9 สิ่งที่สาวก iPhone ต้องการและอยากให้มีใน iPhone 12 เสียที หลังผิดหวังกับ iPhone 11
ถึงแม้ว่า iPhone 11 (รวมทั้ง iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max) จะเปิดตัวและวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน แต่ก็คงจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังเพราะฟีเจอร์ที่อยากได้ไม่ได้มาพร้อมกับ iPhone 11 อย่างที่หวังเอาไว้ จึงต้องรอและคาดหวังกันต่อไปว่าจะได้พบเจอกันใน iPhone 12 โดยในวันนี้เราก็มี 9 สิ่งที่ควรมีใน iPhone 12 จากเว็บไซต์ makeuseof มาให้ได้อ่านกัน จะตรงใจใครบ้างลองไปดูกันเลย
1. ติ่งเล็กกว่าเดิม
ตั้งแต่ iPhone X ที่แอปเปิลได้ตัดปุ่ม Home และ Touch ID ออก โดยใส่ Face ID มาแทน และทำหน้าจอแบบไร้ขอบ ทำให้ต้องมีเว้นติ่งไว้ด้านบนของหน้าจอเพื่อฝังกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน iPhone 11 ก็ยังคงมีติ่งอยู่ขนาดเท่าเดิม ในขณะที่แบรนด์อื่นมีติ่งที่เล็กกว่า ถ้าหาก iPhone 12 แอปเปิลทำให้ติ่งเล็กลงกว่าเดิมได้ก็คงจะดีไม่น้อย
2. รองรับ 5G
ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งมือถือหลายแบรนด์ก็เริ่มออกรุ่นที่รองรับ 5G ออกมากันมาบ้างแล้ว แต่แอปเปิลก็ยังไม่มี iPhone ที่รองรับ 5G ออกมาเลย ถึงแม้ว่าปัจจุบันเครือข่าย 5G จะยังไม่แพร่หลาย แต่กว่าจะถึงวันที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone 12 ก็ควรจะรองรับ 5G ได้แล้วล่ะ
3. ดีไซน์แบบใหม่
ตั้งแต่ iPhone 6 มาแอปเปิลก็ใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบขอบโค้งบนมาตลอด แม้ตั้งแต่ iPhone X จะทำหน้าจอแบบไร้ขอบมีติ่ง แต่บอดี้ตัวเครื่องก็ยังมีรูปทรงแบบเดิม ๆ ถ้าหาก iPhone 12 แอปเปิลลองเปลี่ยนดีไซน์ให้แตกต่างไปจากเดิมก็น่าจะมีความสนใจมากขึ้น
4. หน้าจอ ProMotion
เทคโนโลยีหน้าจอแบบ ProMotion ที่แอปเปิลใช้กับ iPad Pro นั้นทำให้สามารถแสดงผลได้สูงสุด 120Hz ซึ่งทำให้การแสดงภาพเคลื่อนไหวดูลื่นไหลมากขึ้น ต่างกับมือถือทั่วไปรวมทั้ง iPhone ปัจจุบันที่หน้าจอยังเป็นแค่ 60Hz ซึ่งถ้าหาก iPhone 12 ใช้หน้าจอ ProMotion บ้างก็จะทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลขึ้น เล่นเกมดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
5. พอร์ต USB-C
ในขณะที่อุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลเริ่มเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C แทนแล้ว แต่ iPhone 11 ปัจจุบันก็ยังใช้พอร์ต Lightning อยู่ แอปเปิลจึงควรเปลี่ยน iPhone 12 ให้มาใช้พอร์ต USB-C เสียที เพื่อที่จะได้สามารถใช้สายชาร์จและอุปกรณ์เสริมร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก แถมยังมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าด้วย
6. แชร์แบตเตอรี่ไร้สาย
ปัจจุบันมือถือระดับเรือธงหลายแบรนด์มีฟีเจอร์แชร์แบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จให้อุปกรณ์อื่นแบบไร้สายกันได้แล้ว แต่ iPhone 11 ล่าสุดก็ยังไม่สามารถทำได้ ถ้าหาก iPhone 12 มีฟีเจอร์แชร์แบตเตอรี่ไร้สายบ้างก็น่าจะทำให้การชาร์จ AirPods หรือ Apple Watch นั้นสะดวกขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ
7. หน้าจอเล็กและใหญ่กว่าเดิม
ขนาดหน้าจอของ iPhone นั้นมีขนาดเท่าเดิมมาหลายต่อหลายรุ่น ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีให้เลือกถึง 3 ขนาด แต่ก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากได้หน้าจอเล็กกว่าหรือใหญ่กว่านี้อีก จึงเป็นเรื่องดีถ้าหาก iPhone 12 จะมีขนาดหน้าจอที่แตกต่างไปจากเดิม ทั้งขนาดที่เล็กลงและใหญ่ขึ้น
8. ความจุเริ่มต้นมากขึ้น
ความจุเริ่มต้นของ iPhone 11 นั้นคือ 64GB ซึ่งในยุคนี้ก็อาจจะไม่ค่อยพอสำหรับหลาย ๆ คนแล้ว แถม iPhone ยังไม่สามารถใส่ microSD เพิ่มได้อย่างมือถือแบรนด์อื่น ๆ อีก เมื่อพื้นที่ในเครื่องเต็มจึงทำให้ลำบากพอสมควร อย่างน้อย iPhone 12 ก็ควรจะมีความจุเริ่มต้น 128GB
9. Touch ID
Touch ID ที่หายไปพร้อมกับปุ่ม Home ตั้งแต่ iPhone X อาจจะกลับมาใน iPhone 12 ด้วยรูปแบบใหม่ที่ฝังเซ็นเซอร์ไว้ใต้หน้าจอก็ได้ ซึ่งการสแกนลายนิ้วมือด้วย Touch ID นั้นทั้งสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยกว่าการสแกนใบหน้าด้วย Face ID หรือถ้าหากจะมีทั้ง Touch ID และ Face ID ให้ใช้ควบคู่กันไปเลยก็น่าจะดีไม่น้อย
ข้อมูลจาก makeuseof.com
