แนะนำเทคนิคถ่ายรูปอาหารด้วยมือถือ วิธีถ่ายรูปอาหารให้น่ากินด้วยกล้องมือถือ แม้ไม่มีกล้องใหญ่ มีแค่สมาร์ตโฟนก็ถ่ายรูปอาหารให้ดูสวยแบบมือโปรได้
.jpg)
ทุกวันนี้สิ่งหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องปกติเวลาออกไปกินอาหารนอกบ้านตามร้านคาเฟ่ต่าง ๆ หรือแม้แต่เวลาทำอาหารกินเองที่บ้านก็คือ ทุกคนต้องหยิบ โทรศัพท์ มือถือหรือสมาร์ตโฟนขึ้นมาแชะภาพอาหาร เครื่องดื่ม ก่อนจะโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเป็นการบันทึกเรื่องราวและแบ่งปันมื้อสุดประทับใจ
แต่ก็คงมีหลายคนที่เคยรู้สึกว่าภาพอาหารที่เราถ่ายไปนั้นดูไม่สวยเหมือนของจริงที่วางอยู่บนโต๊ะเลย บางคนก็โทษที่สมาร์ตโฟนของเรากล้องไม่ดี แสงไม่ได้ คงต้องใช้กล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless ถ่ายแล้วล่ะ แต่จริง ๆ แล้วโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟนในมือของคุณก็สามารถถ่ายรูปอาหารให้ดูสวย ดูน่ากินได้เช่นกัน เพียงแค่รู้เทคนิคการถ่ายภาพด้วยมือถือ วิธีถ่ายรูปอาหาร และหลักเบื้องต้นอีกเล็กน้อย คุณก็จะได้ภาพถ่ายอาหารสวย ๆ แล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมเทคนิคถ่ายรูปอาหารด้วยมือถือ วิธีถ่ายรูปอาหารให้ออกมาดูน่ากินด้วยโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟน แม้ไม่มีกล้องใหญ่หรือเป็นช่างภาพมือโปรก็สามารถถ่ายภาพอาหารให้สวยได้ ซึ่งมีหลักง่าย ๆ ดังนี้
1. มือถือถูกหรือแพงก็ถ่ายรูปสวยได้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามือถือรุ่นแพง ๆ โดยเฉพาะในระดับเรือธงย่อมมาพร้อมกับกล้องที่มีขีดความสามารถสูงตามไปด้วย แต่หากคุณไม่ได้ต้องการไฟล์ภาพระดับโปร ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้สมาร์ตโฟนรุ่นที่แพงที่สุดหรือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะปัจจุบันกล้องมือถือถูกพัฒนามาไกลมาก มือถือในราคาระดับกลาง ๆ หรือรุ่นที่จำหน่ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สามารถถ่ายภาพได้แทบไม่แตกต่างจากกล้องถ่ายรูปบางรุ่นเลยทีเดียว ดังนั้น ขอเพียงแค่เรามีสมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปได้ก็เพียงพอแล้ว
2. การจัดวางและองค์ประกอบ
.jpg)
ในการถ่ายภาพไม่ว่าจะด้วยโทรศัพท์มือถือหรือกล้องถ่ายรูป หลักสำคัญอย่างหนึ่งก็คือเรื่ององค์ประกอบของภาพ แม้อาหารหรือเครื่องดื่มจะมีสีสันสวยงามน่ากินขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาแชะแบบง่าย ๆ ได้เลย แต่ต้องมีการจัดวางองค์ประกอบ หามุมของอาหารที่ดูดี รวมไปถึงมุมในการวางอาหารให้ดูเหมาะสมภายในร้านอาหารหรือสถานที่ เพื่อให้อาหารดูโดดเด่นมากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพร็อพหรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จะยิ่งช่วยเสริมความน่าสนใจของอาหารได้ อาจเป็นสิ่งของที่บ่งบอกถึงส่วนผสมหรือที่มา เช่น วัตถุดิบ แก้วเครื่องดื่ม ขวดซอส ถุงแป้ง ผลไม้ ผ้ารองจานหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไปในทิศทางเดียวกับชนิดอาหารนั้น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มมิติที่น่าสนใจ จะวางไว้ด้านหน้าเป็น foreground หรือวางเป็น background ก็ได้
ส่วนการจัดวางนั้นหากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนให้ยึดหลักการถ่ายภาพพื้นฐานนั่นก็คือจุดตัด 9 ช่อง โดยในสมาร์ตโฟนบางรุ่นสามารถเปิดฟังก์ชันจุดตัด 9 ช่องได้ จากนั้นทำการจัดองค์ประกอบภาพ ด้วยการให้ตัวอาหารอยู่ในบริเวณจุดตัดไม่ว่าจะถ่ายแนวตั้งหรือแนวนอน เท่านี้เราก็จะได้การจัดวางภาพที่น่าสนใจแล้ว
3. เลือกพื้นหลังให้ดี
.jpg)
เรื่องของพื้นหลังก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงหากอยากให้ภาพอาหารออกมาดูดี สำหรับพื้นหลังที่แนะนำควรใช้พื้นหลังที่มีสีสันเป็นกลาง ดูเรียบง่าย เพราะถ้าหากพื้นหลังดูยุ่งจนเกินไปหรือมีสีสันที่โดดเด่น จะกลายเป็นดึงความน่าสนใจออกไปจากตัวอาหาร และโดยทั่วไปแล้วลักษณะของพื้นหลังที่นิยมใช้ถ่ายภาพอาหารก็คือ พื้นหลังสีอ่อน, พื้นหลังสีเข้ม และพื้นหลังไม้ (สีน้ำตาล)
นอกจากนี้ยังมีหลักเพิ่มเติมด้วยว่าอาหารสีเข้มมักจะดูดีบนพื้นหลังสีเข้ม และอาหารสีอ่อนจะดูดีบนพื้นหลังสีอ่อน ส่วนพื้นหลังที่เป็นไม้ เช่น โต๊ะและเขียง (สีน้ำตาล) มักจะดูดีกับอาหารเกือบทุกประเภท นอกจากนี้ ผ้าขนหนู และผ้าปูโต๊ะ ก็เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นพื้นหลังได้เช่นกัน โดยเฉพาะผ้าสีขาวที่เหมาะกับอาหารหลากหลายชนิด
4. มุมภาพ
.jpg)
มุมยอดนิยมของการถ่ายภาพอาหารนั้นมีเพียงไม่กี่มุม ส่วนใหญ่จะเป็นมุม 45 องศา และ 90 องศา ซึ่งก่อนที่จะลงมือถ่ายภาพควรต้องคำนึงถึงรูปลักษณ์ของอาหารก่อนว่าเป็นอาหารชนิดใด มีลักษณะอย่างไร เพราะอาหารบางอย่างจะดูสวยและน่ากินเมื่อถ่ายจากด้านหน้า บางอย่างจะดูดีเมื่อถ่ายลงมาจากด้านบน
ยกตัวอย่างเช่น ขนมคัพเค้ก ถ้าเราถ่ายจากด้านบนเราจะเห็นปริมาณของขนมว่ามีกี่ชิ้น และเห็นในส่วนที่เป็นวิปครีมขาวบนคัพเค้ก พร้อมองค์ประกอบอื่น ๆ แต่ถ้าเราถ่ายมุมเฉียงจะมองเห็นชั้นของวิปครีมอย่างชัดเจน ซึ่งเพิ่มมิติของขนมให้ดูโดดเด่น น่ากินมากยิ่งขึ้น
5. ใส่ใจกับแสงและเงา
เรื่องของแสงเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ภาพถ่ายอาหารดูสวยน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดเงาที่ช่วยเพิ่มมิติขึ้นอีกด้วย โดยแสงในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งแสงไฟประดิษฐ์ เช่น แสงไฟในร้านอาหาร หรือแสงจากธรรมชาติ แต่หากจะให้แนะนำแล้ว แสงธรรมชาติจะควบคุมได้ง่ายและเหมาะสมที่สุดที่จะถ่ายภาพอาหารให้ออกมาดูสวย เพราะแสงมีความนุ่มนวล ช่วยให้สีของอาหารเป็นกลาง มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทว่ามีข้อยกเว้นที่ไม่แนะนำก็คือ การไปถ่ายกลางแสงแดดจัดในเวลากลางวัน
ส่วนแสงประดิษฐ์ที่ควบคุมได้ยาก เช่น แสงไฟในร้าน ก็สามารถใช้ถ่ายภาพได้เช่นกัน แต่ความยากอยู่ที่สีของแสงไฟที่อาจทำให้สีของอาหารผิดเพี้ยนไปจากสีจริง แต่อย่างไรก็ตาม ในสมาร์ตโฟนหลาย ๆ รุ่นนั้นมีระบบ AI ที่ช่วยในเรื่องการปรับแสงได้ดีพอสมควร แม้ต้องถ่ายภาพในที่แสงสีไม่เป็นธรรมชาติ หรือแสงที่น้อยหรือแสงจ้าเกินไป
6. เรื่องของจังหวะและเวลา
การถ่ายภาพด้วยมือถือก็ไม่ต่างจากการใช้อุปกรณ์อื่น ๆ สิ่งหนึ่งที่ผู้ถ่ายภาพต้องไม่ลืมก็คือเรื่องของจังหวะและเวลา ซึ่งในการเก็บภาพอาหาร หรือช่วงเวลาบนโต๊ะอาหาร บางครั้งก็มีโอกาสและจังหวะที่ต้องเตรียมตัวให้ดีเช่นกัน อย่างเช่นกรณีของการถ่ายภาพถ้วยซุป ก๋วยเตี๋ยว ข้าว หรืออาหารที่ปรุงสุกใหม่ที่กำลังมีไอร้อนพวยพุ่งแล้วเราต้องการถ่ายให้ติดควัน หรือแม้แต่ภาพไอศกรีมที่ยิ่งต้องรีบถ่ายก่อนที่จะละลายเช่นกัน
7. ใส่เรื่องราวลงในภาพ เพิ่มความน่ากินให้อาหาร
.jpg)
จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็น่าจะเพียงพอในการถ่ายภาพอาหารให้ออกมาดูดี ดูสวยแล้ว แต่ยังมีอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ ยั่วน้ำลายเพื่อน ๆ ในโลกโซเชียลได้อีก นั่นก็คือการใส่ท่าทางการตักอาหารหรือแอ็คชั่นต่าง ๆ เพิ่มเข้าไป เช่น กำลังใช้มีดหั่นสเต๊ก, เทน้ำสลัดลงบนผัก, ใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตีขึ้นมา หรือหยิบพิซซ่าที่ชีสกำลังยืด เพราะสิ่งเหล่านี้คือการเพิ่มความมีเรื่องราวให้กับอาหารของเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
8. แต่งภาพสักนิด ใช้ฟิลเตอร์สักหน่อย
ในส่วนของการใช้ฟิลเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจของแต่ละคน ทว่าการปรับแต่งภาพนั้นมีข้อดีก็คือ ช่วยทำให้แสง สี ความคมชัดของภาพดียิ่งขึ้น โดยปัจจุบันนี้มีแอปพลิเคชันแต่งภาพฟรีให้เลือกมากมาย และที่สำคัญใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นหลักเบื้องต้นสำหรับการถ่ายภาพอาหารให้ออกมาสวยดูดีน่ากินด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ แต่อย่าลืมว่าการถ่ายภาพนับเป็นเรื่องของทักษะอย่างหนึ่ง การฝึกฝนใช้มือถือถ่ายภาพเป็นประจำยิ่งเป็นการเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่สวยถูกใจในสไตล์ที่ต้องการได้
ขอบคุณข้อมูลจาก iphonephotographyschool.com, lifestyleasia.com, digital-photography-school.com
