วิธีเลือกซื้อ iPhone มือสอง ดูอะไรบ้าง ? ก่อนตัดสินใจซื้อมือถือมือสอง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อ iPhone มือสอง ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะซื้อ iPhone มือสอง วิธีการเลือกซื้อ iPhone มือสองอย่างไรให้ปลอดภัย ต้องดูหรือต้องเช็กอะไรก่อนตัดสินใจซื้อ iPhone มือสองบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
1. ตรวจสอบสภาพเครื่อง
ตรวจเช็กสภาพการใช้งานบริเวณรอบตัวเครื่องให้ดีว่ารอบ ๆ ตามมุมเครื่องมีรอยบุบหรือบิ่นมากน้อยแค่ไหน (ซึ่งข้อนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อ) แต่บริเวณหน้าจอหากพบรอยขีดข่วนหรือขนแมวที่ไม่ได้เกิดจากฟิล์มควรหลีกเลี่ยงทันที
2. ตรวจสอบอุปกรณ์
เช็กว่าอุปกรณ์แต่ละตัวยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ เช่น สายชาร์จไม่ฉีกขาด สามารถชาร์จได้ปกติ, เข็มจิ้มซิมไม่งอ และอะแดปเตอร์ไม่มีรอยร้าว เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ายังอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ปกติก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลย
3. ตรวจสอบประกันเหลือ
สำหรับคนที่ต้องการซื้อ iPhone มือสองแบบมีประกันเหลือควรตรวจสอบเพื่อความแน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยการนำหมายเลข Serial ตัวเครื่องไปกรอกที่ selfsolve.apple.com เพื่อเช็กประกันว่ายังเหลืออยู่กี่เดือน ในส่วนของหมายเลขประกันดังกล่าวสามารถเข้าไปดูได้ที่ Settings > General > About
4. ตรวจสอบเลข IMEI เครื่อง
ตรวจสอบเลข IMEI ของ iPhone กับตัวกล่องว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งข้อนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อ ถ้าไม่ซีเรียสอะไรก็ผ่านไปได้เลย โดยสามารถตรวจสอบเลข IMEI ได้จากหลังกล่อง ส่วนตัวเครื่องสามารถตรวจสอบได้ที่ Settings > General > About > IMEI หรือหลังเครื่อง
5. ตรวจสอบ Dead Pixel บนจอภาพ
สามารถตรวจเช็ก Dead Pixel ได้โดยให้สังเกตที่มุมจอและพื้นที่ในจอ ซึ่งหน้าจอที่จะทดสอบต้องเป็นสีพื้นเรียบ ๆ สีเดียวจากการเปิดแอปฯ ที่มีสีเดียวล้วน ๆ และหากพบจุดสีแปลก ๆ ไม่เข้าพวกออกมา แสดงว่าจอไม่ปกติ รวมถึงการตรวจแสงรั่วออกมาที่ขอบจอว่ามีมากไหมหรือมีแสงเป็นดวง ๆ ที่จอไหม และสุดท้ายทดสอบจอทัชสกรีนว่าเสียหรือไม่ด้วยการแตะที่ไอคอนแอปฯ ค้างไว้และเลื่อนไอคอนไปตามที่ต่าง ๆ ให้ทั่วจอ ถ้าไอคอนเด้งกลับตรงจุดใดแสดงว่าจอตรงจุดนั้นมีปัญหา
6. ทดสอบการใช้งานพื้นฐานต่าง ๆ
ทดสอบการใช้งานพื้นฐานต่าง ๆ แต่ละฟังก์ชั่นอย่างละเอียดให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้องถ่ายรูป, ปรับเพิ่ม-ลดเสียง, เชื่อมต่อสัญญาน Wi-Fi, ปุ่มทัชสกรีนใช้ได้ปกติทุกปุ่ม, ปุ่ม Power เปิดปิดเครื่องได้ปกติ, ปุ่ม Home กดติดง่าย, เซ็นเซอร์ทำงานปกติ และปรับแสงบนหน้าจอได้ เป็นต้น ซึ่งทุกฟังก์ชั่นควรใช้งานได้ปกติดีเท่านั้น
7. ตรวจสอบแบตเตอรี่
สามารถตรวจสอบแบตเตอรี่ iPhone ได้ง่าย ๆ ดังนี้ ให้ไปที่ Settings > Battery > Bettery Health เพื่อตรวจคุณภาพแบตเตอรี่ว่าอยู่ในระดับไหน โดยจะแสดงคุณภาพของแบตเตอรี่เป็น % หากแบตเตอรี่อยู่ในระดับ 80% แสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมแล้ว
8. ตรวจสอบ iPhone มือสอง ติด iCloud หรือไม่
สำคัญมาก ! สำหรับการซื้อ iPhone มือสอง ติด iCloud เชื่อว่าหลายคนไม่ทราบฟีเจอร์นี้มาก่อน เนื่องจากไอโฟนมีทั้งเครื่องนอกและเครื่องศูนย์ไทย ซึ่งความเสี่ยงจะอยู่ที่เครื่องนอกซะเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะหากเครื่องติดล็อกจะไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ผู้ซื้อสามารถเข้าไปตรวจสอบว่า iPhone ติดล็อก iCloud หรือไม่ได้ง่าย ๆ โดยให้เข้าไปที่ imei24.com/check/iphone_icloud/ จากนั้นกรอกหมายเลขเครื่อง (Serial) ที่เราต้องการเช็ก (วิธีเช็กหมายเลขเครื่อง) เมื่อกรอกรายละเอียดครบแล้ว กด Check โดยระบบจะแจ้งให้ทราบดังนี้
- Activation Lock : Off หมายความว่าเครื่องนี้ไม่ติดล็อก สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- Activation Lock : ON หมายความว่าเครื่องติด iCloud ไม่สามารถใช้งานได้
9. ทดสอบ SIM CARD กับตัวเครื่อง
ใส่ซิมการ์ดกับตัวเครื่องเพื่อทดสอบการใช้งาน SIM ว่าสามารถโทร. เข้า-ออกได้ปกติหรือไม่ เช่น เสียงดังฟังชัดทั้งต้นทางและปลายสาย, เปิดเสียงออกลำโพงได้, เพิ่ม-ลดเสียงได้ตามต้องการ รวมถึงเปิด-ปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ต (Cellular) เล่นดูว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่
10. ตรวจเช็กราคาซื้อ iPhone มือสอง
ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบราคา iPhone มือสองได้ตามร้านขายมือถือมือสอง และตามเว็บไซต์ขายมือถือมือสองทั่วไป หรือเว็บอื่น ๆ ที่สามารถโพสต์ขายสินค้าได้ เพื่อป้องกันการขายมือถือมือสองเกินราคา
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ควรโอนเงินให้ผู้ขายก่อน ควรนัดเจอกันเพื่อตรวจเช็กตัวเครื่องก่อน ถ้าโอเคจึงชำระเงิน ไม่งั้นอาจเสี่ยงโดนโกงได้ เช่น โอนเงินแล้วไม่ส่งของให้ หรือตัวเครื่องที่ได้รับมีสภาพไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้
ขอบคุณภาพประกอบจาก Pexels