10 มือถือน่าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo 2020

          มือถือปี 2020 น่าซื้อน่าใช้ในงาน Thailand Mobile Expo 2020 วันที่ 30 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ไบเทค บางนา เช็กเลย มือถือน่าซื้อที่งาน Thailand Mobile Expo 2020 มีรุ่นไหนน่าโดนบ้าง

          กลับมาอีกครั้งกับ Thailand Mobile Expo 2020 งานมหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ไบเทค บางนา ภายในงานยังคงคึกคักไปด้วยมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่ขนกันมาวางจำหน่ายหลายรุ่น พร้อมโปรโมชั่นโดน ๆ ของแถมเพียบ รวมถึงแก็ดเจ็ตสุดล้ำที่มีให้ได้ชมกันอย่างมากมาย

          สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่ หรือตัดสินใจไม่ถูกไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี วันนี้กระปุกดอทคอมมี 10 มือถือน่าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo 2020 มาแนะนำ มีให้เลือกหลายราคา แล้วมาลุ้นกันว่าจะมีโปรโมชั่นอะไรเด็ด ๆ ภายในงานบ้าง ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้าง มาเช็กก่อนซื้อกันเลย

1. Samsung Galaxy A51

 

          มือถือใหม่ดีไซน์ใหม่พร้อม 4 กล้อง โดยจุดเด่นของทั้งสองรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ด้านหลังเครื่องที่มีการไล่โทนสีแบบลายเพชร ดูดีมีเอกลักษณ์ พร้อมโมดูลกล้องหลังแบบสี่เหลี่ยม มีหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ใช้ซีพียู Exynos 9611 กล้องหลัง 4 เลนส์ โดยมีเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W

ราคาปกติ 10,490 บาท

2. Huawei P30

          มือถือเรือธงซีรีส์ P รุ่นใหม่ ประจำปี 2019 จัดหนักจัดเต็มเรื่องกล้องทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกก้าว และยังคงร่วมมือกับ Leica เหมือนเดิม โดย Huawei P30 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว (Leica Triple Camera) เซ็นเซอร์ Super Spectrum, กล้องหลัก 40 ล้านพิกเซล (เลนส์มุมกว้าง, รูรับแสง f/1.8) + 16 ล้านพิกเซล (เลนส์มุมกว้างพิเศษ, รูรับแสง f/2.2) + 8 ล้านพิกเซล (เทเลโฟโต้, รูรับแสง f/2.4, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว), รองรับการโฟกัสอัตโนมัติ (โฟกัสเลเซอร์, โฟกัสเฟส, โฟกัสคอนทราสต์), รองรับ AIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวปัญญาประดิษฐ์ของ Huawei), รองรับการซูม 3 เท่า Optical Zoom, 5 เท่า Hybrid zoom และ 30 เท่า Digital zoom ส่วนกล้องหน้า มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อม AI HDR+ ยกระดับการถ่ายภาพเซลฟี่ให้สวยขึ้น

ราคาปกติ 21,990 บาท

3. realme XT

          มือถือระดับกลาง กล้องหลัง 4 ตัว มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED อัตราส่วนการแสดงผล 91.9% กระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 712, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, f/1.8 + กล้อง 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide) ขนาดพิกเซล 1.12μm, f/2.25 + กล้อง 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และกล้อง 2 ล้านพิกเซล (4cm macro) ขนาดพิกเซล 1.75μm, f/2.4

ราคาปกติ 10,999 บาท

4. realme X2 Pro

          มือถือเรือธงรุ่นแรกของค่าย สเปกจัดสุด กล้องจัดเต็ม มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.7%, รองรับ HDR10+, DC Dimming 2.0, 90Hz refresh rate, 135Hz touch sampling rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, ระบายความร้อนด้วยของเหลวพร้อมคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, รูรับแสงกว้าง f/1.8, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 115 องศา (Ultra-wide) สามารถถ่ายมาโคร 2.5cm, 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับซูม 20 เท่า แบบ Hybrid และ 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Depth, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

ราคาปกติ 19,990 บาท

5. Xiaomi Mi Note 10 Pro

          มือถือรุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัว ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว AMOLED ขอบโค้ง ความละเอียด Full HD+ ขอบด้านล่างเล็กลง 3.43 มิลลิเมตร ใช้ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android ครอบทับด้วย MIUI 11, ดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D glass, รองรับ NFC, ลำโพง 1cc, Hi-Res audio และแบตเตอรี่ 5,260mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์ เคลมว่าสามารถชาร์จ 58% ในเวลา 30 นาที และ 100% ในเวลา 65 นาที

ราคาปกติ 19,990 บาท

6. Xiaomi Mi 9T Pro

          มือถือที่มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 91.9% ขอบบางเฉียบ 2.1 มิลลิเมตร, ซีพียู Snapdragon 855, แรมสูงสุด 8GB, ระบายความด้วยแผ่นกราไฟท์ 3 มิติ 8 ชั้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto และ 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra-wide มุมกว้าง 124.8 องศา กล้องหน้าป๊อปอัพ 20 ล้านพิกเซล พร้อมฝาครอบเลนส์แซฟไฟร์ เคลมว่าใช้เวลาสไลด์กล้องแค่ 0.8 วินาที และกลไกของกล้องยังแข็งแรงผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 300,000 ครั้ง

ราคา 13,990 บาท (แรม 6GB + 64GB)
ราคา 14,990 บาท (แรม 6GB + 128GB)

7. Xiaomi Black Shark 2 Pro

          มือถือเกมมิ่งรุ่นอัปเกรดจาก Black Shark 2 ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus และหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 รวมถึงปรับดีไซน์ตัวเครื่องใหม่เล็กน้อย โดยเฉพาะด้านหลังที่ออกแบบใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจาก F1 รวมถึงเอฟเฟกต์แสงไฟแบบใหม่ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, รองรับ HDR, มีค่า touch latency อยู่ที่ 34.7ms (ของเดิม 43.5ms) รวมถึงมีการปรับอัลกอริทึมแบบสัมผัสโดยเฉพาะสำหรับการเล่นเกมและ DC dimming 2.0, ระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่ Liquid cooling 3.0 ที่สามารถลดอุณหภูมิของซีพียูได้ถึง 14 องศาเซลเซียล, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, กล้องหลังคู่ 48 + 12 ล้านพิกเซล รองรับการซูม 2 เท่า แบบ Optical, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 27 วัตต์ ชาร์จแค่ 5 นาที สามารถเล่นเกมได้ 30 นาที

ราคาปกติ 19,900 บาท

8. Vivo V17

          มือถือที่มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 90% ความละเอียดหน้าจอ Full HD+ และด้วยการทำงาน self-illuminating ของหน้าจอ AMOLED บน S1 Pro มาพร้อมกับฟังก์ชัน Always On Display รวมถึงการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้ซีพียู Snapdragon 665 Octa-core, แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB และแบตเตอรี่ 4,500mAh ชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging กล้องหลัง 4 ตัว โฉมใหม่ทรงข้าวหลามตัด AI Quad Camera กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Wide-angle เลนส์ Macro และเลนส์ Bokeh กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพคมชัดยิ่งขึ้น

ราคาปกติ 11,999 บาท

9. OnePlus 7T

          มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสำหรับครึ่งปีหลัง 2019 โดยรุ่นนี้อัปเกรดสเปกให้ดีกว่า OnePlus 7 มาพร้อมหน้าจอ 6.55 นิ้ว Fluid AMOLED ความละเอียด Full HD+, มีติ่ง, รองรับ 90Hz refresh rate, HDR10+, อัตราส่วน 20:9, กระจก 3D Corning Gorilla Glass, ซีพียู Octa-Core Snapdragon 855 Plus, แรม 8GB, ระบบระบายความร้อน Graphite heat sink, รัน Android 10.0 ครอบทับด้วย OxygenOS 10 กล้องหลัง 3 ตัว ดีไซน์ใหม่แบบวงกลม ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, กันสั่น OIS, 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 117 องศา สามารถถ่ายมาโครได้ 2.5 macro และ 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับการซูม 2 เท่า แบบ Optical zoom รวมถึงมี Nightscape Mode, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471

ราคาปกติ 17,990 บาท

10. OPPO Reno 10x Zoom

          มือถือสเปกระดับเรือธงที่มาพร้อมหน้าจอแบบไร้ขอบและกล้องหน้าแบบป๊อปอัพ โดยกล้องหน้าจะสไลด์ขึ้นมาตอนที่เปิดโหมดกล้องหน้า ส่วนลำโพงนั้นก็ถูกนำไปไว้รวมกับกล้องหน้าเช่นกัน ทำให้ได้หน้าจอแบบไร้ขอบโดยไม่ต้องมีติ่ง มาพร้อมกล้อง 3 เลนส์และความสามารถในการซูมแบบไฮบริด 10 เท่า หรือซูมได้สูงสุดถึง 60 เท่าจากระยะปกติ รวมทั้งมีระบบกันสั่น OIS ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้สบาย ๆ แม้มือไม่นิ่ง กล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ส่วนการถ่ายเซลฟี่นั้นก็ยังมี AI ช่วยปรับแต่งภาพให้ดูผิวสวยหน้าใสได้อัตโนมัติ สำหรับกล้องป๊อปอัพนั้นทาง OPPO โฆษณาว่าสามารถสไลด์ออกมาได้รวดเร็วทันใจเมื่อต้องการใช้งาน ใช้เวลาในการสไลด์เพียง 0.8 วินาที และผ่านการทดสอบมาแล้วมากกว่า 2 แสนครั้ง

ราคาปกติ 28,990 บาท

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง

ภาพและข้อมูลจาก thailandmobileexpo.com

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing
คลิกดูรายละเอียดกันเลย