เช็กเลยมือถือเล่นเกม ปี 2019 มือถือที่ใช้ซีพียู Snapdragon 665 สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือเล่นเกมซีพียู Snapdragon 665 ราคาถูก มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง
ก่อนหน้านี้แนะนำมือถือเล่นเกมที่ใช้ซีพียู Snapdragon 660 และ Snapdragon 710 ประจำปี 2019 ไปแล้ว ส่วนรอบนี้มาถึงคิวมือถือสายเกมที่ใช้ซีพียู Snapdragon 665 กันบ้าง สำหรับซีพียูรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มาแทน Snapdragon 660 ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี 14 นาโนเมตร มาเป็นเทคโนโลยี 11 นาโนเมตร พร้อมจีพียู Adreno 610 รุ่นใหม่ ทำให้มือถือที่ใช้ซีพียูรุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ได้ดีขึ้น
และใครที่กำลังมองหามือถือที่เอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะ อยากจะเล่นเกมแบบไม่หัวร้อน เล่นลื่นไม่มีสะดุด พร้อมกับสเปกคุ้มค่า มาดูกันว่ามือถือที่ใช้ซีพียู Snapdragon 665 มีรุ่นไหนให้เลือกซื้อบ้าง
1. Realme 5
.jpg)
มือถือราคาประหยัดอีกรุ่นที่ปรับสเปกจากรุ่น Realme 5 Pro แต่ก็ยังคุ้มค่า โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งหยดน้ำเล็ก ๆ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89% มีกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ความจุมากถึง 5,000mAh สามารถสแตนด์บายได้ 29.9 วัน คุยต่อเนื่อง 49 ชั่วโมง ใช้ซีพียู Snapdragon 665 11nm แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB/128GB และรัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, รองรับ AI Scene recognition + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 119 องศา (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) + 2 ล้านพิกเซล (4cm macro) วัสดุตัวเครื่องด้านหลังเป็นพลาสติกสีแบบ Holographic และลวดลาย Crystal Design ใช้เทคนิคที่ทำให้เหมือนกับกระจก รวมถึงเคลือบสารกันน้ำ และมีแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10 วัตต์
ราคา 5,999 บาท (แรม 6GB/128GB), 4,599 บาท (แรม 3GB/64GB)
2. Xiaomi Mi A3
.jpg)
มือถือที่เข้าร่วมโครงการ Android One ของ Google สานต่อจาก Xiaomi Mi A2 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยรอบนี้ทาง Xiaomi ได้ยกดีไซน์และสเปกทั้งหมดมาจากรุ่น Xiaomi CC9e ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+ AMOLED, ซีพียู Snapdragon 665, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB (UFS 2.1), รัน Android 9.0 (Pie) แบบ Pure Android, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 7 เพิ่มพื้นที่การสแกนถึง 15%, กล้องหลัง 3 ตัว ตามสมัยนิยม แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.79, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide angle) และ 2 ล้านพิกเซล (depth sensor) ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของซัมซุง ขนาดพิกเซล 1.6μm พร้อมโหมด AI Beautify และแบตเตอรี่ 4,030mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์
ราคา 6,999 บาท (แรม 4GB + 64GB), 7,999 บาท (แรม 4GB + 128GB)
3. Redmi Note 8
.jpg)
มือถือระดับกลาง สเปกคุ้มค่า ราคาสุดประหยัด อัปเกรดหลาย ๆ ส่วนให้ดีกว่า Redmi Note 7 หน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ LCD คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ได้รับการรองรับจาก TÜV Rheinland ช่วยเรื่องถนอมสายตา, ใช้ซีพียู Snapdragon 665 11nm, แรมสูงสุด 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลังอัปเกรดเป็น 4 ตัว แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 pixel เพื่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา, 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และ 2 ล้านพิกเซล (2cm macro), กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
ลำโพงได้รับการปรับปรุงให้เสียงดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน, มี Smart PA, สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังมีขนาดเล็กกว่ารุ่น Note 7 แต่ปลดล็อกได้เร็วขึ้น 30%, ตัวเครื่องใช้วัสดุ 2.5D Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และเคลือบสารกันน้ำ พร้อมแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์
ราคาประมาณ 5,990 บาท
4. Xiaomi CC9e
.jpg)
มือถือที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยปรับแต่งภาพให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงคนที่ต้องการมือถือที่มีแบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน ใช้หน้าจอ AMOLED ของซัมซุง ขนาด 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+, ใช้ซีพียู Snapdragon 665, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 7, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.79, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide angle) และ 2 ล้านพิกเซล (depth sensor) ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของซัมซุง ขนาดพิกเซล 1.6μm พร้อมโหมด AI beautify และแบตเตอรี่ 4,030mAh รองรับ QC 3.0 ชาร์จเร็ว 10 วัตต์
ราคาประมาณ 5,890 บาท
หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง และมือถือบางรุ่นยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย
