มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนสิงหาคม 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

          อัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนสิงหาคม 2019 มีมือถือใหม่รุ่นไหนเปิดตัวบ้าง มือถือใหม่ปี 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย มือถือใหม่เดือนสิงหาคม

          กลับมาอัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนสิงหาคม 2019 กันอีกครั้ง ต้องบอกเลยว่าตลาดมือถือในเดือนนี้ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ตลอดทั้งเดือนมีมือถือรุ่นใหม่ เปิดตัวมากมายหลายรุ่น จากหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะมือถือซีรีส์ Galaxy Note รุ่นใหม่จาก Samsung ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว รวมถึงมือถือที่เปิดตัวกันตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมบางรุ่นก็เริ่มทยอยออกวางจำหน่าย

          สำหรับเดือนนี้มีมือถือเปิดตัวใหม่รุ่นไหนน่าสนใจ ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ ลองมาเช็กกันก่อนซื้อ ว่ามีมือถือรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนที่โดนใจน่าจับจองเป็นเจ้าของกันบ้าง ถ้าพร้อมมาติดตามกันเลย

1. HTC Wildfire X

          มือถือซีรีส์ Wildfire ราคาประหยัด มาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.8%, ซีพียู MediaTek Helio P22, แรมสูงสุด 4GB, รัน Android Pie, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล รองรับ Optical zoom 2 เท่า กับ Hybrid Zoom 8 เท่า + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ดีไซน์เพรียวบาง 7.95 มม. พร้อมกระจก 3D OPVD ที่สะท้อนแสงรูปแบบแสงไฮเปอร์, มีสแกนลายนิ้วมือติดตั้งด้านหลัง, และแบตเตอรี่ 3,300mAh พร้อมชาร์จเร็ว 10 วัตต์ ผ่านพอร์ต USB Type-C

ราคาประมาณ 4,790 บาท

2. Samsung Galaxy A10s

          มือถือซีรีส์ A อีกรุ่น ที่อัปเกรดสเปกใหม่จากรุ่น Galaxy A10 โดยรุ่นนี้ส่วนที่เปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ก็จะเป็นการเพิ่มสแกนลายนิ้วมือ, กล้องหลังคู่ และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ด้านสเปกอื่น ๆ เหมือนเดิม มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ Infinity-V (ติ่งตัว V), ซีพียู Exynos Octa-Core, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Samsung One UI, กล้องหลังคู่ 13 +2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับสแกนใบหน้า (Face Unlock) และแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคายังไม่เปิดเผย

3. nubia Z20

          หลังจาก ASUS และ Xiaomi เปิดตัว ASUS ROG Phone II กับ Black Shark 2 Pro มือถือเกมมิ่งที่ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus ที่อัปเกรดเพิ่มความเร็วซีพียูและจีพียูแรงขึ้น 15% ล่าสุด nubia ไม่รอช้า เปิดตัว nubia Z20 มือถือระดับเรือธง สเปกจัดเต็ม ที่ใช้ซีพียูรุ่นดังกล่าวตามมาอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอคู่ ขนาด 6.42 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED ขอบจอบางเฉียบ ไม่มีติ่ง ส่วนหน้าจอที่ 2 ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ AMOLED ที่กลมกลืนกับบอดี้กระจก และมี DC dimming กับ AOD 2.0 ที่รองรับการแสดงข้อมูลพร้อมข้อความ, กราฟิก, GIF, วิดีโอและอื่น ๆ บนหน้าจอทั้งสอง

ราคาประมาณ 15,290 บาท

4. Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

          มือถือระดับเรือธงซีรีส์ Galaxy Note รุ่นใหม่ ปรับปรุงจากรุ่น Galaxy Note 9 มาพร้อมกับดีไซน์หรูหราทันสมัย ฟีเจอร์การใช้งานยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพการทำงานทรงพลัง และเป็นครั้งแรกที่ Samsung Galaxy Note มาพร้อมหน้าจอ 2 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่มีขนาดพอดีในการใช้งานร่วมกับปากกาอัจฉริยะ S Pen ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถถือใช้งานได้อย่างง่ายดาย บนหน้าจอ Cinematic Infinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.8 นิ้ว

          ความสามารถของ S Pen ใน Galaxy Note 10 ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจดข้อความลงบนหน้าจอ และเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษรได้ทันทีบน Samsung Notes และฟีเจอร์ Air Actions ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมฟังก์ชันที่ต้องการได้ผ่านการจับ S Pen เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ และยังพัฒนาซอฟต์แวร์ Air Actions ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งปุ่มควบคุมได้หลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้การเล่นเกมหรือใช้งานแอปพลิเคชันผ่านการแสดงออกของท่าทางได้อีกด้วย

ราคา

          - Galaxy Note 10 รุ่นแรม 8GB + 256GB ราคา 32,900 บาท
          - Galaxy Note 10+ รุ่นแรม 12GB + 256GB ราคา 37,900 บาท
          - Galaxy Note 10+ รุ่นแรม 12GB + 512GB ราคา 40,900 บาท

5. Vivo V17 Neo

          หลังจาก Vivo เดินหน้าเปิดตัว Vivo S1 ในประเทศไทย และ Vivo Y7s ที่ประเทศจีน ล่าสุด Vivo ประกาศเปิดตัว Vivo V17 Neo อีกรุ่นเพื่อลุยตลาดมือถือรัสเซีย โดยสเปกของรุ่นนี้จะเหมือนกับรุ่น S1 ที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ด้านสเปกของ Vivo V17 Neo มาพร้อมหน้าจอ 6.38 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P65 (MT6768), แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า (AI face unlock) แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Dual Engine fast charging 18 วัตต์

          กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 16 ล้านพิกเซล, f/1.78, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (wide-angle), f/2.2, 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, f/2.0 ด้านดีไซน์ตัวเครื่องใช้เทคนิคการเคลือบแบบนาโนอิออน ผสมผสานสีและเอฟเฟกต์เพื่อให้เกิดแสงสะท้อนทำให้ดูเด่นและสวยงาม

ราคาประมาณ 9,690 บาท

6. Vivo Z5

          มือถือระดับกลางซีรีส์ Z สเปกสุดคุ้มอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 6.38 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ มีติ่งหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Snapdragon 712, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB/256GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.1, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์ เคลมว่าสามารถชาร์จ 0-50% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 7,190 บาท

7. Black Shark 2 Pro

          หลังจาก ASUS เปิดตัว ASUS ROG Phone II มือถือเกมมิ่งรุ่นแรกของวงการที่ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus ที่อัปเกรดเพิ่มความเร็วซีพียูและจีพียูแรงขึ้น 15% ล่าสุด Xiaomi ไม่รอช้า รีบเปิดตัว Black Shark 2 Pro มือถือเกมมิ่งอีกรุ่น สานต่อจาก Black Shark 2 พร้อมอัปเกรดสเปกใหม่ ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus และหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 รวมถึงปรับดีไซน์ตัวเครื่องใหม่เล็กน้อย โดยเฉพาะด้านหลังที่ออกแบบใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจาก F1 รวมถึงเอฟเฟกต์แสงไฟแบบใหม่

          มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, รองรับ HDR, มีค่า touch latency อยู่ที่ 34.7ms (ของเดิม 43.5ms) รวมถึงมีการปรับอัลกอริทึมแบบสัมผัสโดยเฉพาะสำหรับการเล่นเกมและ DC dimming 2.0, ระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่ Liquid cooling 3.0 ที่สามารถลดอุณหภูมิของซีพียูได้ถึง 14 องศาเซลเซียล, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, กล้องหลังคู่ 48 + 12 ล้านพิกเซล รองรับการซูม 2 เท่า แบบ Optical, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 27 วัตต์ ชาร์จแค่ 5 นาที สามารถเล่นเกมได้ 30 นาที

ราคาประมาณ 13,490 บาท

8. Vivo Y90

          มือถือราคาถูกซีรีส์ Y อีกรุ่นจาก Vivo มาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+, อัตราส่วน 19:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22 Quad-Core 12nm, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รัน Android 8.1 ครอบทับด้วย Funtouch OS, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รองรับ AI beauty และปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ, แบตเตอรี่ 4,030mAh

ราคาประมาณ 3,190 บาท

9. Huawei nova 5i Pro

          หลังจากเปิดตัว Huawei nova 5i เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด Huawei ประกาศเปิดตัว Huawei nova 5i Pro ตามมาอีกรุ่น โดยอัปเกรดสเปก ปรับโฉมดีไซน์กล้องหลังใหม่ มีสีสันตัวเครื่องเหมือนกับรุ่น Mate 20 Pro ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ Punch-Hole กล้องหน้าเจาะรูบนหน้าจอ 32 ล้านพิกเซล, ซีพียู Kirin 810 7nm, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, รัน  Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1.1, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง + 2 ล้านพิกเซล เลนส์มาโคร ขนาด 2 เซนติเมตร + 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth Sensing สำหรับถ่าย Portrait, ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 20 วัตต์ ชาร์จจาก 0-50% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 9,900 บาท

10. Motorola Moto E6

          มือถือราคาถูกซีรีส์ E มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ Max Vision, ซีพียู Snapdragon 435, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB, รัน Android 9.0 (Pie), กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ตัวเครื่องดีไซน์แบบ Unibody พร้อมเคลือบสารกันน้ำ P2i coating และแบตเตอรี่ 3,000mAh

ราคาประมาณ 4,690 บาท

11. Wiko Sunny4

          หลังจากเปิดตัว Wiko Sunny4 Plus ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด ได้เปิดตัว Wiko Sunny4 ตามมาอีกรุ่น โดยปรับลดสเปกบางส่วนและเป็นมือถือ Android GO Edition ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว พร้อม Simple Mode ที่ช่วยขยายไอคอนของเมนูบนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ รันระบบปฏิบัติการ Android 8 Oreo (Go Edition), ซีพียู Quad-Core 1.3GHz, หน่วยความจำ 16GB, แรม 1GB, รองรับ microSD สูงสุด 32GB ตัวเครื่องดีไซน์สวยเกินราคา มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน (Blue) สีทอง (Gold) และสีเทาเข้ม (Dark Gray)

ราคา 1,790 บาท

12. Nokia 220 4G และ Nokia 105

          ฟีเจอร์โฟน 2 รุ่นใหม่ จาก Nokia โดยยังคงใช้ชื่อเดิมที่เคยเปิดตัวในปี 2004 และ 2017 แต่ครั้งนี้ได้อัปเกรดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น รวมถึงสีสันของตัวเครื่องยังคงมีสีสดใสเหมือนเดิม และยังคงคอนเซ็ปต์เป็นฟีเจอร์โฟนราคาถูก เหมาะสำหรับพกพาเป็นเครื่องสำรอง เน้นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถสแตนด์บายรอรับสายได้เกือบ 1 เดือน วัสดุตัวเครื่องเป็นโพลีคาร์บอเนต, รองรับการท่องเว็บผ่านเว็บเบราว์เซอร์, รองรับ Bluetooth, Facebook, Twitter, วิทยุ Wireless FM และที่ขาดไม่ได้ คือ มีเกมงู พร้อมเกมอื่น ๆ จากค่าย Gameloft

ราคาประมาณ 490 บาท

13. Honor 9X และ Honor 9X Pro

          มือถือระดับกลางจาก Honor โดยทั้ง 2 รุ่น มีดีไซน์เหมือนกัน แตกต่างกันที่สีสันตัวเครื่อง กล้องถ่ายภาพ และแรม มาพร้อมหน้าจอ 6.59 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ไม่มีติ่ง ใช้ซีพียูระดับกลางตัวแรง Kirin 810 7nm พร้อม GPU Turbo 3.0, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMIUI 9.1, กล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ 4,000mAh สำหรับรุ่น Honor 9X Pro จะมีแรม 8GB และรองรับระบบระบายความร้อน NINE liquid cooling เหมือนกับ Honor View 20 ส่วนรุ่น Honor 9X มีแรม 4GB/6GB ด้านกล้องถ่ายภาพ Honor 9X มีกล้องหลังคู่ 48 + 2 ล้านพิกเซล ส่วนทางด้าน Honor 9X Pro มีกล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) + 8 ล้านพิกเซล (Ultra wide)

ราคาประมาณ 6,290 บาท

14. ASUS ROG Phone II

          มือถือภาคต่อของ ASUS ROG Phone รุ่นแรกที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 ยังคงคอนเซ็ปต์มือถือจอใหญ่ สเปกแรงเอาใจกลุ่มฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อน 3D Vapor Chamber พร้อมรูระบายความร้อนที่ด้านหลังเครื่อง ลำโพงคู่ด้านหน้า แบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 30 วัตต์ ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว AMOLED อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz 120Hz/1ms, อัตรารีเฟรชของการทัชหน้าจอ (touch sampling rate) ที่ 240Hz, มีค่า touch latency อยู่ที่ 49ms, รองรับ DCI-P3, กระจก Gorilla Glass 6, มือถือรุ่นแรกที่ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรม 12GB, หน่วยความจำ 512GB (UFS 3.0), รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ROG UI และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ด้านกล้องถ่ายภาพรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล + 13 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 125 องศา (ultra-wide) และกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 26,900 บาท

15. Vivo S1

          มือถือซีรีส์ S รุ่นใหม่ จาก Vivo ภายในคอนเซ็ปต์ "Unlock Your Style" มาพร้อมหน้าจอ 6.38 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P65 (MT6768), แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า (AI face unlock) แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Dual Engine fast charging 18 วัตต์

          รุ่นนี้ใช้กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 16 ล้านพิกเซล, f/1.78, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (wide-angle), f/2.2, 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, f/2.0 ด้านดีไซน์ตัวเครื่องใช้เทคนิคการเคลือบแบบนาโนอิออน ผสมผสานสีและเอฟเฟกต์เพื่อให้เกิดแสงสะท้อนทำให้ดูเด่นและสวยงาม

ราคา 8,999 บาท

16. Samsung Galaxy A10e

          หลังจากเปิดตัว Galaxy A10 มือถือซีรีส์ Galaxy A ราคาประหยัด ระดับเริ่มต้น ล่าสุด Samsung ร่วมกับเครือข่าย AT&T ในอเมริกา เปิดตัว Samsung Galaxy A10e อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ Galaxy A10 ที่ปรับลดสเปกบางส่วนลง มาพร้อมหน้าจอ 5.83 นิ้ว Infinity V Display ความละเอียด HD+, ซีพียู Exynos 7884B Octa-Core (2 @ 1.6GHz, 6 @ 1.35GHz), แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รองรับ microSD, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 3,000mAh และรัน Android 9 Pie

ราคาประมาณ 6,490 บาท

มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนกรกฎาคม 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง และมือถือบางรุ่นยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย