันหันเลยก็ได้ ถ้าหากจำเป็นต้องพกติดตัวไปจริง ๆ ก็ควรปิดเครื่องหรือเก็บไว้ในกระเป๋าแทน

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 4. เสียบชาร์จแบตทิ้งไว้ทั้งคืน

          การเสียบชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้แม้แบตเต็มแล้ว อาจส่งผลเสียต่อตัวแบตเตอรี่และทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นไป ถึงแม้จะมีผลไม่มากนัก แต่การถอดสายชาร์จออกเมื่อแบตเต็มแล้วย่อมช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้มากกว่า

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 5. ชาร์จแบตจนเต็มหรือปล่อยให้แบตใกล้หมด

          ปริมาณแบตเตอรี่ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือระหว่าง 50% - 80% ซึ่งการชาร์จทีละน้อยแต่ชาร์จบ่อย ๆ จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้ดีกว่าการใช้จนแบตเตอรี่เกือบหมดแล้วชาร์จจนเต็ม 100%

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 6. ใช้ที่ชาร์จที่ไม่ใช่ของแอปเปิล

          การใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของปลอมหรือที่ไม่ใช่ของแอปเปิล อาจมีผลเสียต่อตัวเครื่อง iPhone ได้ หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นก็อาจเกิดไฟลุกไหม้หรือระเบิดขึ้นได้ ถึงแม้ที่ชาร์จของแอปเปิลจะค่อนข้างแพง แต่มันก็คุ้มค่าเพื่อแลกกับความปลอดภัย

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 7. ไม่เคยทำความสะอาดเครื่องเลย

          ควรหมั่นทำความสะอาดตัวเครื่อง iPhone บ่อย ๆ เพราะว่าในแต่ละวันที่ใช้งานนั้นจะมีเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ เกาะติดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งฝุ่นที่เกาะอยู่ตามช่องพอร์ตต่าง ๆ ด้วย เพราะมันอาจทำให้การเชื่อมต่อติดขัดหรือมีปัญหาในการใช้งานได้

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 8. ถือเดินในที่สาธารณะหรือในที่เปลี่ยน

          ถ้าหากไม่จำเป็นไม่ควรเดินถือ iPhone ไปมาในสถานที่คนพลุกพล่านหรือสถานที่เปลี่ยว เพราะอาจถูกฉกชิงเอาไปขายได้ เนื่องจาก iPhone นั้นสามารถขายมือสองได้ง่าย และได้ราคาดี ทำให้ตกเป็นเป้าของเหล่าโจรขโมยเป็นพิเศษ จึงควรพกพาด้วยความระมัดระวัง

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 9. ไม่ล็อกรหัสผ่าน

          การไม่ล็อกผ่าน iPhone นั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากทำเครื่องหายหรือถูกขโมย บัญชีของบริการต่าง ๆ ที่อยุ่ในเครื่องก็จะถูกผู้อื่นเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการล็อกรหัสผ่านเอาไว้จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดกรณีดังกล่าวได้

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 10. เปิด Location Services ไว้ทุกแอพฯ

          มีเพียงบางแอพฯ เท่านั้นที่จำเป็นต้องเปิด Location Services ในการใช้งาน เช่น Maps แต่สำหรับแอพฯ อื่นอาจไม่จำเป็นต้องเปิดเอาไว้ตลอดเวลา เพราะจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ สามารถเข้าไปตั้งค่าปิดการใช้งาน Location Services ของแต่ละแอพฯ ได้ที่ Settings > Privacy > Location Services

//img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 11. เปิด Push Notifications ไว้ทุกแอพฯ

          การเปิดให้ Push Notifications แสดงแจ้งเตือนทุกแอพฯ นั้นเปลืองแบตเตอรี่มาก เพราะนอกจากจะมีการแจ้งเตือนที่ค่อนข้างบ่อยและถี่แล้ว ทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนหน้าจอจะติดด้วย ดังนั้นจึงควรปิดการแจ้งเตือนแอพฯ ที่ไม่จำเป็นด้วยการเข้าไปตั้งค่าที่ Settings > Notifications

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก apple.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
11 สิ่งที่ไม่ควรทำ หากอยากให้ iPhone อยู่กับเราไปนาน ๆ อัปเดตล่าสุด 8 กันยายน 2558 เวลา 17:37:57 12,259 อ่าน
TOP