36 ฟีเจอร์ลับ ๆ ของ iOS 13 ที่คุณอาจยังไม่รู้ว่ามีด้วย !

          เผย 36 ฟีเจอร์ลับ ๆ ของ iOS 13 ที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อน แถมมีให้ใช้บน iPad OS ด้วยนะ

          เปิดตัวไปแล้วสำหรับ iOS 13 ที่หลายคนรอคอย ซึ่งใน iOS 13 นี้ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาค่อนข้างเยอะและน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นอกจากฟีเจอร์ที่แอปเปิลได้นำมาโชว์ในงานเปิดตัวแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกเพียบเลยที่ยังไม่ได้เอามาโชว์ให้ดูกัน วันนี้เราก็เลยนำฟีเจอร์ลับ ๆ ของ iOS 13 ทั้งหมด 36 ฟีเจอร์มาให้ดูกันว่าจะแจ่มและน่าใช้งานแค่ไหน และที่สำคัญคือฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะมีให้ใช้บน iPad OS ด้วยนะ

1. เลือกเชื่อมต่อ Wi-Fi ใน Control Center ได้แล้ว แค่แตะค้างที่ Wi-Fi/Bluetooth Widget จากนั้นให้ Force Touch ที่ไอคอน Wi-Fi ก็จะพบกับรายชื่อ Wi-Fi ที่สามารถเชื่อมต่อได้

2. เลือกเชื่อมต่อ Bluetooth ใน Control Center ได้เช่นเดียวกับ Wi-Fi โดยให้ Force Touch ที่ไอคอน Bluetooth แทน

3. ตั้งค่าให้แต่ละแอปฯ ถามทุกครั้งเมื่อต้องการเข้าถึงการระบุตำแหน่งได้แล้ว

4. เบอร์และ Contacts ที่บล็อกไว้จะมีผลในแอปฯ Mail ด้วย ทำให้คนที่ถูกบล็อกไม่สามารถส่งอีเมลหาเราได้ด้วย

5. ถ้าหากปัด (Swipe) ที่ข้อความในแอปฯ Mail แล้วเลือก More จะสามารถเลือก Mute ไม่ให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่ในอีเมลนั้น ๆ

6. แอปฯ Books สามารถติดตามการอ่านหนังสือของเราได้ว่าอ่านหนังสือได้วันละเท่าไร เพื่อช่วยเป็นแรงจูงใจให้อ่านหนังสือมากขึ้น

7. เลือก Silence (เสียงไม่ดัง) เมื่อมีเบอร์แปลกโทร. เข้ามาได้ เพื่อป้องกันเบอร์สแปมโทร. มากวนใจ

8. Low Data Mode ใน Settings > Cellular จะสามารถเปิดโหมดนี้ได้ ซึ่งจะช่วยให้แอปฯ ต่าง ๆ กินเน็ตน้อยลง ประหยัดเน็ตได้มากกว่าเดิม

9. ระบบค้นหาข้อความในแอปฯ Messages ถูกปรับปรุงใหม่ ช่วยให้สามารถค้นหาข้อความเจอได้ง่ายขึ้น

10. แอปฯ Notes เพิ่มฟีเจอร์สำหรับจัดการโฟลเดอร์ต่าง ๆ เพียงแค่แตะปุ่ม "..." ก็จะพบกับตัวเลือกอย่าง Add People, Move This Folder, Rename และ View Attachments.

11. ทั้ง Apple TV, iPhone และ iPad จะรองรับจอยเกมทั้งของ PlayStation 4 และ Xbox One แล้ว

12. มี Animoji ใหม่ 3 แบบ ได้แก่ วัว, หมึก และหนู นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องประดับและสติ๊กเกอร์ใหม่สำหรับใช้แตกแต่ง Animoji อีกมากมาย

13. ปุ่มอีโมจิบนแป้นคีย์บอร์ดถูกแยกออกจากปุ่มเปลี่ยนภาษาแล้ว ทำไห้กดใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

14. ใน Settings > Safari สามารถตั้งให้ปิดแท็บที่เปิดทิ้งไว้ใน Safari แบบอัตโนมัติได้ โดยสามารถเลือกเวลาได้เป็นแบบรายวัน, รายสัปดาห์ หรือรายเดือน

15. แนบไฟล์ต่าง ๆ เช่น ไฟล์เอกสาร ในบันทึกของแอปฯ Calendar ได้แล้ว

16. ใน App Store ได้ถูกนำแท็บ Updates ออกไปแล้วแทนที่ด้วยแท็บ Apple Arcade โดยถ้าหากต้องการอัปเดตแอปฯ ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์แทน

17. Safari สามารถแคปหน้าเว็บแบบยาวเต็มหน้าได้แล้ว โดยจะเซฟเป็นไฟล์ PDF สามารถเขียนหรือแก้ไขก่อนเซฟหรือแชร์ได้

18. ขณะ Mute การแสดงข้อความแจ้งบนจอจะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยจะแสดงอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอแทนที่จะแสดงเป็นแบบแจ้งเตือน

19. สามารถเปิดโหมดช่วยถนอมแบตฯ ได้ สำหรับคนที่ชอบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน โดยระบบจะชาร์จแบตเตอรี่ถึง 80% แล้วหยุดเพื่อรอชาร์จจนเต็มในช่วงเวลาที่ผู้ใช้ตื่นนอนพอดี

20. แอปฯ Home สำหรับใช้ควมคุมอุปกรณ์ HomeKit ภายในบ้านถูกปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

21. สามารถใช้อุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay 2 ใน HomeKit ได้แล้ว เช่น ตั้งค่าให้เปิดเพลงเมื่อคุณกลับถึงบ้าน

22. ในแอปฯ Photos สามารถซูมเข้า-ซูมออกด้วยปุ่ม +/- หรือ Gesture ได้แล้ว

23. เมื่อระบบพบว่ามีการโทร. คุยงานกัน ก็จะแนะนำให้ใช้ระบบ Business Chat เพื่อคุยแบบแชตข้อความแทน

24. ใน Apple Music จะมีแสดงเนื้อเพลงขณะเล่นเพลง ซึ่งจะ Sync เนื้อเพลงให้ตรงกับคำร้องด้วย

25. ขณะเล่นเพลงใน Apple Music จะสามารถดูได้ว่าเพลงที่จะเล่นถัดไปคือเพลงอะไร

26. แอปฯของ Apple News+ จะมีติดเครื่องมาให้เลย

27. แอปฯ Voice Memos จะสามารถซูมเพื่อดูคลื่นเสียงแบบชัด ๆ ช่วยให้ตัดต่อเสียงได้สะดวกขึ้น

28. เมื่อเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะโหมด Do Not Disturb จะไม่เปิดทำงานอัตโนมัติเหมือนขณะขับรถ

29. ใช้ Gesture เพื่อดูพรีวิวของอีเมล, ลิงก์, ข้อความ และอื่น ๆ ได้

30. สามารถแตะที่ไอคอนแอปฯ ค้างไว้เพื่อเปิดเมนู Quick Action สำหรับใช้คำสั่งลัดของแต่ละแอปฯ ได้

31. iPhone และ iPad 2018 หรือใหม่กว่าจะรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ใน iOS 13 ด้วย

32. ถ้าเปิดฟีเจอร์ Family Sharing ไว้ คนในครอบครัวจะสามารถใช้ Hotspot ได้ด้วยอัตโนมัติ

33. สามารถตั้งให้เชื่อมต่อ Hotspot ของ iPhone ได้อัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสามารถตั้งให้เชื่อมต่อตลอดเวลาแม้ในขณะที่เครื่องอยู่ในโหมด Sleep ได้ด้วย

34. iOS 13 จะมีระบบตรวจจับ Wi-Fi ที่มีคนใช้เยอะให้อัตโนมัติพร้อมแจ้งให้ทราบเมื่อตรวจพบ

35. ใน App Store สามารถปัดซ้ายที่ชื่อแอปฯ เพื่อลบแอปฯ ออกจากรายการอัปเดตได้

36. โหมดจับเวลานับถอยหลังในแอปฯ Clock จะมีแสดงขีดวงกลมที่ค่อย ๆ ลดลงตามเวลาด้วย

ภาพและข้อมูลจาก macrumors