เปรียบเทียบ Galaxy S20 Ultra 5G กับ Galaxy S10 5G มือถือรุ่นท็อปพร้อม 5G

           เปรียบเทียบสเปกรุ่นท็อป Samsung Galaxy S20 Ultra 5G กับ Samsung Galaxy S10 5G รุ่นไหนดี มีอะไรแตกต่างกันบ้าง มาดูกัน

           อีกไม่นาน คลื่นความถี่ 5G กำลังจะเปิดให้บริการที่ไทยในอีกไม่ช้า แต่ก่อนจะใช้งาน 5G ก็ต้องมีมือถือ 5G ไว้สำหรับใช้งานกันเสียก่อน ซึ่งมือถือเรือธงรุ่นท็อปของซัมซุงก็เริ่มมีรุ่น 5G ออกมาบ้างแล้ว วันนี้เราก็เลยจะมาสเปกเรือธงรุ่นล่าสุดกับรุ่นก่อนหน้าที่อย่าง Galaxy S20 Ultra 5G กับ Galaxy S10 5G ให้ได้ดูกัน มาดูกันดีกว่าว่าสเปก ฟีเจอร์ และความเป็นมือถือ 5G ของ 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง อ่านแล้วก็ลองพิจารณาได้เลยว่าเลือกใช้รุ่นไหนดี

ดีไซน์

           Galaxy S20 Ultra 5G มีขนาดตัวเครื่องที่ยาวและหนากว่า Galaxy S10 5G เล็กน้อย มีความกว้างที่ไล่เลี่ยกัน น้ำหนักตัวเครื่อง Galaxy S20 Ultra 5G หนักกว่า 22 กรัม ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอขอบบาง แต่ Galaxy S20 Ultra 5G เลือกหน้าจอแบบ Punch-Hole 6.9 นิ้ว จัดวางกล้องไว้ตรงกลาง ส่วน S10 Ultra 5G ใช้หน้าจอ Infinity Display 6.7 นิ้ว เจาะรูสำหรับกล้องหน้าบริเวณมุมขวาบน

หน้าจอ

           Galaxy S20 Ultra 5G เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบใหม่ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+ และรีเฟรชเรต 120Hz แต่หน้าจอ Galaxy S10 5G ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยหน้าจอ Dynamic AMOLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3040 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 ซึ่งในแง่ของมุมมอง การแสดงผล ถือว่าทำได้ดีทั้งสองรุ่น

สเปก

          สเปกภายใน Samsung Galaxy S20 Ultra 5G อัปเกรดขึ้นจาก Galaxy S10 Series เป็นอย่างมาก ด้วยชิปเซต Exynos 990 และแรม 12GB แตกต่างจาก Galaxy S10 5G ที่ใช้ชิปเซต Exynos 9820 และแรม 8GB ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานและประมวลผล Galaxy S20 Ultra 5G ถือว่าทำมาได้ดีกว่าเพราะเป็นรุ่นใหม่กว่า

กล้อง

           ทั้ง Galaxy S20 Ultra 5G และ Galaxy S10 5G ใช้กล้องหลัง 3 ตัว ทั้งเลนส์ Wide เลนส์ Ultrawide เลนส์ Telephoto และกล้อง TOF เหมือนกัน แต่ Galaxy S20 Ultra 5G ชูจุดเด่นที่ความละเอียดภาพสูงถึง 108 ล้านพิกเซล และการซูมภาพได้สูงสุด 100 เท่า ร่วมกับการซูมแบบดิจิทัล ส่วนกล้องหน้าของ Galaxy S10 5G ถือว่าได้เปรียบกว่า เพราะมีกล้อง TOF (RGB Depth) สำหรับเซลฟี่แบบชัดลึก หน้าชัดหลังเบลอสวย

ความจุ

           พื้นที่ความจุของ Galaxy S20 Ultra 5G ในไทยมีเฉพาะรุ่น 128GB เท่านั้น ส่วน Galaxy S10 5G มีทั้งรุ่นความจุ 256GB และ 512GB ให้เลือก แต่ Galaxy S20 Ultra 5G ได้เปรียบในเรื่องของการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก microSDXC ได้สูงสุด 1TB ทำให้ได้พื้นที่สูงสุดมากกว่า

แบตเตอรี่

           แบตเตอรี่ของ Galaxy S20 Ultra 5G มีความจุที่ 5,000mAh ส่วน Galaxy S10 5G ใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh ซึ่งถือว่าเป็นมือถือที่มีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่ามาตรฐานทั้งคู่ อีกทั้งยังรองรับการชาร์จมือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน Reverse Charging อีกด้วย แต่ Galaxy S20 Ultra 5G ชาร์จไฟได้เร็วกว่าที่ 45W ในขณะที่ Galaxy S10 5G ชาร์จเร็วได้ที่ระดับ 25W

ฟีเจอร์อื่น ๆ

           ทั้ง Galaxy S20 Ultra 5G และ Galaxy S10 5G รองรับการสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic บนหน้าจอ รวมถึง Bixby คำสั่งเสียงอัจฉริยะ แต่น่าเสียดายที่จุดเด่นของทั้งคู่อย่างการใช้งาน 5G ยังไม่สามารถใช้งานได้ในไทย คาดว่าต้องรอทางเครือข่ายมือถือเปิดให้ใช้บริการ 5G ในอนาคตต่อไป

           ใครที่ต้องการมือถือ 5G เพื่อเตรียมตัวใช้งานเครือข่ายใหม่ในอนาคต ดูท่าแล้ว Samsung Galaxy S20 Ultra 5G จะมีอนาคตไกลกว่า เนื่องจากเป็นมือถือที่เพิ่งเปิดตัว สเปกการใช้งานที่อยู่ในระดับท็อป ส่วน Galaxy S10 5G ถึงแม้จะเป็นรุ่นเก่าแล้ว แต่ในแง่ของสเปกและการใช้งานก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก gadgetsnow.com, gsmarena.com, pocket-lint.com
ภาพจาก samsung.com

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing
คลิกดูรายละเอียดกันเลย