อัปเดต 35 มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนพฤษภาคม 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

          ต้อนรับหน้าฝน อัปเดต 35 มือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนพฤษภาคม 2019 มีมือถือใหม่เปิดตัวรุ่นไหนบ้าง มือถือใหม่ปี 2019 มีรุ่นไหนน่าซื้อ รุ่นไหนน่าใช้ เช็กเลย

         อัปเดตรับหน้าฝนกับมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนพฤษภาคม 2019 ต้องบอกเลยว่าตลาดมือถือในเดือนนี้ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ตลอดทั้งเดือนมีมือถือรุ่นใหม่ เปิดตัวมากมายหลายรุ่น จากหลากหลายแบรนด์ รวมถึงมือถือที่เปิดตัวกันตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนบางรุ่นก็เริ่มทยอยออกวางจำหน่ายไปบ้างแล้ว 

         สำหรับเดือนพฤษภาคม  2019 มีมือถือเปิดตัวใหม่มากถึง 35 รุ่นด้วยกัน ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ มาเช็กกันก่อนซื้อ ว่ามีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนที่โดนใจน่าจับจองเป็นเจ้าของกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกัน

1. Lenovo Z6 Lite

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ลงสู่ตลาดอีกรุ่น ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งานทั้งหมด 93.07% ซีพียู Snapdragon 710 แรมสูงสุด 6GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 16 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto ซูม 8 เท่า hybrid zoom + 5 ล้านพิกเซล Depth sensor, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามพื้นผิวเซรามิกด้วยเลเซอร์ 228 ชั้น กรอบโลหะผสมแมกนีเซียมขอบคล้ายกับโน้ตบุ๊ก ThinkPad, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,050mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์

ราคาประมาณ 5,090 บาท

2. OPPO A9x

          มือถือระดับกลาง A ซีรีส์ โดยรุ่นนี้มีดีไซน์และสเปกบางส่วนเหมือนกับรุ่น A9 ส่วนที่แตกต่างจะเป็นกล้องหลังคู่ที่มาพร้อมความละเอียด 48 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7, เทคโนโลยี 4-in-1 ขนาดพิกเซล 1.6μm ที่รวมภาพเดียวความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล ด้านสเปกของ OPPO A9x มาพร้อมหน้าจอติ่งทรงหยดน้ำ ขนาด 6.53 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD+, มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 90.70%, ซีพียู MediaTek Helio P70 ความเร็ว 2.1GHz Octa-Core, จีพียู Mali-G72 MP3 พร้อม Game Boost 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม, แรม 6GB หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล มีโหมด Night Scape 2.0 สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืน และแบตเตอรี่ 4,020mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0

ราคาประมาณ 9,290 บาท

3. Honor 20 และ Honor 20 Pro

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่จาก Honor แบรนด์ลูกของ Huawei ต้องบอกว่าทั้งสเปกและกล้องไม่น้อยหน้าจัดเต็มเหมือน Huawei P30 และ Huawei P30 Pro โดยจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่น อยู่ที่หน้าจอใหญ่ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ All-View display (เจาะรูฝังกล้องหน้า) มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 91.7% ซีพียู Kirin 980 พร้อม Dual NPU และ GPU Turbo 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Graphene Cooling Sheet ช่วยระบายความร้อนดีขึ้น 27% มีแรม 6GB/8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง และกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมโหมด 3D Portrait Lighting (อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ คลิกที่นี่)

ราคาประมาณ 17,900 บาท

4. Xiaomi Redmi Note 7S

          มือถือรุ่นอัปเกรดจาก Redmi Note 7 ที่มีสเปกโดยรวมเหมือนกันทุกประการ แต่ใช้สเปกกล้องเหมือนกับ Redmi Note 7 Pro โดยจะประกอบไปด้วยกล้องหลังคู่ 48 + 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล หน้าจอ 6.3 นิ้ว แบบติ่งหยดน้ำ ความละเอียด FHD+  ซีพียู Snapdragon 660 AIE octa-core แรม 3/4GB ความจุ 32/64GB แบตเตอรี่ 4,000mAh จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่กล้องหลังคู่ความละเอียด 48 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8, ใช้เทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ทำให้มีขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 1.6μm โดยได้ภาพคมชัดที่มีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล, ใช้เลนส์ 6 ชิ้น, PDAF, กันสั่น EIS สำหรับการถ่ายวิดีโอ, รองรับ Portrait และมี AI Dual ส่วนกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ AI Portrait selfie, AI beautify, AI Scene detection, Studio Lighting selfie และ AI face unlock

ราคาประมาณ 5,000 บาท

5. Huawei Mate 20 X (5G)

          มือถือที่มีดีไซน์และสเปกเหมือนกับ Mate 20 X ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วเกือบทุกประการ เป็นมือถือรุ่นใหญ่สุดของตระกูล Mate 20 ที่มาพร้อมจอใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว เจาะกลุ่มคอเกมมือถือ ซึ่งสิ่งที่ Mate 20 X (5G) มีความแตกต่างจากรุ่นเดิมก็คือรองรับสัญญาณ 5G และแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กลงเหลือ 4,200mAh

ราคาประมาณ 40,500 บาท

6. Vivo Y3

          มือถือซีรีส์ Y รุ่นใหม่ของ Vivo ที่มีสเปกบางส่วนเหมือนกับ Vivo Y17 ที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.35 นิ้ว LCD ความละเอียด HD+, Halo FullView Display (ติ่งหยดน้ำ), อัตราส่วน 19.3:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู MediaTek Helio P35, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง, ตัวเครื่องดีไซน์ไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีให้เลือก 3 สี คือ สีน้ำเงินไล่เฉด 2 สี กับสีชมพู แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ Dual-Engine Fast Charging

ราคาประมาณ 6,890 บาท

7. ASUS Zenfone 6

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ ASUS จัดเต็มทั้งสเปกและกล้อง มาพร้อมหน้าจอไร้ติ่ง ขนาด 6.46 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบจอบางสวยงาม คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 92% ใช้ซีพียู Snapdragon 855 แรมสูงสุด 8GB of RAM, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ZenUI 6 พร้อมการันตีอัปเดต Android Q และ Android R ในอนาคต สำหรับไฮไลต์ของรุ่นนี้อยู่ที่กล้องคู่หมุนได้ 90 องศา (Flip Camera) ใช้เป็นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ใช้เทคโนโลยี Quad Bayer ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สอง 13 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 125 องศา

ราคาประมาณ 17,690 บาท

8. Sony Xperia Ace

 

         มือถือระดับกลางขนาดเล็ก มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ใช้ซีพียู Snapdragon 630, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 (Pie), กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f/1.8 รองรับ AI Scene Detection, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา, ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IPX5 and IPX8, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง และแบตเตอรี่ 2,700mAh

ราคาประมาณ 14,000 บาท

9. Motorola One Vision

          มือถือระดับกลาง Android One รุ่นใหม่ และเป็นมือถือรุ่นแรกของ Motorola ที่มีดีไซน์ดูแตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอเจาะรูขนาด 6.3 นิ้ว แบบ CinemaVision ที่มีอัตราส่วน 21:9 พร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ตามสมัยนิยม และกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง รวมถึงรัน Android 9.0 Pie ที่การันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Google เป็นระยะเวลา 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 3 ปี

          จุดเด่นของ Motorola One Vision นอกจากจะเป็นมือถือเพียวแอนดรอยด์แล้ว เรื่องของกล้องยังปรับปรุงให้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยมีกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.8µm เทคโนโลยี Quad Pixel ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ส่วนกล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Night Vision, กันสั่น OIS, มีเทคโนโลยี Quad Pixel, ขนาดพิกเซล 1.6µm สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซล กล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 4D ใช้กระจก Corning Gorilla Glass ไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมแบตเตอรี่ 3,500mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้เต็ม ๆ วัน และยังรองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์ TurboPower ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง

ราคา 9,990 บาท

10. Realme X

          มือถือระดับท็อปรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ ด้านสเปกมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ไม่มีติ่ง อัตราส่วน 19.5:9 ขอบจอด้านข้างบาง 2.2 มิลลิเมตร ขอบด้านบนบาง 1.62 มิลลิเมตร คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.2% ใช้ซีพียู Snapdragon 710 แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, มีระบบระบายความร้อนด้วยเจลที่ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 15.2% ในหนึ่งชั่วโมง สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 6

          รุ่นนี้ใช้กล้องหลังคู่ 48 + 5 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586, รองรับ AI Scene Recognition, กล้องหน้าเซลฟี่ป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 เคลมว่ากล้องหน้าสามารถป๊อปอัพได้เร็วแค่ 0.74 วินาที และยังผ่านการทดสอบป๊อปอัพกว่า 200,000 ครั้ง ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีเป็นรูปตัว S คล้ายกับรุ่น Realme 3 Pro ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 3,765mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0

ราคาประมาณ 6,990 บาท

11. OnePlus 7 Pro 5G

          นอกจาก OnePlus จะเปิดตัว OnePlus 7 Pro และ OnePlus 7 แล้ว ทางบริษัทยังเปิดตัว OnePlus 7 Pro 5G ที่เป็นมือถือรุ่นแรกตามมาอีกด้วย โดยรุ่นนี้มีสเปกเหมือนกับตัว OnePlus 7 Pro แต่เพิ่มการรองรับ 5G เข้ามา และมีโลโก้ 5G อยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง สำหรับรุ่นนี้จะเริ่มทำตลาดกับเครือข่ายมือถือ EE ในสหราชอาณาจักร และ Elisa ในฟินแลนด์ก่อนเป็นที่แรก สำหรับ OnePlus 7 Pro 5G จะมีให้เลือกสีเดียว คือ Nebula Blue มาพร้อมกับแรม 8GB + หน่วยความจำ 256GB เท่านั้น

ราคายังไม่เปิดเผย

12. OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro

          OnePlus แบรนด์มือถือเจ้าของฉายานักฆ่าเรือธง (Flagship Killer) เปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro มือถือเรือธงรุ่นใหม่ สเปกจัดเต็มเหมือนเดิม พร้อมปรับโฉมดีไซน์ให้ดูสวยงามและพรีเมียมกว่าเดิม เริ่มต้นที่ OnePlus 7 Pro ที่เป็นรุ่นเด่นสุด มาพร้อมหน้าจอใหญ่ไร้ติ่งขนาด 6.67 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบใหม่ Fluid AMOLED ความละเอียด Quad HD+ มีอัตรารีเฟรช 90Hz และหน้าจอของ OnePlus 7 Pro ยังได้คะแนนที่ระดับ A+ ระดับเดียวกับ Galaxy S10+ และ Pixel 3 XL จาก DisplayMate อีกด้วย ส่วนทางด้าน OnePlus 7 จะใช้หน้าจอ Optic AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และมีติ่งเหมือนกับรุ่น OnePlus 6T

          ด้านสเปกใช้ซีพียูยอดฮิต Snapdragon 855 แรม 6GB/8GB/12GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB (UFS 3.0), ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว 10 ชั้น, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย OxygenOS 9.0, แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ Warp Charge 30 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 ถึง 48% ในเวลา 20 นาที, ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และมีสแกนนิ้วมือบนหน้าจอที่มีความรวดเร็วโดยใช้เวลาในการปลดล็อกแค่ 0.21 วินาที

ราคาประมาณ 21,000 บาท

13. Huawei Y9 Prime 2019

          หลังจาก Huawei เปิดตัว Huawei P Smart Z มือถือกล้องหน้าป๊อปอัพรุ่นแรกของแบรนด์ ล่าสุด Huawei ได้เปิดตัว Huawei Y9 Prime 2019 มือถือคู่แฝดเพิ่มอีกรุ่น ทั้งดีไซน์และสีสันตัวเครื่องเหมือนกันทุกอย่าง แต่มีจุดที่แตกต่าง Huawei Y9 Prime 2019 จะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว และหน่วยความจำสูงสุด 128GB นอกนั้นก็เหมือน ๆ กับรุ่น Huawei P Smart Z

ราคายังไม่เปิดเผย

14. Sharp AQUOS R3

          หลังจากเปิดตัว AQUOS R2 Compact เมื่อช่วงปลายปี 2561 ล่าสุด Sharp ประกาศเปิดตัว AQUOS R3 ยังคงเอกลักษณ์เป็นมือถือที่มี 2 ติ่งบนหน้าจอ ทั้งด้านบน-ด้านล่าง โดยติ่งด้านบนจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ส่วนด้านล่างมีลักษณะเป็นแถบสีดำคร่อมปุ่มโฮมและใช้สแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย ด้านสเปกยังอัปเกรดให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ส่วน โดยรุ่นนี้มีหน้าจอ IGZO LCD ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ พร้อม 120GHz refresh rate, ซีพียู Snapdragon 855, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 Pie, กล้องหลังคู่ 12.2 + 20.1 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 125 องศา, กล้องหน้า 16.3 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,200mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย

ราคายังไม่เปิดเผย

15. Huawei P Smart Z

          มือถือกล้องหน้าป๊อปอัพรุ่นแรกของ Huawei โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับ AI และกล้องหน้าป๊อปอัพสามารถสไลด์ขึ้นได้อย่างรวดเร็วแค่ 1 วินาที รวมถึงยังมีความแข็งแรงทนทานสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 12 กิโลกรัม ผ่านการทดสอบกว่า 100,000 ครั้ง และทนทานต่ออุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ถึง 60 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังปรับโฉมดีไซน์ใหม่ แทนที่จะเป็นการไล่เฉดสีเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ได้ปรับใหม่เป็นแบบทูโทน พร้อมขอบตัวเครื่องที่โค้งมนสวยงาม และมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ (Midnight Black), สีเขียว (Emerald Green) และสีฟ้า (Starlight Blue)

          สเปกมีหน้าจอขนาด 6.59 นิ้ว Huawei Ultra FullView ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9 ซีพียู Kirin 710, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD card, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคาประมาณ 9,990 บาท

16. Google Pixel 3a และ Pixel 3a XL

          กูเกิลสานต่อความสำเร็จจาก Google Pixel 3 และ Google Pixel 3 XL มือถือเรือธง เปิดตัว Google Pixel 3a และ Google Pixel 3a XL มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ ยังคงความเทพของกล้องถ่ายภาพด้วยพลัง AI ไม่แพ้รุ่นพี่เพราะใช้สเปกที่เหมือนกันทั้งหมด แถมหั่นราคาให้ถูกลงกว่าเดิมอีกด้วย ด้านสเปก Google Pixel 3a มีหน้าจอ OLED ขนาด 5.5 นิ้ว ส่วน Pixel 3a XL มีหน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ใช้ซีพียู Snapdragon 670, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, ชิปด้านความปลอดภัย Titan M Security, กล้องหลัง 12.2 ล้านพิกเซล, LED flash, Optical Image Stabilization (OIS), Dual Pixel auto focus, Night Sight, Top Shot, Super Res Zoom และ HDR+ กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI, รัน Android 9.0 (Pie), มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,000mAh กับ 3,700mAh ตามลำดับ รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์

ราคาประมาณ 12,790 บาท

17. ZTE Blade A7

          มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ จาก ZTE ชูจุดเด่นหน้าจอใหญ่ 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19: 9 ติ่งทรงหยดน้ำ พร้อมราคาสุดประหยัด เริ่มต้นไม่ถึง 3,000 บาท ด้านสเปกใช้ซีพียู MediaTek Helio P60 MT6771 2.0GHz Octa-core, แรม 2GB/3GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,200mAh

ราคาประมาณ 2,890 บาท

18. Vivo S1 Pro

          มือถือซีรีส์ S ที่เป็นซีรีส์ใหม่ของ Vivo โดยรุ่นนี้มีดีไซน์และสเปกบางส่วนเหมือนกับ Vivo V15 ล่าสุด Vivo ประกาศเปิดตัว Vivo S1 Pro เพิ่มอีกรุ่น โดยรุ่นนี้มีสเปกและดีไซน์สีสันเหมือนกับ Vivo V15 Pro แต่แตกต่างกันที่มีแรม 8GB กับหน่วยความจำ 256GB ให้เลือก มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (Pop-up Selfie) เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่มีกล้องหน้าความละเอียดสูงสุดเป็นรุ่นแรกของโลก ทาง Vivo เคลมว่าสามารถเปิดใช้งานได้เร็วแค่ 0.46 วินาที และมีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงและแรงบิดสูงสุดถึง 120 กิโลกรัม และผ่านการทดสอบกว่า 300,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ตามสมัยนิยม โดยแบ่งออกเป็น 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล พร้อม dual-tone LED flash และยังมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แน่นอนรุ่นนี้หน้าจอไม่มีติ่ง รอยบาก มากวนใจ เพราะกล้องหน้าถูกซ่อนอยู่ในรูปแบบป๊อปอัพ

ราคาประมาณ 12,790 บาท

19. Honor 20 Lite

          มือถือระดับกลาง สเปกและดีไซน์เหมือนกับ Honor 20i ที่เปิดในประเทศจีนไปก่อนหน้านี้ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.21 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90%, ซีพียู Kirin 710, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 24 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล พร้อม AI beautify ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และใช้แบตเตอรี่ 3,400mAh

ราคา 7,990 บาท

20. Wiko Jerry 4

          มือถือราคาถูกรุ่นใหม่ ระดับเริ่มต้นจาก Wiko ที่อัปเกรดมาจาก Wiko Jerry 3 โดยรุ่นนี้อัปเกรดหน้าจอใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่มีความจุมากกว่าเดิม และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Pie (Go Edition) ตั้งแต่แกะกล่อง ด้านสเปกมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ขอบจอบางลง เพื่อขยายความกว้างในการแสดงผล ความละเอียดแบบ HD+, มีลำโพงคู่ด้านหน้า, ซีพียู Quad-Core 1.3GHz, แรม 1GB, หน่วยความจำ 16GB, รองรับ microSD สูงสุด 32GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Face Beauty, HDR, Panorama, Live Filter, Time lapse, Burst Mode ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล + Selfie flash, ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ มีสแกนใบหน้า และแบตเตอรี่ 3,730mAh

ราคา 2,690 บาท

21. Samsung Galaxy A40s

          มือถือซีรีส์ A อีกรุ่นของ Samsung โดยรุ่นนี้ใช้หน้าจอ Infinity V ติ่งรูปตัว V และมีสเปกบางส่วนเหมือนกับ Galaxy M30 ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด HD+, ซีพียู Exynos 7904, แรม 6GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Samsung One UI, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 + 5 + 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์

ราคาประมาณ 7,100 บาท

22. Wiko Y60

          มือถือ Android 9 Pie (Go Edition) สำหรับคนชอบสายเพียวแอนดรอยด์พร้อมราคาสุดประหยัด ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.45 นิ้ว FWVGA + (960 x 480 พิกเซล), อัตราส่วน 18:9, ซีพียู 1.3GHz Quad Core, จีพียู IMG PowerVR GE8100, แรม 1GB, หน่วยความจำ 16GB, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Face Beauty, Live Filter, Time-Lapse, Live Portrait ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ฝาหลังไล่เฉดสีตามสมัยนิยม และแบตเตอรี่ 2,500mAh

ราคาประมาณ 2,890 บาท

23. Vivo Z3x

          มือถือซีรีส์ Z อีกรุ่นของ Vivo โดยรุ่นนี้ยังคงเจาะกลุ่มผู้ใช้มือถือระดับกลางที่ต้องการมือถือสุดคุ้ม ราคาประหยัด ด้านสเปกบางส่วนคล้ายกับรุ่น Vivo Z1 มาพร้อมหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบาก (notch) มีพื้นที่การใช้งาน 90% ของพื้นที่ตัวเครื่องทั้งหมด ใช้ซีพียู Snapdragon 660, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้องหลัง 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Vivo Multi-Turbo ที่เอาใจคอเกมอีกด้วย และแบตเตอรี่ความจุ 3,260mAh

ราคาประมาณ 5,690 บาท

24. Nubia Red Magic 3

          มือถือเกมมิ่งรุ่นที่ 3 ของค่าย สานต่อจาก Nubia Red Magic Mars โดยรุ่นนี้อัปเกรดสเปกใหม่ ไม่ว่าจะหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น แรมสูงสุด 12GB ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ และแบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิม มาพร้อมหน้าจอ 6.65 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+, รองรับ HDR 90Hz refresh rate, ซีพียู Snapdragon 855, แรมสูงสุด 12GB, หน่วยความจำสูงสุด 256GB และเคลมว่าเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพช่วยระบายความร้อนได้ถึง 500%

ราคาประมาณ 13,790 บาท

25. Honor 8S

          หลังจากเปิดตัว Honor 8A Pro มือถือระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม ล่าสุด Honor ประเทศรัสเซีย ประกาศเปิดตัว Honor 8S มือถือราคาสุดประหยัดเพิ่มอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 5.71 นิ้ว ความละเอียด HD+ DewDrop notch (ติ่งทรงหยดน้ำ) สัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 84.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22, แรม 2GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้า, ฝาหลังดีไซน์แบบทูโทน และแบตเตอรี่ 3,020mAh

ราคาประมาณ 4,290 บาท

26. OPPO A9

          มือถือระดับกลาง A ซีรีส์รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอติ่งทรงหยดน้ำ ขนาด 6.53 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD+, มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 90.70%, ซีพียู MediaTek Helio P70 ความเร็ว 2.1GHz Octa-Core, จีพียู Mali-G72 MP3 พร้อม Game Boost 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม, แรม 6GB หน่วยความจำ 128GB, รองรับ microSD, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 16 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล มีโหมด Night Scape 2.0 สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืนและแบตเตอรี่ 4,020mAh

ราคาประมาณ 8,000 บาท

27. Redmi Y3

          มือถือซีรีส์ Redmi อีกรุ่น หลังแยกตัวออกมาเป็นแบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่สานต่อมาจาก Redmi Y2 จัดอยู่ในกลุ่มมือถือราคาประหยัด เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่มีงบประมาณในการซื้อที่จำกัด สเปกของ Redmi Y3 บางส่วนเหมือนกับรุ่น Redmi 7 โดยมีหน้าจอขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด HD+ Dot Notch Display, ซีพียู Snapdragon 632, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลังคู่ 12 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ AI, กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี 4-in-1 pixel binning technology, รองรับ AI Portraits AI Beautify 4.0, และ AI Face unlock, ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5, ตัวเครื่องไล่เฉดสีตามสมัยนิยมแบบ Aura Prism Design มีให้เลือก 3 สี คือ Elegant Blue, Bold Red และ Prime Black นอกจากนี้ยังเคลือบสารกันน้ำ P2i nano coating ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคาประมาณ 4,590 บาท

28. Vivo Y17

          มือถือซีรีส์ Y รุ่นใหม่ มาพร้อมสเปกสุดคุ้มกับราคาไม่เกิน 10,000 บาท ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.35 นิ้ว LCD ความละเอียด HD+, Halo FullView Display (ติ่งหยดน้ำ), อัตราส่วน 19.3:9, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู MediaTek Helio P35, แรม 4GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, ตัวเครื่องดีไซน์ไล่เฉดสีตามสมัยนิยม มีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้า (Mineral Blue) และสีม่วง (Mystic Purple) แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ Dual-Engine Fast Charging กล้องหลัง 3 เลนส์ (AI Triple Camera) แบ่งเป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา (Super Wide-Angle) + 2 ล้านพิกเซล (Depth) ส่วนกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล พร้อม AI Face Beauty

ราคา 6,999 บาท

29. Meizu 16s

          มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ สานต่อจาก Meizu 16 และ Meizu 16 Plus อัปเกรดสเปกใหม่ ทั้งหน้าจอและกล้องให้ทันสมัยตามยุค ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ หน้าจอไม่มีติ่ง ขอบจอบาง 4.2 มม. คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 91.53%, ซีพียู Snapdragon 855, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, มีโหมด Hyper Gaming, รัน Flyme OS 8 พัฒนาจาก Android Pie พร้อม One Mind 3.0 AI, กล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, กันสั่น OIS, มี Night mode + 20 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX350, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล ปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า 0.2 วินาที, มี AI beauty รุ่นนี้ยังคงใช้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ มีแบตเตอรี่ 3,600mAh รองรับชาร์จเร็ว mCharge 24 วัตต์

ราคาประมาณ 16,000 บาท

30. Lenovo Z6 Pro

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่ จาก Lenovo ที่จัดเต็มทั้งสเปก กล้อง และฟีเจอร์แบบครบครัน มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 ติ่งทรงหยดน้ำ รองรับ HDR10 และ DCI-P3 รวมถึงระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ ดีไซน์ตัวเครื่องใช้วัดสุโลหะกับกระจก มีความเงางามและไล่เฉดสีสวยดูสะดุดตา รุ่นนี้ใช้ซีพียู Snapdragon 855 มีโหมด Game Turbo ที่จะช่วยเข้ามาจัดการในเรื่องของการเล่นเกมให้ลื่นไหล และยังมีระบบระบายความร้อน Liquid Cooling มีแรมสูงสุด 12GB หน่วยความจำสูงสุด 512GB รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ZUI 11 พร้อมแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 27 วัตต์ ชาร์จแค่ 15 นาที เล่นเกมได้นาน 2 ชั่วโมง

ราคาประมาณ 13,900 บาท

31. Huawei Y5 2019

          มือถือซีรีส์ Y ราคาถูก เพิ่มอีกรุ่น เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่ต้องการมือถือราคาประหยัดที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 5.71 นิ้ว Dewdrop Display (ติ่งทรงหยดน้ำ) ความละเอียด HD+, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 84.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22 MT6761 2.0GHz Quad-Core, แรม 2GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ แต่มีสแกนใบหน้า, ดีไซน์ตัวเครื่องมีรุ่นที่เป็นฝาหลังหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลและสีดำให้เลือก ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 3,020mAh ที่เคลมว่าฟังเพลงได้นาน 74 ชั่วโมง และดูวิดีโอต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง

ราคายังไม่เปิดเผย

32. OPPO A1k

          มือถือราคาประหยัด ระดับเริ่มต้นซีรีส์ A ของ OPPO ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ สัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 87.43% ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22, แรม 2GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4,000mAh

ราคา 3,999 บาท

33. Realme 3 Pro

          มือถือที่สานต่อจาก Realme 2 Pro อัปเกรดสเปก ปรับดีไซน์และสีสันของตัวเครื่องใหม่ มาพร้อมหน้าจอทรงหยดน้ำตามสมัยนิยม Dewdrop Full Screen ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีพื้นที่การใช้งาน 90.8%, กระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 710 AIE, แรมสูงสุด 6GB พร้อม Hyperboost 2.0 สำหรับสายเกมมิ่ง กล้องหลัง 16 + 5 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519, รูรับแสง f/1.7, รองรับ AI scene recognition, ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล (Ultra HD mode), กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี Super Pixel 4-in-1 รองรับ AI Selfie

ราคา 6,999 บาท

34. Realme C2

          มือถือซีรีส์ราคาประหยัด ระดับเริ่มต้นที่สานต่อจาก Realme C1 (2019) และ Realme C1 (2018) สำหรับรุ่นนี้มีการปรับโฉมหน้าจอใหม่ แทนรอยบากแบบกว้าง มาพร้อมหน้าจอ 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19.5:9 ติ่งทรงหยดน้ำ (Dewdrop display) มีพื้นที่การใช้งาน 89.35% ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22 แรมสูงสุด 3GB, หน่วยความจำ 16GB/32GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อม AI selfies ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ Diamond Cut มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงินกับสีดำ ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้า (AI Facial Unlock) ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 4,000mAh

ราคาประมาณ 2,790 บาท

35. Samsung Galaxy A60

          ปิดท้ายด้วยมือถือซีรีส์ A อีกรุ่นของ Samsung โดยรุ่นนี้ใช้หน้าจอ Infinity O เจาะรูเพื่อฝังกล้องหน้า มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, ซีพียู Snapdragon 675 Octa-Core, แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Samsung One UI, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 32 ล้านพิกเซล, f/1.7 + 5 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 123 องศา, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว

ราคาประมาณ 9,490 บาท

25 มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนเมษายน 2019 เช็กเลย รุ่นไหนเด็ด

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย